สุขภาพ

สุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำหมวด

สำรวจ สุขภาพ

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

สูญเสียการทรงตัว สัญญาณเตือนทางสุขภาพ มีสาเหตุมาจากอะไร

หากวันใดวันนึงคุณรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของคุณมีความผิดปกติต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน วิ่ง ที่อาจทำให้ สูญเสียการทรงตัว หรืออ่อนแรงลง โปรดหยุดพักทำกิจกรรมทุกอย่างในทันที และมาร่วมศึกษาเกี่ยวกับอาการดังกล่าวได้ในบทความของ Hello คุณหมอ นี้ เพื่อทราบสาเหตุ รวมถึงการป้องกันตนเองเบื้องต้น ไปพร้อม ๆ กันค่ะ สาเหตุหลัก ที่ทำให้เรา สูญเสียการทรงตัว การสูญเสียการทรงตัว ถือว่าเป็นปัญหาที่ค่อนข้างส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยส่วนใหญ่มักเกิดมาจากสาเหตุหลักต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. โรคเส้นประสาทการทรงตัวในหูอักเสบ (Vestibular neuritis) ปัญหาสูญเสียการทรงตัว อาจเกิดจากการติดเชื้อของไวรัสที่เข้าไปทำลายเส้นประสาทส่วนหูชั้นใน จนคุณเสียสมดุลระหว่างเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าวนี้อาจหายไปได้เองโดยไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากคุณมีความกังวลถึงอันตรายอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าขอรับการรักษาจากแพทย์ได้ในทันทีโดยไม่ต้องรอ  2. โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (Benign paroxysmal positional vertigo ; BPPV) เมื่อมีการก่อตัวของผลึกแคลเซียม หรือหินปูนเข้าไปเกาะในส่วนของหูชั้นในที่หนาจนเกินไป บางครั้งก็อาจสามารถทำให้คุณเกิด ปัญหาสูญเสียการทรงตัว เสียสมดุลทางด้านการเคลื่อนไหว เวียนศีรษะ ภาวะนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากที่สุดในช่วงวัยผู้ใหญ่ 3. โรคเมเนียส์ (Meniere’s disease) หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ถึงโรคเมเนียส์ หรือโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ที่ส่งผลทำให้คุณมีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างกะทันหันรุนแรง สูญเสียการทรงตัว และการได้ยิน […]


อาการของโรค

ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism)

ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนที่สำคัญออกมาไม่เพียงพอ โดยต่อมไทรอยด์นี้ตั้งอยู่บริเวณส่วนด้านล่างลำคอ ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเข้าไปในกระแสเลือด คำจำกัดความ ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism)  คืออะไร ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนที่สำคัญออกมาไม่เพียงพอ โดยต่อมไทรอยด์นี้ตั้งอยู่บริเวณส่วนด้านล่างลำคอ ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเข้าไปในประแสเลือด  อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า โรคไฮโปไทรอยด์ส่งผลกระทบต่อทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่หัวใจไปยังสมอง และจากกล้ามเนื้อไปถึงผิวหนัง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้ ปวดข้อ ภาวะอ้วน ภาวะมีบุตรยาก โรคหัวใจ  พบได้บ่อยเพียงใด ภาวะไฮโปไทรอยด์ สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย  แต่มักพบในผู้สูงอายุเพศหญิงที่อายุ 60 ปี  อาการอาการ ภาวะไฮโปไทรอยด์ ในช่วงแรกผู้ป่วยที่อยู่ใน ภาวะไฮโปไทรอยด์ อาจไม่มีอาการแสดงให้เห็น แต่จะรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย น้ำหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งเราอาจคิดว่าเป็นแค่เพียงอาการอ่อนเพลียทั่วไป เราอาจจะเห็นสัญญาณและอาการที่ชัดเจนขึ้น โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้  ท้องผูก  ผิวแห้ง น้ำหนักเพิ่มขึ้น หน้าบวม  เสียงแหบ ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น กล้ามเนื้อมีอาการปวด กดเจ็บ และแข็งเกร็ง  มีอาการปวด แข็งเกร็ง หรือบวมที่ข้อต่อ  มีประจำเดือนมากกว่าปกติหรือผิดปกติ  ผมบาง หัวใจเต้นช้า ซึมเศร้า ความจำเสื่อม   กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผมบาง ท้องบวมมาก  กรณีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรืออยู่ในภาวะมิกซีดีมา (Myxedema) จะมีลักษณะอาการความดันโลหิตต่ำ อุณหภูมิในร่างกายลดลง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุ ภาวะไฮโปไทรอยด์ สาเหตุส่วนใหญ่ของ ภาวะไฮโปไทรอยด์ เกิดจากการอักเสบของต่อมไทรอยด์ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ไขว่ห้าง นาน ๆ ไม่ใช่แค่ปวดเมื่อย แต่อันตรายกว่าที่คิด

หนึ่งในท่านั่งที่มีส่วนช่วยให้บุคลิกภาพดี ดูมีคลาส หรือเซ็กซี่มากขึ้น ก็คือการท่าไขว่ห้าง แต่การ นั่งไขว่ห้าง อาจจะให้มากกว่าเรื่องของบุคลิกภาพที่ดี เพราะหากนั่งนานเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ใครที่ชอบนั่ง ไขว่ห้าง เป็นประจำล่ะก็ Hello คุณหมอ จะพามาดูกันว่า ท่านั่งไขว่ห้างที่คุณชอบทำบ่อย ๆ ทำร้ายสุขภาพของคุณอย่างไรบ้าง ไขว่ห้าง นั่งนาน ๆ อันตรายอย่างไร นั่งไขว่ห้าง เสี่ยงเป็นตะคริว การ นั่งไขว่ห้าง ติดต่อกันนาน ๆ โดยไม่มีการเปลี่ยนอริยาบท หรือผ่อนคลายช่วงขาเลย เสี่ยงที่จะทำให้เป็นตะคริวได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อเกิดการเกร็งตัว เพราะไม่มีการขยับ หรือเคลื่อนไหว ปวดเข่า แรงกดทับที่เข่าจากการนั่งไขว่ห้างนาน ๆ อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดเข่าได้ เนื่องจากตำแหน่งของหัวเข่าข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การนั่งไขว่ห้างเป็นครั้งคราวอาจไม่ส่งผลต่ออาการปวดเข่ามากนัก แต่ถ้าหากมีอาการปวดเข่าเนื่องจากการนั่งไขว่ห้างนาน ๆ ควรไปพบคุณหมอ เสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง จากผลการศึกษาที่ได้รับการเผยแพร่ลงใน Journal of Blood Pressure Monitoring พบว่าการ นั่งไขว่ห้าง มีส่วนทำให้เกิดความดันโลหิตสูงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่งไขว่ห้างติดต่อกันเป็นเวลานาน และไม่มีการเปลี่ยนอริยาบทในการนั่ง จะยิ่งทำให้เส้นเลือดบริเวณข้อเข่าไหลเวียนเลือดได้ไม่ค่อยดี เสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงและการอุดตันของเส้นเลือด ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตสูงจึงควรหลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง อย่างไรก็ตาม ภาวะเช่นนี้จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น การเปลี่ยนอริยาบทเพื่อผ่อนคลายขาบ้าง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

กลัวการเป็นลม โฟเบียสุดแปลก ที่แค่นึกถึงการเป็นลมก็ทำให้วิตกกังวลได้

กลัวการเป็นลม เป็นโรคโฟเบียชนิดหนึ่งที่เมื่อนึกถึงการเป็นลม หรือนึกถึงความอ่อนแอของร่างกาย ก็จะเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล และไม่สามารถควบคุมได้ หลาย ๆ คนคงสงสัยว่าโฟเบียสุดแปลกนี้คืออะไร วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ อาการกลัวการเป็นลม มาให้อ่านกันค่ะ กลัวการเป็นลม (Asthenophobia) คืออะไร โรคกลัวการเป็นลม หรือ กลัวการอ่อนแรง (Asthenophobia) เป็นอาการโฟเบียชนิดหนึ่ง ผู้ที่เป็นจะรู้สึกกลัวการเป็นลมหรือกลัวการที่ร่างกายอ่อนแออย่างไม่มีเหตุผล สำหรับผู้ที่มีอาการนี้จะเกิดความวิตกกังวลที่สูงมาก ๆ เมื่อพูดถึงเรื่องการเป็นลมหรือนึกถึงเรื่องที่ร่างกายอ่อนแรง ก็จะทำให้เกิดความวิตกกังวลมาก จนเกิดเป็นลมขึ้นมาจริง ๆ บางครั้งก็วิตกกังวลจนพัฒนากลายไปเป็น โรคแพนิค (Panic Attack) อาการกลัวการเป็นลม มีอะไรบ้าง อาการกลัวการเป็นลม เป็นโรคโฟเบียชนิดหนึ่ง ที่ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร อาการก็จะมีความคล้ายคลึงกับอาการโฟเบียอื่น ๆ แต่อาการที่โดดเด่นที่สุด คือ ผู้ป่วยมักจะมีความวิตกกังวล ซึ่งความรุนแรงของความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นในผู้ที่มี อาการกลัวการเป็นลม นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ หลายปัจจัย บางคนมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่มี อาการกลัวการเป็นลม มักจะไม่เอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเป็นลม หรืออยู่ใกล้ ๆ กับตัวกระตุ้นที่ทำให้พวกเขาเป็นลม เช่น การเล่นกีฬาที่ผาดโผน อาการที่พบได้ทั่วไปสำหรับผู้ที่มี อาการกลัวการเป็นลม […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ขี้สะดือ หรือ ก้อนดำในสะดือ สามารถจัดการได้อย่างไร

สะดือ เรียกได้ว่าเป็นจุดซ่อนเร้นอีกแห่งสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ และรักษาสุขอนามัยเป็นอย่างมาก เพราะหากเราดูแลสะดือไม่ดี ก็อาจเกิดการสะสมของ ขี้สะดือ หรือ ก้อนดำในสะดือ และอาจส่งผลให้เกิดการหมักหมมของเชื้อโรค จนส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาร่วม แต่จะมีวิธีการขจัดขี้สะดืออย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้ใน บทความของ Hello คุณหมอ ที่นำมาฝากทุกคนไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ขี้สะดือ คืออะไร ขี้สะดือหรือเรียกอีกอย่างได้ว่า ก้อนดำในสะดือ (Navel stones) คือ มวลก้อนแข็งสีดำคล้ายหินที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มโปรตีน ที่ประกอบไปด้วยเคราติน ซีบัม และแบคทีเรีย ที่ตายแล้วเข้าไปสะสมในสะดือ โดยมักมีสีน้ำตาลเข้ม ถึงสีดำ มีขนาดเล็ก ใหญ่ แตกต่างกัน อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเหนียวหนืด ในบางกรณีก็อาจส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาอีกด้วย สาเหตุที่ส่งผลให้คุณมีขี้สะดือสะสม ก้อนดำในสะดือ นอกจากจะมาจากการสะสมของเซลล์ที่ตายแล้ว ยังอาจมีสาเหตุอื่น ๆ ที่สามารถทำให้คุณมีการรวมตัวของขี้สะดือเป็นจำนวนมากอยู่ภายในได้อีกด้วย ดังนี้ ความลึกของสะดือ ลักษณะของสะดือของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันออกไป ในกรณีที่คุณมีหลุมลึก หรือรอยหยักบริเวณสะดือเยอะ ก็อาจเป็นแหล่งที่สามารถรวบรวมขี้สะดือเหล่านั้นให้อยู่ภายใน จนกลายเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่กว่าปกติได้ ไม่หมั่นทำความสะอาดภายในสะดือ แน่นอนว่าการทำความสะอาด เพื่อรักษาสุขภาพอนามัยของตนเองเป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่หากคุณมีการเพิกเฉย หรือนาน ๆ ทีจะทำความสะอาดบริเวณสะดือสักครั้ง ก็อาจทำให้กลุ่มโปรตีนเหล่านี้เข้าไปอุดตัน จนก่อตัวเป็นขี้สะดือขึ้น ก้อนดำในสะดือ จากโรคอ้วน เมื่อใดที่คุณเริ่มน้ำหนักมากเกินไป หรือเป็นโรคอ้วน จนมีการสะสมไขมันหน้าท้อง ก็อาจส่งผลให้หน้าท้องห้อยจนไปปิดทับบริเวณรูสะดือ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ฉีดวิตามินซี เข้าทางผิวหนัง อาจสร้างผลเสียต่อร่างกายมากกว่าที่คุณคิด

แน่นอนว่าในยุคสมัยนี้ การฉีดผิวด้วยวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามินซี ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลายคนมีความเชื่อว่า วิตามินซีจะสามารถเข้าไปช่วยปรับปรุงทางด้านสุขภาพผิวได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการรับสารผ่านทางผิวหนังเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง ดังนั้น วันนี้ Hello คุณหมอ จึงขอนำความรู้เบื้องต้นถึงการ ฉีดวิตามินซี มาให้ทุกคนได้พิจารณาก่อนตัดสินใจเข้าใช้บริการ เพื่อความปลอดภัยกันค่ะ ทำไมบางคนถึงเลือก ฉีดวิตามินซี เข้าผิวหนัง ถึงแม้ว่า วิตามินซี จะเป็นสารอาหารที่สามารถพบได้ทั่วไปใน ผัก ผลไม้ ตามธรรมชาติ เช่น สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม กะหล่ำปลี แต่หากร่างกายของเราได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ ก็อาจจำเป็นต้องเสริมวิตามินซีด้วยวิธีอื่น เช่น การฉีดวิตามินซี เข้าสู่เส้นเลือดผ่านทางผิวหนัง วัตถุประสงค์หลักที่ทำให้ผู้คนเลือกวิธี การฉีดวิตามินซี มีดังนี้ เพิ่มความแข็งแรง และภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย บรรเทาอาการที่เกิดจากโรคมะเร็ง โดยใช้ร่วมกับกระบวนการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ ป้องกันเลือดออกตามไรฟันจากภาวะร่างกายขาดวิตามินซี สมานแผลได้ไวขึ้น ลดจุดด่างดำบนผิวหนังให้จางลง รักษาอาการปวดเมื่อยตามข้อ ความเสี่ยงที่คุณอาจได้รับจาก การฉีดวิตามินซี ปริมาณที่มากเกินไปของวิตามินซีที่คุณถูกฉีด อาจส่งผลให้การดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารที่รับประทานเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายคุณมีธาตุเหล็กในระดับสูงเกินไป รวมถึงผู้ที่มีภาวะสุขภาพเกี่ยวข้องกับโรคไตอยู่แต่เดิม ก็อาจส่งผลให้การทำงานของไตเกิดความเสียหายขึ้นเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ การฉีดวิตามินซียังอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด ทำให้ไปลดประสิทธิผลคุณสมบัติของยาบางชนิด เช่น ยารักษาเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ ยาบรรเทาอาการปวดจากโรคข้ออักเสบ หรือยารักษาทางจิตเวช และหากกรณีที่คุณกำลังมีการใช้ยาข้างต้นร่วมอยู่ โปรดแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที ก่อนได้รับการฉีดวิตามินเข้าสู่ร่างกายเพื่อความปลอดภัย คำแนะนำเบื้องต้นก่อนฉีดวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น การฉีดวิตามินซี หรือการรับประทานวิตามินซี คุณอาจจำเป็นต้องให้แพทย์ทำการวินิจฉัยสุขภาพของคุณเบื้องต้น เพราะเนื่องจากยังมีเทคนิคอื่น […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ อีกหนึ่งเคล็บลับเพื่อสุขภาพที่ดี

บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ สุดยอดสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีหน้าที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่าง ๆ รวมถึงคุณประโยชน์ด้านอื่น ๆ ที่คุณไม่เคยรู้ แต่ประโยชน์ของเบต้ากลูแคนจากยีสต์มีอะไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ ทำความรู้จัก เบต้ากลูแคนจากยีสต์  (Yeast Beta Glucan) เบต้ากลูแคนจากยีสต์พบได้ในเซลล์ผนังของยีสต์ โดยเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดคอเลสเตอรอล เป็นต้น  อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์อาหารหลากหลายยี่ห้อ ที่มีส่วนประกอบของ เบต้ากลูแคน ดังนั้น ก่อนซื้อเราต้องศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อน แหล่งที่มาของ เบต้ากลูแคน แต่ละชนิด เบต้ากลูแคน เป็นสารสกัดที่พบได้จากแหล่งธรรมชาติ เช่น ขนมปัง ยีสต์ เห็ด ข้าวโอ๊ต โดยมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของ เบต้ากลูแคน ดังต่อไปนี้ เบต้ากลูแคน จากข้าวโอ๊ต  เบต้ากลูแคน จากข้าวโอ๊ตมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการส่งเสริมสุขภาพหัวใจและช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low Density Lipoprotein : LDL)  เบต้ากลูแคน จากเห็ด  เบต้ากลูแคน จากเห็ด มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างภูมิกัน แต่ถึงแม้ว่าจะมีโครงสร้างกลูแคน 1,3/1,6  เหมือนกัน แต่ประสิทธิภาพอาจจะน้อยกว่าเบต้ากลูแคนจากยีสต์ เบต้ากลูแคน […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เป็นลม ล้มพับ อยู่ ๆ ก็หมดสติ เกิดจากอะไรได้บ้าง

อาการที่เรียกว่า เป็นลม ที่เราเคยเห็นกัน ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือว่าเคยเห็นในละคร เป็นอาการที่อยู่ ๆ ก็ หมดสติอย่างกะทันหัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เป็นลมก็แตกต่างกันออกไป บางคนก็เป็นลมเมื่ออยู่กลางแดด บางคนเป็นลมเมื่อเจอเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ วันนี้ Hello คุณหมอ จะชวนทุกคนไปรู้จักกับ อาการเป็นลม ว่าจริง ๆ แล้วเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง เมื่อเจอคนเป็นลมควรช่วยเหลืออย่างไรดี เข้าใจอาการที่เรียกว่า เป็นลม อาการเป็นลม เป็นอาการที่ หมดสติอย่างกะทันหัน ในช่วงเวลาหนึ่ง อย่างสั้น ๆ เนื่องจากสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาจากปอด ระบบไหลเวียนเลือด หรือภาวะคาร์บอนมอนออกไซด์เป็นพิษ (Carbon Monoxide Poisoning) ส่วนใหญ่ก่อนที่จะเป็นลมมักจะมีอาการมึนงง วิงเวียน อ่อนเพลีย อ่อนแรง และรู้สึกคลื่นไส้ สำหรับบางคนอาจมีอาการที่เรียกว่า “วูบ” ซึ่งเป็นอาการที่เสียงรอบ ๆ ตัวค่อย ๆ เบาลงหรือดับไป ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นลมมักจะฟื้นตัวภายในระยะเวลาภายในไม่กี่นาที หากไม่มีอาการป่วยอื่น ๆ ร่วมด้วย อาการเป็นลม เป็นกลไกหนึ่งของร่างกาย เมื่อระดับเลือดและออกซิเจนในสมองลดลง จนต่ำเกินไป ร่างกายจะทำการปิดตัวเองหรือชัตดาวน์ส่วนที่ไม่สำคัญของร่างกาย เพื่อให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญอื่น ๆ […]


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

การฉีดวิตามินบี-12 รักษาภาวะขาดวิตามินบี ได้จริงหรือ

สาเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายคุณเกิดภาวะขาดวิตามินบีนั้น อาจมาจากสภาวะของโรคต่าง ๆ เช่น โรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง โรคกระเพาะอาหารอักเสบ รวมถึงการรับประทานอาหารมังสวิรัติที่มากจนเกินไป บทความของ Hello คุณหมอ วันนี้ ขออาสาพาทุกคนมารู้จักกับ การฉีดวิตามินบี-12 เพื่อช่วยเพิ่มวิตามินสำคัญอีกชนิดเข้าสู่ร่างกาย โดยไม่ต้องกินยาให้ยากลำบาก มาฝากกันค่ะ ทำความรู้จักกับ วิตามินบี-12 กันเถอะ วิตามินบี-12 เป็นสารละลายน้ำที่ประกอบด้วยไซยาโคบาลามิน (Cyanocobalamin) โดยมีทั้งในรูปแบบแคปซูลรับประทาน และฉีดเข้าผ่านใต้กล้ามเนื้อบริเวณผิวหนัง เพื่อช่วยรักษาผู้ที่มีปัญหาขาดวิตามินบี หรือโรคโลหิตจาง วิตามินบี 12 ค่อนข้างมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากร่างกายขาดวิตามินบีเมื่อใด ก็อาจส่งผลให้คุณรู้สึกอ่อนล้า หัวใจเต้นผิดปกติ และเสี่ยงที่จะเป็นภาวะซึมเศร้าได้ ดังนั้น เพื่อคงความสมดุลของสุขภาพ และระบบการทำงานอวัยวะภายใน คุณอาจจำเป็นต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เกี่ยวกับวิธีการเพิ่มวิตามินบี 12 ด้วยวิธีการที่เหมาะสม อีกทั้งหากคุณไม่อยากได้รับวิตามินบี 12 จากการฉีดยาหรือรับประทานยา อาจต้องหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร โดยเลือกกินอาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินบี 12 เช่น ธัญพืช โยเกิร์ต ไข่ และเนื้อสัตว์ ให้มากขึ้นทดแทน ข้อดีของการ ฉีดวิตามินบี-12 แน่นอนว่าข้อดีที่เห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุดในการฉีดวิตามินบี12 นอกจากจะช่วยป้องกันให้คุณห่างไกลจากภาวะร่างกายขาดวิตามินบี 12 แล้ว ยังอาจส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายได้มากยิ่งขึ้นด้วย ดังนี้ ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคซึมเศร้า ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยรักษาเซลล์ประสาท ช่วยลดการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ ข้อเสียของการ […]


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก (ESWL) อีกหนึ่งเทคนิคการรักษานิ่วที่อาจเหมาะกับคุณ

นิ่ว อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกันตามภาวะทางสุขภาพ และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไป คุณอาจจำเป็นต้องเข้าปรึกษาแพทย์ทันทีที่มีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง ปัสสาวะมีเลือดปน วันนี้ Hello คุณหมอ ขอพาทุกคนมารู้จักกับเทคนิค การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก ที่แพทย์นิยมเลือกใช้ในการกำจัดก้อนนิ่ว ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา มาฝากให้ได้ทราบไปพร้อม ๆ กันค่ะ การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก (ESWL) คืออะไร การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก มีชื่อเต็มภาษาอังกฤษทางการแพทย์ว่า Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy หรือ ESWL ถูกนำมาใช้ในครั้งแรกช่วงต้นทศวรรษ 1980 ที่มหาวิทยาลัยฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้อุปกรณ์ที่มีระบบปล่อยคลื่นความถี่ไปยังจุดเฉพาะที่แพทย์กำหนด เข้าไปกระทบกับก้อนนิ่วแข็ง จนทำให้นิ่วแตกออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ และถูกขับออกจากร่างกายในรูปแบบปัสสาวะอย่างง่ายดาย ขั้นตอน การสลายนิ่ว ด้วยคลื่นกระแทก ก่อนเข้ารับการรักษา คุณอาจได้รับคำแนะนำจากแพทย์ให้หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเลือดเป็นระยะเวลา 7-10 วัน เช่น แอสไพริน (Aspirin) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) วิตามินอี (Vitamin E) พลาวิกซ์ (Plavix) จากนั้นเมื่อถึงวันนัดหมายของ การสลายนิ่ว ด้วยคลื่นกระแทก แพทย์อาจเริ่มต้นตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยอาจได้รับการดมยาสลบ […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม