-
สร้างสมดุลของฮอร์โมนให้แก่ช่วงวัยหมดประจำเดือน
ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ที่เป็นสารประกอบจากเมล็ดงา ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) อย่างมาก ดังนั้น การรับประทานงา จึงมีความจำเป็นเมื่อระดับของฮออร์โมนเอสโตรเจนลดระดับลง และอาจช่วยเข้าไปต่อต้านอาการร้อนวูบวาบ จากผลข้างเคียงเมื่อระดับฮออร์โมนนี้ลดต่ำลง

สูตรน้ำสลัดงา
วัตถุดิบในการทำน้ำสลัดงา
- น้ำตาลทรายแดง ½ ถ้วย
- น้ำมันมะกอก ½ ถ้วย
- น้ำส้มสายชู ¼ ถ้วย
- งา ¼ ถ้วย
- ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำน้ำสลัดงา
- นำงาที่คุณเตรียมมาไปผ่านการคั่วเพื่อพิ่มความหอมเป็นเวลา 3-5 นาที หรืออาจใช้วิธีการนำเข้าเตาอบในความร้อน 350 องศา เป็นเวลา 8-10 นาที ก็ได้ตามวิธีที่คุณถนัด
- นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในถ้วย หรือชามขนาดพอดี และคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปใส่ภาชนะที่มีฝากปิดสนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เผื่อคุณต้องการเก็บไว้รับประทานในมื้ออื่น ๆ
หากผู้ที่ปัญหาทางสุขภาพอย่างโรคเบาหวาน อาจต้องมีการเปลี่ยนไปใช้ความหวานจากธรรมชาติทดแทน เช่น น้ำตาลเทียม น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมจากหญ้าหวาน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจตามมาในภายหลังได้
การรับประทาน งา อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในบางบุคคล
ส่วนใหญ่การนำงามารับประทานค่อนข้างให้ความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค แต่ก็อาจก่อให้เกิดการอุดตันในช่องทางเดินอาหารได้ด้วยเช่นกันหากรับประทานในปริมาณมากเกินควร เนื่องจากงามีส่วนประกอบของใยอาหารจากธรรมชาติอยู่มากที่อาจนำพาให้เข้าไปขัดขวางการทำงานของลำไส้
อีกทั้งหากคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังนำอาหารเสริมต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันงาไปให้เด็ก ๆ ควรกำจัดปริมาณให้อยู่ที่ 5 มล. เท่านั้น และควรให้ลูกรักรับประทานแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ที่สำคัญควรได้รับการอนุญาต หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ มิเช่นนั้น อาจทำให้ลูกรักคุณมีอาการแพ้รุนแรงได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย