หากถามว่าฟักทองนำมาทำเป็นของหวานอะไรได้บ้าง หลายคนอาจจะนึกถึงขนมไทย เช่น ฟักทองแกงบวด ขนมฟักทอง ฟักทองเชื่อม แต่วันนี้ เราอยากชวนคุณมารังสรรค์ฟักทอง เป็นเมนูขนมอบสไตล์ฝรั่งนั่นก็คือ พายฟักทอง รสนุ่ม กลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ยิ่งถ้าทำเป็นของหวานรับเทศกาลฮัลโลวีน…ที่ใกล้เข้ามา ยิ่งเข้ากับบรรยากาศสุดๆ มาติดตามสูตรพายฟักทองกันค่ะ
ใส่ฟักทองบดละเอียด ไข่ไก่เบอร์สอง น้ำตาลทรายแดง เกลือ อบเชยผง ขิงผง กานพลูผง ลงในชามผสม ใช้ตะกร้อไฟฟ้าตีด้วยความเร็วปานกลางจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ค่อยๆ เทน้ำกะทิทีละนิด ขณะใช้พายซิลิโคนคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี เมื่อได้ฐานพายและไส้พายเรียบร้อยแล้ว เราก็มาลงมือประกอบร่างพายฟักทองของเรากันเลย
- เทส่วนผสมลงถาดแป้งพายที่เตรียมไว้
- นำเข้าเตาอบ ตั้งไฟบนล่าง ใช้ความร้อน 425 องศาฟาเรนไฮต์ (220 องศาเซลเซียส) ตั้งเวลาอบ 50 นาที
- พอครบ 15 นาที ให้ปรับความร้อนลงเหลือ 350 องศาฟาเรนไฮต์ (175 องศาเซลเซียส) อบต่อจนครบเวลา
- ยกถาดพายออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็นสนิท
- ตัดเป็นชิ้น จัดใส่จานเสิร์ฟ
พายฟักทองไส้นุ่มละมุนลิ้น หวานหอมกำลังดี ยิ่งถ้าเอาไปแช่เย็นสักนิดก่อนกินยิ่งอร่อยได้ใจ ใครอยากตกแต่งหน้าด้วยวิปครีม (แนะนำแบบดีต่อสุขภาพ เช่น วิปครีมกะทิ) โยเกิร์ตธรรมชาติ สตรอว์เบอร์รี่ อัลมอนด์ ถั่วพีแคนอบกรอบ ก็จัดเลย รับรองอร่อยคูณสอง แถมดีต่อสุขภาพสุดๆ
แต่อย่าลืมนะว่า พายฟักทองก็ขึ้นชื่อว่าเป็นของหวาน ฉะนั้นควรกินแต่พอดี อย่าเผลอกินเพลินจนหมดถาด ไม่อย่างนั้น ปัญหาน้ำหนักเกินอาจมาเยือนโดยไม่รู้ตัว
![](https://hellokhunmor.com/wp-content/uploads/2019/10/pumpkin-pie.jpg)
พายฟักทอง อร่อย แถมมีประโยชน์สุขภาพ
ประโยชน์ของฟักทอง
ฟักทองลูกโตผิวขรุขระ ภายนอกอาจดูไม่น่ากิน แต่รู้ไหมว่าอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญนานาชนิด เพราะมีทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไฟเบอร์ เหล็ก โฟเลต วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค โพแทสเซียม วิตามินบี 6 และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงมีเบต้าแคโรทีน ที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระด้วย
การกินฟักทองช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้เยื่อบุลำไส้แข็งแรง จึงต่อสู้กับการติดเชื้อ ไวรัส และโรคติดต่อได้ดีขึ้น ช่วยให้เรตินาหรือจอประสาทตารับแสงได้ดี เราจึงมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น และอาจช่วยป้องกันโรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อมจากอายุได้ด้วย
นอกจากนี้ ฟักทองยังช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดี ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล จึงดีต่อสุขภาพหัวใจ อีกทั้งไฟเบอร์ในฟักทองยังช่วยชะลอการย่อยอาหาร ทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น บวกกับมีแคลอรี่ต่ำ จึงถือเป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่คุณไม่ควรพลาดหากต้องการควบคุมน้ำหนัก
ข้อควรระวัง
แม้จะมีประโยชน์ดีๆ มากมาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถกินฟักทองได้อย่างจุใจ เพราะฟักทองมีฤทธิ์คล้ายยาขับปัสสาวะอ่อนๆ ทำให้ร่างกายขับน้ำและโซเดียมออกมามากขึ้น ฉะนั้น ใครที่กำลังกินยาลิเทียม อาจต้องระวังอย่ากินฟักทองมากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายขับลิเทียมได้ไม่ดีนัก จนอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด