หากพบว่าทารกมีความเสี่ยงเป็นโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด ทารกจะได้รับการตรวจสุขภาพตาภายใน 2-3 สัปดาห์หลังคลอด โดยคุณหมอจะทำการหยอดยาเข้าลูกตาเพื่อขยายรูม่านตา จากนั้นจะตรวจทุกส่วนภายในตาโดยเฉพาะจอตา เพื่อหาความผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด และหากพบความผิดปกติคุณหมออาจนัดหมายเพื่อตรวจตาของทารกอีกครั้ง โดยความถี่ในการตรวจจะขึ้นกับความรุนแรงของโรคที่ตรวจพบในครั้งแรก ติดตามจนกว่าอาการจะกลับมาเป็นปกติ
การรักษา ROP
โรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดหากอยู่ในระยะไม่รุนแรง อาการอาจดีขึ้นเองโดยไม่ต้องรักษา แต่สำหรับทารกที่มีอาการของโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดที่รุนแรง คุณหมออาจแนะนำการรักษา ดังนี้
- การทำเลเซอร์ บริเวณด้านข้างจอตา ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้อาจช่วยป้องกันไม่ให้อาการของโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดแย่ลง และอาจช่วยให้การมองเห็นของทารกดีขึ้น
- ฉีดยาเข้าลูกตา (Intravitreous) โดยการฉีดยาระงับการเจริญเติบโตของเยื่อบุผนังหลอดเลือด (Vascular Endothelial Growth Factor หรือ VEGF) เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของหลอดเลือดใหม่ในดวงตา
- ศัลยกรรมตา เป็นการผ่าตัดจอประสาทตาบางส่วนหรือทั้งหมด สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ การผ่าตัดจอประสาทตา (Scleral Buckle) ด้วยการที่ใช้วัสดุหนุนตาขาวเพื่อดันจอประสาทตาให้กลับติดเข้าที่ การทำผ่าตัดน้ำวุ้นตา (Vitrectomy) บางส่วนออกและแทนที่ด้วยน้ำเกลือ เพื่อกำจัดเนื้อเยื่อแผลเป็นบนจอตา
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อจัดการกับ ROP
เพื่อป้องกันไม่ให้โรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดรุนแรงขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรให้ทารกแรกเกิดตรวจคัดกรองสุขภาพตา โดยเฉพาะทารกแรกเกิดที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น น้ำหนักแรกเกิดต่ำ คลอดก่อนกำหนด และควรเข้ารับการตรวจตาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย