อาการไออาจน่ารำคาญ แต่ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาการไอเกิดขึ้นเพราะร่างกายพยายามขับสิ่งแปลกปลอม เช่น เสมะหะ เชื้อโรค ออกจากทางเดินหายใจ แต่หากมี อาการไอเรื้อรัง ก็อาจสร้างความรำคาญแก่เราได้ มาดูกันดีกว่าว่า สาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการ ไอเรื้อรัง มีอะไรกันบ้าง
8 สาเหตุที่อาจทำให้เกิด อาการไอเรื้อรัง
ความเครียด
ความเครียด โดยเฉพาะความเครียดสะสม หรือความเครียดเรื้อรัง สามารถทำให้อาการไอของคุณหายช้าลงได้ ดังนั้น เวลาป่วยหรือไอ คุณไม่ควรทำงานหักโหมจนเครียด และควรนอนหลับพักผ่อนให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อาการแย่ลง และให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
หากคุณป่วยและไอ ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ โดยเฉพาะน้ำอุ่น เพื่อให้ร่างกายและทางเดินหายใจชุ่มชื้นขึ้น ช่วยให้น้ำมูกและเสมหะในทางเดินหายใจหนืดข้นน้อยลงจนขับออกจากร่างกายได้ รวมไปถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำมากกว่าเดิม
ทางเดินหายใจระคายเคืองจน ไอเรื้อรัง
อาการไอส่วนใหญ่เป็นผลมาจากโรคติดเชื้อไวรัส เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ไข้หวัด ซึ่งไวรัสจะทำให้ทางเดินหายใจบวมและระคายเคืองง่ายกว่าปกติ คุณจึงสามารถไอต่อเนื่องได้อีกหลายสัปดาห์ จนถึงขั้นไอเรื้อรัง แม้ว่าอาการอื่น ๆ ของโรคจะหายแล้วก็ตาม
ปัญหาสุขภาพ
ไอเรื้อรัง อาจเกิดได้จากโรคต่าง ๆ เช่น
- โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
- โรคภูมิแพ้
- โรคหอบหืด
- โรคกรดไหลย้อน
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (obstructive sleep apnea)
- โรคซิสติกไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis)
- โรคหลอดลมโป่งพอง (Bronchiectasis)
อากาศแห้งหรือชื้นเกินไปจน ไอเรื้อรัง
อากาศแห้ง โดยเฉพาะอากาศในช่วงหน้าหนาว หรืออาการที่ชื้นเกินไปก็สามารถทำให้คุณ ไอเรื้อรัง ไม่หยุดได้เช่นกัน นั่นเพราะความชื้นจะกระตุ้นให้เกิดหอบหืด ทำให้สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เชื้อรา เติบโตได้ดีขึ้น
ติดเชื้อแบคทีเรีย
หลังจากเป็นไข้หวัด ทางเดินหายใจของคุณจะยังระคายเคือง จึงทำให้แบคทีเรียรุนรานได้ง่ายขึ้น แบคทีเรียเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในโพรงจมูก โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดบวม หากคุณไอเรื้อรังร่วมกับมีไข้และปวดเนื้อตัว อาจเป็นสัญญาณว่าคุณติดเชื้อแบคทีเรีย ควรรีบไปพบคุณหมอ เพราะคุณอาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
ใช้ยาแก้คัดจมูกชนิดพ่นมากเกินไป
ยาหดหลอดเลือดชนิดพ่นจมูก หรือยาแก้คัดจมูกชนิดพ่นที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาอาจช่วยให้คุณหายคัดจมูกได้ แต่หากคุณใช้ยาชนิดนี้ติดต่อกันนานเกิน 3 วัน อาจทำให้เกิด Rebound effect คือ กลับมาเป็นอาการเดิมซ้ำ แต่เป็นมากกว่าเดิม ทำให้คุณคัดจมูกมากกว่าเก่า นั่นเพราะสเปรย์พ่นนี้จะทำให้เยื่อบุจมูกบวม จึงกระตุ้นให้เกิดอาการคั่ง เสมหะไหลลงคอ และ ไอเรื้อรัง
ใช้ยาลดความดันโลหิต
หากคุณมีความดันโลหิตสูงและต้องใช้ยาลดความดันโลหิต นี่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อาการไอเรื้อรังของคุณไม่หายสักที จากการศึกษาพบว่า 1 ใน 5 ของผู้ป่วยที่ใช้ยาลดความดันโลหิตในสหรัฐอเมริกาจะมีผลข้างเคียงคือ อาการไอเรื้อรัง ไอแห้ง อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้ยาลดความดันโลหิตแล้วมีอาการดังกล่าว อย่าหยุดยาเอง แต่ควรรีบปรึกษาคุณหมอเพื่อให้คุณหมอเปลี่ยนเป็นยาตัวที่เหมาะสมให้
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบคุณหมอ
- ผู้ใหญ่ที่ไอนานเกิน 8 สัปดาห์ หรือเด็กที่ไอนานเกิน 4 สัปดาห์
- ไอเป็นเลือด
- หายใจถี่
- น้ำหนักลด
- มีเสมหะเยอะมาก
- มีไข้
ไอเรื้อรัง ระวัง! ปัญหาเหล่านี้จะตามมา
หากคุณปล่อยปละละเลย ไม่หาสาเหตุและรักษาอาการ ไอเรื้อรัง ของคุณให้หาย อาการไอเรื้อรัง หรือไอไม่หยุดของคุณอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การสนทนา ร้องเพลง ออกกำลังกาย และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอีกมายมาย เช่น
- ตื่นกลางดึกบ่อย ๆ จนพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ทำให้หายใจติดขัด
- มีอาการคลื่นไส้ หรือเวียนศีรษะ
- อาเจียน
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
นอกจากปัญหาข้างต้นที่อาจเกิดขึ้นแล้ว คุณอาจไอหนักและไอไม่หยุดจนหมดสติ หรือซี่โครงหักได้ ดังนั้น ทางที่ดีคุณควรรีบไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อจะได้ป้องกัน หรือรักษาได้อย่างทันท่วงที