อาการแสดงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มักเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจเริ่มมีอาการ หลักเดือน ถึง หลักปี ต่างจากโรคเบาหวานชนิดที่ 1ดังนั้นสัญญาณเตือนหรืออาการแสดงของโรคนี้อาจไม่ชัดเจน หรือ อาจไม่มีอาการใด ๆ ในช่วงระยะเริ่มต้นที่ระดับน้ำตาลในเลือดยังไม่สูงมากนัก
อาการแสดงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่พบได้ จะคล้ายคลึงกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 แต่อาการจะค่อยเป็นค่อยไป เเละหากผู้ป่วยยังมีระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงนัก ก็มักจะยังไม่มีอาการแสดงใด ๆ
- ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- รู้สึกคันบริเวณช่องคลอดหรือองคชาต หรือติดเชื้อราซ้ำบ่อยครั้ง
- บาดแผลหายช้า
- สายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคเบาหวาน
การรับประทานอาหารและปรับพฤติกรรมสุขภาพดังต่อไปนี้ จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานที่อาจตามมาได้ เช่น โรคหัวใจ โรคไตเรื้อรัง โรคเส้นประสาทที่เกิดจากเบาหวาน
- รับประทานผัก โดยเน้นผักที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น มะเขือเทศ พริกหวาน กะหล่ำปลี คะน้า บรอกโคลี เป็นประจำ เนื่องจากจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ
- ลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลอิ่มตัวสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ ของทอด ขนมหวาน ผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง ๆ
- จำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ผสมน้ำตาล ชาไข่มุก เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดได้มาก
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนจากเบาหวานอื่น ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน
- โรคเบาหวาน เป็นโรคที่หากควบคุมได้ไม่ดี จะมีผลต่อสุขภาพโดยรวม ทำให้เกิดภาวะเเทรกซ้อนได้กับหลาย ๆ ระบบในร่างกาย ดังนั้น หากเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือมีการติดเชื้อ ควรรีบรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้อาการลุกลามจนรักษาได้ยาก
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย