2. การรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด
ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) ยาต้านเกล็ดเลือด (Anti-platelet drugs) ยาเจือจางเลือด (Blood thinner) หรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย จะไปลดความสามารถในการแข็งตัวของเลือด และทำให้คุณเกิดรอยช้ำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ เช่น เพรดนิโซน (Prednisone) ก็เป็นสาเหตุให้หลอดเลือดบางลง และทำให้เกิดรอยช้ำง่ายขึ้นเช่นกัน หากคุณกินยาเหล่านี้แล้วพบรอยช้ำ อย่าหยุดกินยากะทันหัน แต่ควรปรึกษาแพทย์ทันที
3. ฟกช้ำ จากการขาดวิตามินซี
วิตามินซี เป็นสารอาหารที่จำเป็นในการเยียวยาและซ่อมแซมร่างกาย หากคุณได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ อาจทำให้คุณเกิดรอยช้ำได้ง่ายขึ้น การขาดวิตามินซี นอกจากจะทำให้คุณเป็นรอยช้ำง่ายแล้ว ยังทำให้แผลและรอยขีดข่วนต่างๆ หายได้ยากขึ้นอีกด้วย โดยปกติแล้ว การขาดวิตามินซีอย่างหนักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณอายุมาก หรือสูบบุหรี่
4. ปัจจัยทางกรรมพันธุ์
หากสมาชิกในครอบครัวคุณมีแนวโน้มเกิดรอยช้ำง่าย คุณก็มีโอกาสเกิดรอยช้ำได้ง่ายเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นผู้หญิง เพราะหลอดเลือดเปราะแตกง่ายกว่า จึงทำให้เกิดรอยช้ำง่ายกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในบริเวณต้นแขน ต้นขา หรือก้น
5. ถูกทำร้ายจากแสงแดด
ร่างกายเราควรได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ เพราะแสงแดดมีส่วนช่วยในการผลิตวิตามินดี และช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ แต่หากคุณได้รับแสงแดดมากเกินไป โดยเฉพาะรังสียูวีบี (UVB) ที่ทำให้ผิวไหม้แดด และสูญเสียความยืดหยุ่น ทั้งยังทำให้หลอดเลือดฝอยใต้ชั้นผิวหนังของคุณอ่อนแอลง จนทำให้คุณเกิดรอย ฟกช้ำ ได้ง่ายและเห็นได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง รอยช้ำที่เกิดจากแสงแดดนี้จะแตกต่างจากรอยช้ำที่เกิดจากการกระแทก เมื่อกดลงไปจะไม่นิ่มบุ๋ม และใช้เวลาในการรักษานานกว่า ส่วนใหญ่จะปรากฏที่มือและแขน
6. เป็นโรคเลือด
โรคเลือด เช่น โรคเลือดไหลไม่หยุด หรือฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) เป็นสาเหตุให้เลือดไม่ค่อยแข็งตัว จึงทำให้คุณเกิดรอยช้ำบ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ฉะนั้น หากคุณเกิดรอยช้ำกะทันหัน หรือมีรอยช้ำแบบไม่รู้ที่มาที่ไปบ่อยๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
7. ออกกำลังกายหนักเกินไป
บางครั้งการออกกำลังกายแบบเข้มข้นหรือหนักหน่วง เช่น การยกน้ำหนัก การวิ่งมาราธอน อาจทำให้กล้ามเนื้อของคุณทำงานหนักและตึงเกินไป จนเป็นเหตุให้หลอดเลือดแดงฉีกขาดและเกิดเป็นรอยช้ำได้ในที่สุด อีกทั้งการออกกำลังกายยังทำให้เกิดการฉีกขาดในระดับเนื้อเยื่อของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถทำให้เกิดรอยช้ำได้เช่นกัน และนอกจากเรื่องของกล้ามเนื้อที่กล่าวมาแล้ว ระหว่างออกกำลังกาย คุณอาจเผลอกระแทกกับอุปกรณ์ต่างๆ จนเกิดเป็นรอยช้ำได้ด้วย