ไอตอนกลางคืน เป็นอาการไอที่เกิดในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะระหว่างการนอนหลับ ซึ่งมักมีอาการจากอาการคันคอเล็กน้อยเรื่อยไปจนถึงอาการไออย่างรุนแรง ทำให้รบกวนการนอนหลับ และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้ อะไรคือสาเหตุการไอตอนกลางคืน และมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้
[embed-health-tool-bmr]
สาเหตุของการไอตอนกลางคืน
อาการไอ เป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่ต้องการกำจัดสิ่งแปลกปลอม เช่น เมือก เสมหะ เชื้อโรค สารพิษ ซึ่งทำให้ทางเดินหายใจเกิดความระคายเคืองออกไปจากร่างกาย ส่วนอาการ ไอตอนกลางคืน เป็นอาการไอที่มักเกิดในช่วงกลางคืน โดยเฉพาะเวลานอนหลับ สาเหตุที่ทำให้เกิดการไอตอนกลางคืน มักจะมาจากปัญหาสุขภาพที่มีอยู่ก่อนแล้ว ดังต่อไปนี้
- หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
- ไซนัสอักเสบ
- ไข้หวัด
- โรคกรดไหลย้อน
- โรคภูมิแพ้
หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้กลายเป็นไอเรื้อรัง อาจรบกวนการนอนหลับ และอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย นำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ในภายหลัง
วิธีแก้ไอตอนกลางคืน
วิธีบรรเทาอาการไอตอนกลางคืนอาจทำได้โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง หรือการดูแลสุขภาพตนเองเพื่อช่วยให้อาการไอดีขึ้นได้ ดังต่อไปนี้
ปรับหัวเตียงให้เอียงขึ้น
เนื่องจากสารก่อความระคายเคืองทั้งหลายสามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจได้โดยง่าย เมื่อร่างกายอยู่ในท่านอนราบ ดังนั้น อาจปรับให้นอนหมอนสูงขึ้น เพื่อให้ศีรษะอยู่ในระดับสูงขึ้นจากที่นอนเล็กน้อย
จิบน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้ง
การผสมน้ำผึ้งลงในเครื่องดื่มอุ่น ๆอาจช่วยละลายเสมหะที่ติดในลำคอได้ ลองใช้น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับเครื่องดื่มสุขภาพ เช่น ชาสมุนไพรต่าง ๆ ที่ปราศจากคาเฟอีน แล้วดื่มก่อนเข้านอน อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรให้แด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบดื่มน้ำผึ้ง
ใช้ยาแก้ไอ
หากเกิดอาการไออย่างรุนแรงจนรบกวนการนอนหลับอย่างมาก ยาแก้ไอ ถือเป็นตัวช่วยในการบรรเทาอาการเพื่อให้การนอนหลับดีขึ้น โดยควรเลือกให้เหมาะสมกับอาการไอ โดยยาแก้ไอมี 3 ชนิด ได้แก่
- ยาลดหรือระงับอาการไอ ยาชนิดนี้ควรเลือกใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการไอแบบไม่มีเสมหะ มักมีตัวยาสำคัญคือ โคเดอีน (Codeine)
- ยาขับเสมหะ ยาชนิดนี้จะกระตุ้นการขับเสมหะโดยกระตุ้นการทำงานของเยื่อบุในระบบทางเดินหายใจในการกำจัดเสมหะ มักมีตัวยาสำคัญคือ ไกวเฟนิซิน (Guaifenesin)
- ยาละลายเสมหะ ยาชนิดนี้จะช่วยลดความเหนียวของเสมหะลงทำให้ร่างกายกำจัดหรือขับเสมหะออกได้ง่ายขึ้น ตัวยาสำคัญในยาละลายเสมหะ คือ อะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine) หรือ เอ็น-อะเซทิลซิสเทอีน (N-Acetylcysteine) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้โมเลกุลเสมหะแตกตัวและหลุดจากผนังหลอดลมได้ง่าย ร่างกายจึงสามารถกำจัดเสมหะออกมาได้ดีขึ้น
รักษาอาการกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อน เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของอาการไอแบบรุนแรงในตอนกลางคืน ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการไอตอนกลางคืน จึงควรหาวิธีรักษาภาวะโรคไหลย้อน โดยปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน โดยต้องสังเกตอาหารที่กินในแต่ละวันว่าทำให้ร่างกายมีอาการของโรคกรดไหลย้อนหรือไม่
- ไม่ควรนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ ควรรอประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งขึ้นไป
- หนุนศีรษะให้สูงกว่าที่นอนประมาณ 6-8 นิ้ว
ใช้เครื่องกรองอากาศ และเครื่องนอนที่ป้องกันอาการภูมิแพ้
สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว โอกาสไอตอนกลางคืนจะมีสูงกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเวลานอน ตัวการสำคัญที่ทำให้ไอตอนกลางคืน ได้แก่ ไรฝุ่น หรือสะเก็ดผิวหนังสัตว์เลี้ยงที่ติดอยู่บนที่นอน ดังนั้น ควรดูแลรักษาความสะอาดห้องนอนให้ปราศจากไรฝุ่น โดยปฏิบัติดังนี้
- ใช้ปลอกหมอน ผ้านวม ฟูก ชนิดป้องกันไรฝุ่น
- ซักทำความสะอาดเครื่องนอนด้วยน้ำอุ่นสัปดาห์ละครั้ง
- ใช้เครื่องกรองอากาศที่มีแผ่นกรองประเภท HEPA เพื่อช่วยกรองสารก่อภูมิแพ้
- ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องนอนเพราะขนของสัตว์เลี้ยงอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองของทางเดินหายใจได้
ป้องกันห้องนอนให้ไกลจากแมลงสาบและแมลง
น้ำลายของเห็บ และเศษซากของแมลงสาบ เป็นหนึ่งในสาหตุสำคัญของการไอตอนกลางคืน ควรรักษาความสะอาด และสุขภาวะภายในบ้าน เพื่อลดจำนวนแมลงสาบ โดยปิดฝาภาชนะใส่อาหารทุกครั้ง รวมทั้งกำจัดกองหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร ซึ่งเป็นตัวก่อฝุ่นและเป็นที่หลบซ่อนของแมลงสาบและเหล่าแมลงอื่น ๆ
เลิกสูบบุหรี่
การสูบหรี่เป็นสาเหตุของการไอเรื้อรัง ซึ่งมักไอรุนแรงระว่างนอนหลับ การเลิกบุหรี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการช่วยบรรเทาอาการไอตอนกลางคืน และยังดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย