จะมีต่อยมวยอาทิตย์ละ 2 วัน พิลาทิส 2 วัน วิ่งทางไกล 1 วัน แล้วก็โยคะ 1 วัน ก็คือออกกำลังกายเกือบทุกวัน แต่ก็เป็นแบบวันละ 1 ชั่วโมง แล้วก็จะมีสลับคาร์ดิโอกับเวทเบา ๆ กับพิลาทิส ส่วนนั่งสมาธิ จะนั่งบ่อย ประมาณวันละ 15 นาที
ทำไมถึงจำกัดการเล่นโซเชียล แล้วส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพ
เล่นน้อยมากค่ะ ถ้าดูอินสตาแกรมของปู ปูจะสร้างคอนเทนต์น้อยมาก แล้วไม่ค่อยชอบแต่งรูป คือแต่งโดยใช้แอพโทรศัพท์นิด ๆ หน่อย ๆ แต่ไม่ได้แต่งเยอะ รู้สึกว่าอยากรู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ในแบบที่ตัวเองเป็น
การสร้างคอนเทนต์มันต้องใช้เวลาเป็นวัน ต้องมานั่งหาชุด เลือดชุด เอาช่างภาพมา เลือกภาพ แต่งภาพ ช่วงหลังรู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้แคร์ว่าคนติดตามจะมากขึ้นหรือจะลดลง ไม่ได้แคร์ว่าคนจะเข้ามาด่าหรือไม่ด่า ปูปลงกับทุกเรื่องแล้ว เพราะมองว่ามันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ก็คือการแสดงหนัง ได้ทำงานที่ตัวเองสนใจ ได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความจริง แล้วพอเราใช้ชีวิตแบบนี้ เราก็จะเฉย ๆ ช่วงหลังไม่ค่อยอินอะไรมาก นอกจากการดูตัวเองจริง ๆ ดูแลตัวเองอย่างถูกต้องด้วยนะ ไม่ได้ดูแลตัวเองเพื่อให้คนอื่นเห็น แต่ดูเพื่อตัวเอง ก็เลยมีลิมิตในการเล่นอินสตาแกรม เพราะการเล่นอินสตาแกรมทำให้เราต้องรับรู้พลังงานเต็มไปหมด เราดูชีวิตคนอื่นแล้วก็มาเปรียบเทียบ ธรรมชาติของมนุษย์คือการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบก็ทำให้เรามีความสุขน้อยลงในชีวิตจริง เพราะไม่มีใครมีความสุขจริง ๆ หรอก ไม่มีใครพร้อมขนาดนั้นจริง ๆ หรอก เราไม่ควรจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะมันทำให้เราไม่มีความสุขกับปัจจุบัน ชีวิตเราจะตายพรุ่งนี้รึเปล่าเรายังไม่รู้เลย บางคนคือเดินข้ามถนนก็โดนรถชนแล้ว แล้วเราจะเอาเวลามาทุกข์ทำไม ช่วงหลังก็เลยเฉยไปเลย ตอนเจอกระแสดราม่า คนติดตามตก ก็ช่างมัน ไม่ได้แคร์ เพราะเราต้องอยู่ในโลกของความจริง
คำว่า wellness สำหรับปู หมายถึงอะไร
ความหมายของปูคือ สุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นคนที่เล่นเวท มีซิกแพค หรือมีหุ่นเพอร์เฟกต์ แต่หมายถึงเวลาไปตรวจสุขภาพ น้ำตาลปกติใช่ไหม คอเลสเตอรอลปกติใช่ไหม ใช้ชีวิตในเชิงไม่เครียดใช่ไหม คอร์ติซอล (Cortisol หรือฮอร์โมนความเครียด) ระดับต่ำ เพราะไม่ได้เป็นคนเครียดมาก การฝึกหายใจให้เป็น การมีสมาธิ มันช่วยให้เรามีระบบหายใจที่ดีขึ้น การหายใจเป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อไหร่ที่มนุษย์เลิกหายใจ ถ้าหายใจไม่ได้ก็คือตาย เพราะฉะนั้นการหายใจสำคัญมาก
Wellness ที่แท้จริงสำหรับปู คือ believing (ความเชื่อ) exercise (การออกกำลังกาย) diet (อาหาร) และ mindset (กรอบความคิด) 4 อย่างนี้สำคัญมาก diet ก็คือการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นอาหารที่ทำให้เราผอม ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นอาหารที่เป็นคลีน แต่บอกว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่ามีสารอาหารครบถ้วน เลือกอาหารที่มันดีต่อเรา mindset ที่ดี ก็คือ Live with gratitude. Be gentle to yourself เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพ แค่ไหน
ตรวจค่ะ ตรวจตลอด ตรวจปีละครั้ง ปูเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องนี้มาก ตรวจคอเลสเตอรอล ตรวจค่าตับ ตรวจทุกอย่าง ตรวจบ่อยมากขึ้น เพราะอายุ 32 ย่าง 33 แล้วก็เลยต้องตรวจมากขึ้น ควรจะตรวจแมมโมแกรม (mammogram) ควรจะตรวจแปปสเมียร์ (pap smear) ตรวจทุก 6 เดือน ต้องดูแลตัวเอง เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเมื่อไหร่เราจะเจออะไรที่ผิดปกติ แล้วคนรุ่นใหม่เครียด เครียดตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แล้วมองว่าการดูแลตัวเองก็คือ จะกินอะไรก็กิน จะกินไวน์เพื่อคลายเครียด แต่จริง ๆ มันไม่ใช่ การดูแลตัวเองคือการหายใจให้ถูกต้อง ขยับร่างกายตัวเอง บางวันเวลาปูโดนคนด่าปูก็เครียดนะ เครียดปุ๊บก็ออกไปเดิน ปูรู้ว่า การทำงาน กินเยอะ อาหารที่กิน ความเครียด มันทำให้เราเป็นมะเร็งหรือเป็นโรคได้ การที่เราตรวจเจอเร็วก็แก้ได้เร็ว
คิดว่าทำไมผู้หญิงถึงไม่ค่อยไปตรวจสุขภาพกัน
เพราะมันเป็นความรู้สึกที่อึดอัด ปูเองก็ไม่ชอบ ไม่อยากไปตรวจ แต่มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราใส่ใจเรื่องพวกนี้ เพราะคนรุ่นใหม่เป็นมะเร็งเยอะมาก เยอะกว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่เราอีก ขนาดคลินิกผิวหนังเรายังเข้ากันได้บ่อยเลย ทำไมเรื่องร่างกายข้างในเราจะตรวจไม่ได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย