backup og meta

น้ำคาวปลา กี่วันหมด และวิธีการดูแลตัวเองหลังคลอด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงสุจิณันฐ์ นันทาภิวัธน์ · สุขภาพทางเพศ · โรงพยาบาลนครพิงค์


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 09/08/2023

    น้ำคาวปลา กี่วันหมด และวิธีการดูแลตัวเองหลังคลอด

    น้ำคาวปลา กี่วันหมด อาจเป็นคำถามที่คุณแม่หลังคลอดหลายคนสงสัย โดยปกติน้ำคาวปลาจะค่อย ๆ หมดไปเมื่อแผลบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกค่อย ๆ สมานตัว ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคุณแม่หลังคลอดด้วย

    น้ำคาวปลา คืออะไร กี่วันหมด

    น้ำคาวปลา คือ ของเหลวที่ถูกขับออกหลังคลอดประกอบด้วยเลือด เนื้อเยื่อที่หลั่งออกจากเยื่อบุโพรงมดลูกและแบคทีเรีย ในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด น้ำคาวปลาจะมีปริมาณมาก มีสีแดงสดเนื่องจากมีเลือดผสมอยู่มากและมีลิ่มเลือดเล็ก ๆ ไหลออกมาทางช่องคลอด หลังจากผ่านไปประมาณ 10 วัน แผลบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกจะค่อย ๆ ลดขนาดลง น้ำคาวปลาและเลือดก็จะค่อย ๆ ลดปริมาณลงและอาจเปลี่ยนเป็นสีชมพู สีน้ำตาล สีครีมหรือสีเหลือง โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ น้ำคาวปลาก็จะหมดไป

    วิธีดูแลตัวเองขณะมีน้ำคาวปลา

    หลังจากคลอดบุตรควรใช้ผ้าอนามัยแผ่นใหญ่ชนิดหนา หรือผ้าอนามัยแบบกางเกงเพื่อรองรับเลือดและน้ำคาวปลาที่ไหลออกมามากในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด เมื่อเวลาผ่านไปและปริมาณน้ำคาวปลาเริ่มลดลง คุณแม่สามารถเปลี่ยนมาใช้ผ้าอนามัยแผ่นเล็กลงได้ แต่ไม่ควรใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ เพราะอาจเสี่ยงติดเชื้อในช่องคลอดและอาจทำให้มดลูกกลับมาเป็นปกติช้าลง

    นอกจากนี้ คุณแม่ควรปัสสาวะให้บ่อยขึ้นแม้ว่าจะไม่รู้สึกปวดปัสสาวะก็ตาม โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด คุณแม่อาจรู้สึกปวดปัสสาวะน้อยลงถึงแม้ว่ากระเพาะปัสสาวะจะเต็ม และหากปล่อยให้กระเพาะเต็มบ่อย ๆ อาจทำให้มดลูกหดตัวได้ยากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด และมีอาการปวดหลัง

    การตกเลือดหลังคลอดและลักษณะน้ำคาวปลาที่ผิดปกติ

    การตกเลือดหลังคลอด เป็นความผิดปกติร้ายแรงที่อาจทำให้เสียเลือดปริมาณมากจนทำให้ความดันโลหิตลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้อวัยวะไม่ได้รับเลือดอย่างเพียงพอและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ สาเหตุที่พบบ่อยอาจเกิดจากกล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวไม่ดี หรือมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกมดลูกอักเสบติดเชื้อ เนื่องจากการที่มดลูกไม่หดตัวกลับมาเป็นปกติเท่าที่ควร คือ สูง 7-8 เซนติเมตร กว้าง 4-5 เซนติเมตร หนา 3-4 เซนติเมตร จะทำให้เกิดการตกเลือดมาก หรือหากเคยตกเลือดหลังคลอดมาก่อน ก็อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดซ้ำได้ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ เช่น

    • การคลอดยากและใช้เวลาคลอดนาน
    • การคลอดลูกแฝด
    • ทารกมีขนาดตัวใหญ่กว่า 3 กิโลกรัม
    • เคยผ่านการคลอดบุตรมาแล้วหลายครั้ง
    • มดลูกแตก มดลูกฉีกขาดระหว่างคลอด
    • การผ่าคลอด เพิ่มความเสี่ยงตกเลือดหลังคลอด
    • การใช้ยาออกซิโตซิน (Oxytocin) ในระยะเวลานานเพื่อกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวได้ดีในระหว่างการคลอด
    • ภาวะครรภ์เป็นพิษ
    • โรคอ้วน

    สำหรับลักษณะของน้ำคาวปลาและอาการผิดปกติที่ควรรีบเข้าพบคุณหมอ มีดังนี้

    • อาการตกเลือดหลังคลอดดีขึ้นแล้ว แต่ก็กลับมามีเลือดไหลเพิ่มขึ้นอีก
    • เลือดยังเป็นสีแดงสดหลังคลอดลูกแล้วเกิน 1 สัปดาห์
    • เลือดไหลออกมามากอย่างต่อเนื่องและต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 2 ชั่วโมง
    • ลิ่มเลือดที่ใหญ่ผิดปกติหรือมีขนาดใหญ่กว่าลูกพลัม
    • ตาพร่ามัว
    • ผิวชื้น หนาวสั่น
    • เวียนหัว หน้ามืด หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น
    • อ่อนแรง
    • คลื่นไส้

    น้ำคาวปลาอาจมีกลิ่นเฉพาะคล้ายกับกลิ่นเลือดประจำเดือน แต่หากสังเกตว่าน้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นมากร่วมกับอาการไข้และหนาวสั่น ควรรีบเข้าพบคุณหมอทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหลังคลอด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงสุจิณันฐ์ นันทาภิวัธน์

    สุขภาพทางเพศ · โรงพยาบาลนครพิงค์


    เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 09/08/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา