นอกจากนี้ คุณต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ของคุณด้วย เช่น อายุ ระบบเผาผลาญ จะได้ปรับวิธีการลดน้ำหนักด้วยการกระโดดเชือกกับการกินให้สมดุลกัน เพื่อให้เกิด ภาวะพลังงานขาดดุล (Calorie deficit) หรือการรับพลังงานจากการกินอาหารให้น้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายใช้ไปในแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายดึงไขมันที่เก็บไว้เป็นพลังงานสำรองออกมาใช้ เรียกง่ายๆ ว่า ให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าที่กินเข้าไปนั่นเอง
ยกตัวอย่างผู้หญิงน้ำหนัก 150 ปอนด์ (ประมาณ 68 กิโลกรัม) ที่เลือกกินอาหารดีต่อสุขภาพ อาจสามารถสร้างภาวะพลังงานขาดดุล หรือลดแคลอรี่ได้ถึงวันละ 500 กิโลแคลอรี่ หรือ 3,500 กิโลแคลอรี่ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้น้ำหนักลดลงไปได้ถึง 1 ปอนด์ (ประมาณ 0.45 กิโลกรัม)
หากผู้หญิงคนนี้ กระโดดเชือก วันละ 20 นาที เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ ก็จะลดแคลอรี่เพิ่มได้อีกวันละ 200 กิโลแคลอรี่ หรือ 1,000 กิโลแคลอรี่ต่อสัปดาห์ ทำให้ลดน้ำหนักเพิ่มได้อีกสัปดาห์ละครึ่งปอนด์ (ประมาณ 0.22 กิโลกรัม) เลยทีเดียว และยิ่งหากกระโดดเชือกต่อวันนานขึ้น ร่างกายก็จะยิ่งเผาผลาญได้มากขึ้น ทำให้น้ำหนักลดลงเร็วขึ้นอีก
เมื่อควบคุมอาหารและ กระโดดเชือก จนน้ำหนักเริ่มลดลงแล้ว คุณจะต้องปรับระยะเวลาในการกระโดดเชือกให้นานขึ้น และต้องปรับปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายควรได้รับต่อวันให้เหมาะสมด้วย การกระโดดเชือกลดน้ำหนักจึงจะเห็นผลอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี แพทย์แนะนำว่า เราไม่ควรลดน้ำหนักลงเกินสัปดาห์ละ 2 ปอนด์ (ประมาณ 0.9 กิโลกรัม) ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลเสียต่อมวลกล้ามเนื้อได้
เทคนิคในการ กระโดดเชือกลดน้ำหนัก
คนมักเข้าใจผิดว่า หากอยากกระโดดเชือกลดน้ำหนัก ก็แค่กระโดดเชือกไปจนกว่าจะครบเวลาที่กำหนด แต่ความจริงแล้ว คุณจะต้องกระโดดเชือกในรูปแบบของการออกกำลังกายแบบฮิต (HIIT) นั่นคือ ออกกำลังกายอย่างหนักในระยะเวลาสั้นๆ สลับกับออกกำลังกายเบาๆ ซึ่งคุณสามารถทำได้ตามเทคนิค ดังต่อไปนี้
เทคนิคกระโดดเชือดลดน้ำหนักให้ได้ผล
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย