เมล็ดฟักทองเป็นหนึ่งใน 13 อาหาร ลดน้ำตาลในเลือด เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม ทองแดง สังกะสี และวิตามินเค ที่อาจช่วยลดความดันโลหิต เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือด ต้านอนุมูลอิสระ และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน
การศึกษาในวารสาร Critical Reviews in Food Science and Nutrition เมื่อปี พ.ศ. 2557 ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของเมล็ดฟักทองในเเง่ของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด พบว่า เมล็ดฟักทองมีกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก (Para-Aminobenzoic Acid) ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบี และพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไตรโกนีลีน (Trigonelline) ที่เป็นสารแอลคาลอยด์ มีคุณสมบัติช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้
9. กระเทียม
กระเทียมมีวิตามินซี วิตามินบี และแมงกานีส มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันช่วยป้องกันไข้หวัด ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food & Nutrition Research ปี พ.ศ. 2560 ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของการบริโภคกระเทียมต่อการควบคุมโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า การรับประทานกระเทียม 0.05-1.5 กรัมต่อวัน อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลอีกด้วย
10.ขิง
ขิงเป็นพืชที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารและเป็นเครื่องเทศในอาหารไทยและอาหารนานาชาติหลากหลายชนิด ขิงสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ เช่น แมกนีเซียม เหล็ก วิตามินซี วิตามินบี ที่มีสรรพคุณอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Iranian Journal of Pharmaceutical Research (IJPR) เมื่อปี พ.ศ. 2558 ที่ศึกษาในผุ้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เกี่ยวกับผลของการรับประทานขิงต่อระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร พบว่า ผู้ที่รับประทานขิงมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ทาน ขิงจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวานได้
11. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการหมักนมซึ่งในปัจจุบันมีหลายชนิดให้เลือกรับประทาน เช่น กรีกโยเกิร์ต โยเกิร์ตไขมันต่ำ โยเกิร์ตมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อยอาหาร และสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และอาจมีส่วนช่วยลดน้ำตาลในเลือด รวมไปถึงช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้
จากการศึกษาที่ตีพิมพในวารสาร The Journal of Nutrition ปี พ.ศ 2560 ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการรับประทานโยเกิร์ตและโรคเบาหวาน พบว่า การรับประทานโยเกิร์ตอาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้เนื่องจากโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่เป็นโพรไบโอติก ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง จากการศึกษานี้พบว่า การรับประทานโยเกิร์ต 80-125 กรัม/วัน ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ลดลงได้มากถึง 14%
12. แอปเปิ้ลไซเดอร์
แอปเปิ้ลไซเดอร์ คือ น้ำส้มสายชูที่ได้จากกระบวนการหมักแอปเปิ้ล มีรสชาติเปรี้ยว มักนำมาใช้ปรุงอาหาร หรือรับประทานคู่กับสลัด แอปเปิ้ลไซเดอร์อุดมไปด้วยโพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก มีผลอาจช่วยควบคุมน้ำหนัก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
มีการศึกษาเกี่ยวกับผลของการรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ต่อไขมันและน้ำตาลในเลือด ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร BMC Complementary Medicine and Therapies ปี พ.ศ. 2564 โดยได้ทำการรวบรวมการศึกษาที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 9 ฉบับ พบว่า การรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดลงได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยหวานชนิดที่ 2 ที่รับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ปริมาณ 15 มิลลิตร/วัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ จะมีประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินดีขึ้น และมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
13. เห็ด
เห็ดเป็นอาหารที่ผู้คนนิยมนำมาประกอบอาหารเป็นเมนูต่าง ๆ อีกทั้งยังมีแคลอรี่ต่ำ และอุดมไปด้วยวิตามินดี สังกะสี ทองแดง ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม มีคุณสมบัติอาจช่วยลดความดันโลหิตและลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Medicinal Mushrooms ปี พ.ศ. 2554 ที่ศึกษาเกี่ยวกับการรับประทานเห็ดเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน พบว่า เห็ดมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีใยอาหารสูง ที่อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมถึงผลการรับประทานเห็ดแต่ละชนิดต่อโรคเบาหวาน
คำแนะนำเกี่ยวกับการลดระดับน้ำตาลในเลือด
นอกเหนือจากการรับประทาน 13 อาหาร ลดน้ำตาลในเลือด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดอาจทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ขนมหวาน คุกกี้ เค้ก รวมไปถึงอาหารเเปรรูป เเละ อาหารที่มีไขมันสูงด้วย เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน ของทอด
- ดื่มน้ำเปล่าเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปเเนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 ในผู้ที่เป็นเบาหวานอาจเเนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจาก เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ไตจะขับน้ำตาลส่วนเกินทางปัสสาวะ ทำให้หากดื่มน้ำทดเเทนไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำได้ โดยอาจเป็นการเฉลี่ยดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้นตลอดวันจะเหมาะสมกว่า การดื่มปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียว
- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ เช่น วิ่ง โยคะ เต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ หรือทำงานบ้าน เนื่องจากการออกกำลังกาย นอกจะช่วยให้กล้ามเนื้อเผาผลาญน้ำตาลเพิ่มขึ้นระหว่างที่ออกกำลังเเล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำยังช่วยให้เซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินดีขึ้นในระยะยาว
- หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ เพื่อให้ทราบการควบคุมระดับน้ำตาลของตนเอง รวมทั้งจดบันทึกค่าน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะเป็นข้อมูลให้คุณหมอทราบเเละสามารถปรับการรักษาให้เหมาะสมได้ยิ่งขึ้น
- เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย