เลือดเป็นกรด เกิดจากร่างกายมีระดับกรดในกระแสเลือดมากเกินไป หรือเมื่อร่างกายสูญเสียไบคาร์บอเนต (Bicarbonate) หรือด่างในปริมาณมาก จนทำให้ภาวะกรด-ด่างเสียสมดุล โดยทั่วไป ค่าความเป็นกรด-ด่างหรือค่า pH ในร่างกายจะแสดงเป็นสเกล 0-14 ตามปกติเลือดจะมีค่า pH อยู่ระหว่าง 7.35-7.45 และร่างกายจะรักษาค่า pH ของเลือดให้ใกล้เคียง 7.40 แต่หากค่า pH ของเลือดต่ำกว่า 7.35 แสดงว่าร่างกายมีกรดมากเกินไปจนระดับความเป็นกรด-ด่างเสียสมดุล และอยู่ในภาวะเลือดเป็นกรด
เมื่อเลือดเป็นกรด สมองส่วนที่ควบคุมการหายใจจะกระตุ้นให้ร่างกายหายใจเร็วและลึกขึ้น เพื่อให้ขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกทางการหายใจออกได้มากที่สุด และปรับให้ค่า pH ของเลือดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ในขณะเดียวกันไตก็ต้องทำงานหนักเพื่อขับกรดออกทางปัสสาวะให้มากขึ้นด้วย แต่หากร่างกายยังคงผลิตกรดมากเกินไปอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ระบบร่างกายไม่สามารถขับกรดออกได้ทันท่วงที จนนำไปสู่ภาวะเลือดเป็นกรดอย่างรุนแรง ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ และอาจทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะโคม่าหรือเกิดภาวะช็อกได้
สาเหตุของ เลือดเป็นกรด
สาเหตุของเลือดเป็นกรด อาจแบ่งได้ดังนี้
เลือดเป็นกรดจากกระบวนการเผาผลาญ (Metabolic Acidosis)
เกิดจากร่างกายผลิตกรดมากเกินไป หรืออาจเกิดจากไตไม่สามารถกำจัดกรดส่วนเกินได้ จึงมีกรดสะสมอยู่ในกระแสเลือด เลือดเป็นกรดจากกระบวนการเผาผลาญเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย