backup og meta

ฝึกลูกนอนเร็ว มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 12/12/2022

    ฝึกลูกนอนเร็ว มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

    การ ฝึกลูกนอนเร็ว อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ แต่ละครอบครัวต่างมีวิธีที่แตกต่างกันไป บางคนเลือกเล่านิทาน บางครอบครัวอาจเลือกร้องเพลงกล่อม แต่อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการ ทั้งนี้ อาจต้องอาศัยหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นการฝึกสร้างระเบียบวินัย การสร้างบรรยากาศ การพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจถึงเหตุผลในการนอนเร็ว เพื่อฝึกให้ลูกนอนเร็วได้ผลดียิ่งขึ้น

    ฝึกลูกนอนเร็ว มีประโยชน์อย่างไร

    การฝึกลูกเข้านอนเร็ว ถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่ส่งผลดีและมีประโยชน์ต่อเด็กในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

    • การเข้านอนแต่หัววัน จะทำให้เด็กได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่รู้สึกอ่อนเพลียเมื่อตื่นนอนตอนเช้า
    • มีส่วนช่วยให้พัฒนาการด้านความจำและสุขภาพจิตดีขึ้น อันเป็นผลมาจากการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
    • การฝึกลูกนอนเร็วมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาความดันโลหิตได้
    • การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่ปัญหาโรคอ้วน การฝึกลูกนอนเร็วจึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่โรคอ้วนในเด็กได้
    • หากลูกน้อยนอนดึกอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความเครียด ซึมเศร้า เมื่อลูกเข้านอนเร็วจึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าได้

    ฝึกลูกนอนเร็ว ทำได้อย่างไร

    สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เคยเลี้ยงลูกมาแล้วอาจสามารถรับมือกับปัญหาลูกเข้านอนดึกได้ดีกว่าเพราะมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว แต่สำหรับพ่อแม่มือใหม่ การพาลูกเข้านอนแต่ละครั้งอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย หากกำลังประสบกับปัญหาลูกน้อนไม่ยอมนอนหรือนอนดึก อาจลองใช้วิธีดังต่อไปนี้ เพื่อฝึกลูกนอนเร็ว 

    • กำหนดเวลาเข้านอนให้ชัดเจน เพื่อให้ลูกน้อยสามารถจดจำได้ว่าเวลานี้เป็นเวลาที่ควรจะพักผ่อนนอนหลับ และควรกำหนดเวลาเข้านอนจนถึงเวลาตื่นนอนให้ได้อย่างน้อย 9-11 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
    • ผ่อนคลายก่อนนอน การชวนลูกทำกิจกรรม เช่น เล่นเกม ร้องเพลงกล่อม เล่านิทาน สัก 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน จะช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย และง่วงนอนโดยอัตโนมัติ
    • ปิดหน้าจอก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รบกวนเวลานอนของลูกน้อย หรือทำให้ลูกน้อยนอนดึกเพราะอาจติดหน้าจอ ควรกำหนดให้ลูกปิดหน้าจอทั้งโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟนอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน หรือควรมีกฎไม่ให้นำสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดเข้าห้องนอน
    • สร้างบรรยากาศให้เหมาะกับการนอน ตั้งแต่การตั้งอุณหภูมิในห้องนอนให้เย็นสบาย มีแสงสว่างที่น้อยลง มีความเงียบสงบ หรือแม้แต่การตกแต่งห้องนอนให้น่าอยู่ สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้ลูกน้อยรู้สึกอยากนอนได้
    • จัดการกับความกลัว หากลูกน้อยต้องนอนคนเดียวอาจรู้สึกกลัวความมืด หรือกลัวการนอนคนเดียว ควรบรรเทาความกลัวให้ลดลง เช่น เปิดโคมไฟที่ให้แสงสว่างเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ห้องนอนมืดเกินไป หาน้องเน่าให้มาอยู่เป็นเพื่อนลูก หรืออาจจะนอนเป็นเพื่อนลูก รอจนลูกหลับแล้วจึงแยกตัวออกมา หรือหลีกเลี่ยงบทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่าที่ทำให้ลูกกลัว 
    • ให้รางวัลบ้าง ในบางครั้ง หากลูกสามารถเข้านอนเร็ว เช้าวันต่อมาอาจจะมีรางวัลเล็กน้อย วิธีนี้อาจช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกน้อยรู้สึกได้ว่าการเข้านอนแต่หัววัน และหลับอย่างเต็มอิ่มนั้นคุ้มค่ากว่าที่คิด แต่ระวัง อย่าให้ลูกติดของรางวัลเพราะอาจกลายเป็นว่า ไม่ว่าฝึกให้ลูกทำอะไร เขาก็จะเรียกร้องขอของรางวัลอยู่เสมอ
    • ไปพบคุณหมอ ในกรณีที่รู้สึกว่าลูกอาจจะมีปัญหาเรื่องการนอนเกินกว่าที่คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือได้ ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อรับคำปรึกษาหรือคำแนะนำเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับพฤติกรรมและปัญหาได้อย่างตรงจุด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 12/12/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา