เอาชีวิตรอดในเช้าวันใหม่อย่างไร หากเมื่อคืน นอนไม่พอ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 02/10/2020

    เอาชีวิตรอดในเช้าวันใหม่อย่างไร หากเมื่อคืน นอนไม่พอ

    หลายๆ คนคงจะเคย นอนน้อย นอนดึก หรือ นอนไม่พอ เป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้เช้าวันต่อมาร่างกายต้องแบกรับอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย และง่วงนอนเอาไว้ตลอดทั้งวัน และกว่าจะหมดวันจนถึงเวลาเข้านอนอีกครั้งก็ต้องรออีกหลายชั่วโมง ระหว่างนั้นอาการง่วงนอนเนื่องจากนอนไม่พอ อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้ Hello คุณหมอ มีเคล็ดลับดีๆ สำหรับคนที่นอนไม่พอ และต้องเอาชีวิตรอดในเช้าวันใหม่มาฝากค่ะ

    อดนอน นอนไม่พอ ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

    หากเมื่อคืน นอนน้อย หรือนอนไม่พอมาล่ะก็ คุณจะสามารถรู้ตัวเองได้ทันทีหลังจากที่ตื่นนอน เพราะร่างกายจะมีอาการอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง หรือง่วงนอนตลอดทั้งวัน ทั้งยังไม่ค่อยมีสมาธิในการจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน หรือการทำงาน อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพมากนัก หากอาการ นอนน้อย อยู่ในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 1-2 วัน

    ถ้าหากติดต่อกันเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน อาการนอนน้อยจะส่งผลต่ออาการทางสุขภาพในระดับที่รุนแรงมากขึ้น อาจทำให้สมองอ่อนล้า ร่างกายอ่อนเพลียอย่างหนัก ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง น้ำหนักไม่คงที่ อาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างผิดปกติ ทั้งยังมีผลต่ออารมณ์ที่อาจรู้สึกหงุดหงิด หรือโมโหระหว่างวันได้ง่าย รวมทั้งอาจมีผลต่อการตัดสินใจอีกด้วย

    นอกจากนี้อาการ นอนน้อย ยังเสี่ยงที่จะทำให้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น มีอาการนอนน้อย แต่ต้องขับรถด้วยตนเอง หากเกิดอาการหลับในขณะที่กำลังขับรถ ก็อาจเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจจะนำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตได้ หรือถ้าหากคุณเป็นคนที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร แล้วอดนอน นอนน้อย ก็อาจจะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตด้วยเช่นกัน

    ทำอย่างไรหากเมื่อคืน นอนน้อย

    แต่ละคนย่อมมีปัจจัยในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน ไม่ว่าจะด้วยภาระงาน หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดล่วงหน้าอันใดที่ทำให้ต้องเข้านอนดึก หรือ นอนน้อย ซึ่งอาการนอนน้อยสามารถส่งผลให้เห็นได้ทันทีจากความเพลีย ความง่วง หลังจากตื่นนอน แต่ไม่ว่าจะง่วงนอนหรืออ่อนเพลียแค่ไหน ก็จำเป็นจะต้องตื่นนอนและเริ่มภารกิจวันใหม่ต่อไป แต่…จะทำอย่างไรให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันในเช้าวันใหม่ได้อย่างเต็มที่ที่สุด คุณผู้อ่านสามารถลองใช้วิธีดังต่อไปนี้ได้

    ดื่มน้ำให้มากๆ

    การ นอนน้อย ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียอย่างแน่ชัดอยู่แล้ว แต่ถ้าหากร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำหรือดื่มน้ำน้อยเข้าไปอีก ก็จะยิ่งมีผลทำให้รู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นในเช้าวันใหม่หลังจากการนอนหลับเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา คุณควรจะพยายามดื่มน้ำให้มากๆ อย่าปล่อยให้ร่างกายกระหายน้ำหรือขาดน้ำ เพื่อช่วยลดความรู้สึกอ่อนเพลียในระหว่างวัน

    นอกจากนี้การดื่มน้ำมากๆ ยังมีผลทำให้เกิดการปัสสาวะบ่อย ซึ่งการที่ต้องลุกไปปัสสาวะบ่อยๆ นั้น ก็จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวอยู่ตลอด ไม่เอาแต่ง่วง เหงา หรือหาวนอน

    รับแสงแดดยามเช้า

    หลังจากการนอนดึก นอนน้อย มาเมื่อคืนนี้ พอตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่ก็ควรจะออกไปรับแสงแดดยามเช้าสักหน่อย เพราะจากผลการศึกษาพบว่าการรับไออุ่นจากแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ประมาณ 30 นาที จะทำให้จังหวะเซอร์คาเดียน (Circadian) ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกาชีวภาพในร่างกายมนุษย์เกิดการกระตุ้นให้ร่างกายและสมองตื่นตัว และส่งผลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานตามวงจรปกติที่เคยเป็นมา

    เติมคาเฟอีนสักนิด

    คาเฟอีน (Caffeine)เป็นสารที่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว ลดอาการง่วงหรือเฉื่อยชา ซึ่งจะเห็นว่าบางคนเลือกดื่มกาแฟในวันที่ต้องการการตื่นตัวตลอดเวลาหรือไม่ต้องการที่จะหลับในตอนกลางคืน เช่นเดียวกับในวันที่ นอนน้อย ร่างกายย่อมต้องมีความอ่อนล้า อ่อนเพลียมากอยู่แล้ว

    การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างชาหรือกาแฟ ประมาณ 1-2 แก้ว จะช่วยเพิ่มความตื่นตัว กระตุ้นให้สมองมีสมาธิในการจดจ่อกับภารกิจประจำวันได้ดีมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากจนเกินไป อาจให้ผลตรงกันข้าม จึงควรดื่มในปริมาณที่พอดี และไม่ควรเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน

    ขยับร่างกายบ่อยๆ

    ถ้าเมื่อคืน นอนน้อย เช้าวันต่อมาคุณไม่ควรที่จะเอาแต่นั่งเฉยๆ หรือนั่งอยู่กับที่ตลอดทั้งวัน เพราะจะยิ่งทำให้รู้สึกง่วงมากขึ้นกว่าเดิมจนอาจเผลอหลับได้ ควรจะขยับร่างกายบ่อยๆ เดินไปนั่นไปนี่บ้าง ไปรับลมข้างนอก หรือไปร้านสะดวกซื้อเพื่อหาของว่างสักหน่อย พยายามมีกิจกรรมที่เอื้อให้ร่างกายเกิดการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เพื่อให้สมองเกิดการตื่นตัว ช่วยลดอาการง่วงนอนหรืออ่อนล้าลงได้

    ใช้ความเย็นเข้าช่วย

    อากาศอบอุ่นหรืออุณหภูมิอบอุ่นนับว่าเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้เกิดการเคลิบเคลิ้มและทำให้ง่วง การไปสัมผัสกับน้ำเย็นๆ อย่างการล้างหน้า หรืออาบน้ำ จะมีช่วยกระตุ้นให้ร่างกายและสมองเกิดการตื่นตัวได้ หรือการดื่มน้ำเย็นๆ ก็ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้เช่นเดียวกัน

    งีบหน่อยก็ดี

    หากลองมันทุกวิธีแล้วแต่ก็ดูท่าทางว่าจะไม่สามารถต้านทานพลังแห่งความง่วงซึ่งเป็นผลพวงจากการ นอนน้อย เมื่อคืนนี้ได้แล้วล่ะก็ หาจังหวะในช่วงเวลาก่อนเริ่มงาน ช่วงพักเที่ยง หรือช่วงพักเบรค เพื่อทำการงีบเอาแรงสักหน่อย โดยการงีบเพียง 20-25 นาที ก็เพียงพอที่จะช่วยชาร์จพลังงานให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และลดอาการง่วงนอนที่เป็นอยู่ได้ แต่ระวังอย่างีบนานกว่านั้น เพราะอาจจะทำให้รู้สึกง่วงนอนมากกว่าเดิม

    ข้อควรระวังหากคุณอดนอน หรือ นอนน้อย

    หากมีอาการ นอนน้อย ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่ต้องมีการควบคุมการทำงานอุปกรณ์ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ หรือการทำงานกับเครื่องจักร เพราะหากเผลอหลับหรืองีบแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้

    ดังนั้นในวันที่นอนน้อย หากเป็นไปได้ควรใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนการขับรถด้วยตนเอง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดกับตนเองและผู้อื่น หรือถ้าหากทำงานที่ต้องประจำกับเครื่องจักร ควรแจ้งต่อหัวหน้างานถึงความไม่พร้อมของสภาพร่างกาย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรุนแรง

    อย่างไรก็ตาม แม้วิธีเหล่านี้จะสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในระหว่างวัน ลดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย หรือง่วงนอนได้บ้าง แต่…วิธีแก้ปัญหาการ นอนน้อย ที่ดีที่สุด ก็คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะเมื่อร่างกายมีการพักผ่อนอย่างเต็มที่ อาการทางสุขภาพต่างๆ ที่เป็นผลมาจากการนอนน้อยก็จะไม่เกิดขึ้น หรือถ้าหากมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับจนทำให้นอนไม่พอ คุณควรหาเวลาไปปรึกษากับคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีและเพื่อการมีสุขภาพที่ดีต่อไป

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 02/10/2020

    โฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    โฆษณา
    โฆษณา
    โฆษณา