Placenta previa คือ ภาวะรกเกาะต่ำ เป็นภาวะหนึ่งขณะตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตำแหน่งของรกปกคลุมหรือปิดกั้นปากมดลูกบางส่วนหรือทั้งหมด อาจทำให้เส้นเลือดที่เชื่อมต่อระหว่างรกและมดลูกฉีกขาดจนเสียเลือดมากขณะตั้งครรภ์ และโดยเฉพาะในระหว่างที่หญิงตั้งครรภ์มีอาการเจ็บครรภ์คลอดและมีการเปิดของปากมดลูก โดยทั่วไปภาวะรกเกาะต่ำจะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด และอาจมีเลือดออกมากน้อยต่างกันไป หากอัลตราซาวด์พบภาวะนี้ในอายุครรภ์ที่ยังน้อย ต้องมีการตรวจติดตามเพิ่มเติม เพราะโดยส่วนใหญ่ รกจะมีการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไปได้ในอายุครรภ์ที่มากขึ้น เพื่อวางแผนแนวทางในการคลอดต่อไป คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรฝากครรภ์และไปพบคุณหมอตามนัดหมายทุกครั้งเพื่อตรวจหาความผิดปกติหรืออาการแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ และหากพบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอดในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของการตั้งครรภ์ ควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะหากปล่อยไว้ การเลือดออกจากภาวะรกเกาะต่ำจะทำให้เกิดอันตรายได้ทั้งกับคุณแม่และทารกในครรภ์ได้
[embed-health-tool-due-date]
Placenta previa คือ อะไร
Placenta previa คือ ภาวะรกเกาะต่ำ เป็นความผิดปกติของตำแหน่งรกที่เกาะมดลูกอยู่บริเวณส่วนล่างของมดลูกจนปกคลุมปากมดลูกบางส่วนหรือทั้งหมด โดยรกคือส่วนหนึ่งของการตั้งครรภ์ เป็นอวัยวะที่เชื่อมต่อกับสายสะดือ ทำหน้าที่ลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตจากมารดาไปยังทารกในครรภ์ ทั้งยังช่วยขับของเสียจากทารกด้วย ในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก รกอาจก่อตัวและยึดเกาะอยู่ที่ส่วนล่างของมดลูก ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม หรือใกล้ส่วนบนของมดลูกหรือที่เรียกว่ายอดมดลูก ซึ่งห่างจากปากมดลูกมากพอที่จะทำให้ปากมดลูกขยายตัวได้สะดวกเมื่อถึงเวลาคลอด แต่หากมีภาวะ Placenta previa หรือรกเกาะต่ำ รกอาจไปปิดกั้นมดลูกและเป็นอุปสรรคต่อการคลอดทางช่องคลอดตามธรรมชาติ และอาจจำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์ได้
ภาวะ Placenta previa หรือ รกเกาะต่ำ แบ่งได้เป็น 4 ชนิด ดังนี้
- รกเกาะต่ำใกล้ปากมดลูก (Low-lying placenta) รกอยู่ห่างจากปากมดลูก 2 เซนติเมตร และมักจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ส่วนบนของมดลูกได้เองก่อนถึงเวลาคลอด
- รกเกาะต่ำและเกาะขอบปากมดลูก (Marginal Placenta) ขอบรกอยู่ติดกับปากมดลูกพอดี แต่ไม่ปกคลุมหรือขวางปากมดลูก
- รกเกาะต่ำปกคลุมส่วนใดส่วนหนึ่งของปากมดลูก (Partial placenta previa) รกปกคลุมปากมดลูกเพียงบางส่วน และอาจไม่คลุมปากมดลูกในตอนที่ปากมดลูกตัวขยายเพื่อเตรียมคลอด
- รกเกาะต่ำและปกคลุมปากมดลูกทั้งหมด (Total placenta previa) รกปกคลุมปากมดลูกทั้งหมด ทั้งยังขวางปากมดลูกในตอนที่ปากมดลูกขยายตัวเพื่อเตรียมคลอด
สาเหตุของภาวะ Placenta previa คืออะไร
สาเหตุของ Placenta previa ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ผู้ที่มีภาวะสุขภาพต่อไปนี้ อาจเสี่ยงเกิด Placenta previa หรือภาวะรกเกาะต่ำได้มากกว่าคนทั่วไป
- ตั้งครรภ์เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป
- เคยตั้งครรภ์มาแล้ว
- เคยผ่าคลอด
- เคยผ่าตัดมดลูก ผ่าคลอด หรือขูดมดลูก ทำให้มีแผลภายในมดลูก
- ใช้สารเสพติด เช่น บุหรี่ โคเคน
- ทารกในครรภ์อยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ
อาการของ Placenta previa
อาการที่เกิดจาก Placenta previa อาจแตกต่างกันไปในคุณแม่แต่ละคน แต่อาการที่พบได้บ่อยที่สุดของภาวะ Placenta previa คือ การมีเลือดไหลออกจากช่องคลอด เนื่องจากทารกตัวใหญ่ขึ้นและมดลูกขยายตัวออก ทำให้เกิดรอยแยกระหว่างตัวรกกับเนื้อเยื่อปากมดลูกที่รกยึดเกาะอยู่ จนส่งผลให้มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด มักพบในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือเดือนที่ 7-9 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเข้าสู่ช่วงระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์แล้ว นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการร่วมอื่น ๆ ด้วย เช่น
- มีภาวะมดลูกหดรัดตัวก่อนกำหนดคลอด (Premature uterine contractions) ซึ่งอาจทำให้ปวดท้องได้
- ทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกติ (Abnormal presentattion) เช่น ท่านอนขวาง ท่าก้น ท่าเอียง
ภาวะแทรกซ้อนของ Placenta previa
ภาวะแทรกซ้อนของ Placenta previa อาจมีดังนี้
- การตกเลือด Placenta previa หรือภาวะรกเกาะต่ำอาจทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดอย่างรุนแรงจนทำให้คุณแม่สูญเสียเลือดในปริมาณมาก ซึ่งอาจเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ขณะคลอด หรือในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังคลอด
- การคลอดก่อนกำหนด การตกเลือดอย่างหนักอาจทำให้คุณหมอพิจารณผ่าคลอดฉุกเฉินทางหน้าท้องก่อนถึงกำหนดคลอดหรือก่อนสัปดาห์ที่ 37 ของการตั้งครรภ์
- ภาวะรกเกาะแน่น (Placenta Accreta) เกิดขึ้นเมื่อรกเกาะลึกทะลุกล้ามเนื้อมดลูกและฝังแน่นจนไม่สามารถแยกตัวออกมาตามปกติแม้ว่าจะคลอดแล้วก็ตาม อาจเป็นผลมาจากการมีแผลภายในมดลูก ทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดในปริมาณมากระหว่างการตั้งครรภ์ ขณะคลอด และหลังคลอด ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องตัดมดลูกออกเพื่อควบคุมการตกเลือด
วิธีรักษา Placenta previa
คุณหมอจะวางแผนการรักษา Placenta previa โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ภาวะสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ ตำแหน่งของรก อายุครรภ์ วิธีรักษาอาจมีดังนี้
- อายุครรภ์ ในกรณีที่ไม่มีการเลือดออกในระหว่างการตั้งครรภ์ คุณหมอจะพิจารณาให้ผ่าคลอดที่อายุครรภ์ประมาณ 37 สัปดาห์ (ทารกในครรภ์ครบกำหนดแล้ว) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดทางช่องคลอด เช่น ภาวะตกเลือดขณะตั้งครรภ์ หากมีการเจ็บครรภ์ขึ้นมาก่อน สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่ถึงกำหนดคลอด คุณหมออาจให้ยาที่ช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนด และอาจฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) เพื่อช่วยให้ปอดของทารกพัฒนาได้เร็วขึ้น
- ความรุนแรงของการตกเลือด หากคุณแม่มีเลือดออกเพียงเล็กน้อย คุณหมอแนะนำแนวทางการดูแลตัวเองเมื่อต้องทำกิจกรรมที่ส่งผลให้ตกเลือดมากขึ้น เช่น การเดินทางไกล การมีเพศสัมพันธ์ การออกกำลังกายที่หนัก หากคุณแม่ตกเลือดแล้วแต่ยังไม่ถึงกำหนดคลอด และไม่สามารถแก้ไขภาวะเลือดออกนั้นได้ด้วยวิธีอื่น เช่น ให้ยายับยั้งการหดรัวตัวของมดลูก อาจต้องผ่าคลอดก่อนกำหนดเพื่อรักษาชีวิตของคุณแม่เอาไว้