ยาทำแท้ง เป็นยายุติการตั้งครรภ์ที่ช่วยหยุดการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ และขับเอาเนื้อเยื่อออกจากช่องคลอด ซึ่งเป็นยาทางการแพทย์ที่ถูกกฎหมายและต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและการดูแลของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและอันตรายจากยาปลอมที่อาจทำให้ร่างกายเสียเลือดมากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
[embed-health-tool-ovulation]
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำแท้ง
การทำแท้งเป็นการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การใช้เครื่องมือทางการแพทย์อย่างเครื่องดูดสูญญากาศ และการใช้ยา โดยยาทำแท้งเป็นยาที่ใช้เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน กระตุ้นการบีบตัวของมดลูก และขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก ซึ่งยาทำแท้งมักใช้หยุดการตั้งครรภ์ในอายุครรภ์ที่ไม่เกิน 9-12 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคุณหมอ
ในประเทศไทยสามารถให้ผู้หญิงสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้องกฎหมาย แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไข ดังนี้
- การตั้งครรภ์เกิดขึ้นในเด็กที่อายุน้อยกว่า 15 ปี
- การตั้งครรภ์เกิดขึ้นจากการถูกข่มขืน ถูกล่อลวง อนาจาร บังคับหรือข่มขู่
- การตั้งครรภ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของมารดา
- ทารกในครรภ์มีความพิการรุนแรงและส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของมารดา
- การตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ต่ำกว่า 12 สัปดาห์ หรือมากกว่า 12-20 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคุณหมอ
ยาทำแท้ง มีอะไรบ้าง
ปัจจุบันในประเทศไทยมียาทำแท้ง 2 ชนิด ที่สามารถใช้ทำแท้งได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและการดูแลของคุณหมออย่างเคร่งครัด ดังนี้
ยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol)
ยาไมโซพรอสทอลอาจใช้ในการทำแท้งร่วมกับยามิเฟพริสโตน ออกฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัวและขับเอาเนื้อเยื่อออกจากมดลูกเพื่อยุติการตั้งครรภ์ การใช้ยาไมโซพรอสทอลอาจมีผลข้างเคียง เช่น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้อง ท้องเสีย
- อาจมีอาการที่รุนแรงขึ้น เช่น วิงเวียนศีรษะ อารมณ์แปรปรวน ภาวะขาดน้ำ ปัสสาวะน้อย กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นผิดปกติ มีเลือดออกทางช่องคลอด ประจำเดือนผิดปกติ
ข้อควรระวังในการใช้ยาไมโซพรอสทอล
ในขั้นตอนการซักประวัติควรแจ้งประวัติสุขภาพให้คุณหมอทราบ โดยเฉพาะหากเป็นโรคกระเพาะหรือโรคลำไส้อักเสบ รวมทั้งในระหว่างการใช้ยาหากมีอาการที่รุนแรงขึ้น เช่น
- วิงเวียนศีรษะ อารมณ์แปรปรวน
- ภาวะขาดน้ำ ปัสสาวะน้อย
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นผิดปกติ
- เลือดออกทางช่องคลอด ประจำเดือนผิดปกติ
ควรรีบเข้าพบคุณหมอทันทีเพื่อวินิจฉันอาการและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
ยามิเฟพริสโตน (Mifepristone)
ยามิเฟพริสโตนเป็นยาที่มักใช้ร่วมกับยาไมโซพรอสทอล ขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มีบทบาทสำคัญต่อการตั้งครรภ์ ส่งผลให้เกิดการแท้งบุตร มักใช้ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์จนถึงสัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์
การทำแท้งด้วยยามิเฟพริสโตนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- วิงเวียนศีรษะ
- ท้องเสีย
- อ่อนแรง
หากพบว่าอาการดังกล่าวรุนแรงขึ้น มีไข้ ปวดท้อง หัวใจเต็นเร็ว หมดสติ หรืออาการเกิดขึ้นนานกว่า 24 ชั่วโมง ควรเข้าพบคุณหมอทันทีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
ข้อควรระวังของการใช้ยามิเฟพริสโตน
หากมีการตั้งครรภ์นอกมดลูกไม่ควรใช้ยามิเฟพริสโตนในการทำแท้ง เพราะไม่สามารถทำให้เกิดการแท้งได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังอาจทำให้มดลูกแตกจนมีเลือดออกรุนแรง และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ ผู้ที่ตั้งครรภ์เกิน 10 สัปดาห์ มีปัญหาต่อมหมวกไต มีภาวะเลือดออกผิดปกติ และคุมกำเนิดด้วยห่วงอนามัย ควรปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ยามิเฟพริสโตนในการทำแท้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการทำแท้งโดยเข้าข่ายเงื่อนไขดังที่กล่าวมาข้างต้น สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านที่อยู่ภายใต้โครงการพิเศษสำหรับผู้หญิงที่ประสบปัญหาท้องไม่พร้อม หรือติดต่อสายด่วน 1663 เพื่อรับคำปรึกษาและส่งต่อไปยังสถานพยาบาลใกล้บ้าน