backup og meta

พัฒนาการเด็กวัยประถม กับการเปลี่ยนแปลง ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 31/05/2021

    พัฒนาการเด็กวัยประถม กับการเปลี่ยนแปลง ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

    เด็ก ๆ ที่เข้าสู่ช่วงวัยประถมส่วนใหญ่มักอยู่ในช่วงอายุ 6-12 ปี ด้วยกัน พร้อมมีการเจริญเติบโตขึ้นตามแต่ละช่วงวัย รวมไปถึงการอบรม เอาใจใส่ และการดูแลของคุณพ่อคุณแม่ร่วมด้วย แต่คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่คะว่า ในช่วงอายุลูกรักดังกล่าว จะส่งผลให้พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นในด้านใดบ้าง ถ้าหากยังไม่ทราบละก็ วันนี้บทความของ Hello คุณหมอ จึงขอนำความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ถึง พัฒนาการเด็กวัยประถม และเคล็ดลับการดูแลให้เหมาะกับช่วงวัย มาฝากผู้ปกครองทุกคนกันค่ะ

    รูปแบบการเรียนรู้ของ เด็กวัยประถม

    แต่ละช่วงอายุ และอุปนิสัยเด็ก ๆ แต่ละบุคคลนั้น ย่อมมีการเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจมีความต้องการอยากจะเรียนรู้ทางด้านวิชาการ ในขณะที่เด็กบางคนอาจอยากเรียนรู้ทางด้านกิจกรรม แต่ส่วนใหญ่โดยรวมแล้วเด็กในช่วงวัยประถมมักอยากเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ที่เข้ามาเสมอ พวกเขาจะกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น ชอบสำรวจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการพบเจอสังคมใหม่ในโรงเรียน วิชาเรียน กิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางคุณครูผู้สอนได้มอบหมายให้ ซึ่งมักจะทำให้เด็กคัดกรองในสิ่งที่ตนเองชอบได้ว่า ตัวพวกเขานั้นถนัดอะไร ชอบทำอะไร และสิ่งใดที่ไม่ค่อยถนัด

    ดังนั้นรูปแบบการเรียนรู้ของเด็กในช่วงวัยนี้ผู้ปกครองทุกคนควรสนับสนุนหากเป็นไปในทางที่ดี และควรตักเตือนหากลูกรักมีพฤติกรรมที่ไม่สมควร แต่ไม่ถึงกับต้องบังคับตลอดเวลา เนื่องจากเด็กวัยประถมต้องการอิสระในภายใต้การขอความคิดเห็นจากผู้ปกครองร่วม เพื่อทำให้เขาตัดสินใจลงมือทำ และเพลิดเพลินกับสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบได้อย่างสนุกขึ้น

    พัฒนาการเด็กวัยประถม แต่ละช่วงอายุ

    อย่างที่ทราบกันดีว่า เด็กวัยประถม ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 6-12 ปี โดยแต่ละช่วงอายุก็ย่อมมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

    1. ช่วงอายุ 6- 8 ปี

    การเปลี่ยนแปลงด้านความคิด และการเรียนรู้

    • มีความเห็นใจ ห่วงใยผู้อื่น ตามสถานการณ์ที่พบเจอได้มากขึ้นกว่าการเห็นแก่ตัวเอง
    • เริ่มมีทักษะการพูดคุย หรืออธิบายถึงความรู้สึก ความคิดที่ดี
    • มีความสามารถใหม่ ๆ ที่พวกเขาชอบเพิ่มเข้ามา

    การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ และสังคม

    • เริ่มนึกถึงอนาคต หรือสิ่งเป้าหมายที่อยากเป็นตามความชื่นชอบ
    • ให้ความสำคัญเมื่อต้องมีการทำงานเป็นกลุ่มกับคนหมู่มาก
    • มีความต้องการให้เป็นที่ยอมรับ และความชื่นชอบจากเพื่อน
    • แสดงถึงอิสระที่ตนเองต้องการให้ผู้ปกครองได้ทราบมากขึ้น
    1. ช่วงอายุ 9-11 ปี

    การเปลี่ยนแปลงด้านความคิด และการเรียนรู้

    • เริ่มเห็นมุมมองต่าง ๆ ด้านความคิดอีกแง่มุมของผู้อื่นชัดเจนมากยิ่งขึ้น
    • เริ่มมีความสนใจอยากเรียนรู้ด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม

    การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ และสังคม

    • มีการตระหนักถึงกายภาพมากขึ้น เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยแรกรุ่น
    • มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนที่แน่นแฟ้น ให้ความสำคัญกับเพื่อนมากขึ้น
    1. ช่วงอายุ 12 ปี

    การเปลี่ยนแปลงด้านความคิด และการเรียนรู้

    • รู้จักแยกแยะสิ่งผิด-ถูกได้มากขึ้น
    • มีการแสดงออกความรู้สึกผ่านการพูดคุยได้ดี

    การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ และสังคม

    • อารมณ์แปรปรวน
    • เริ่มมีภาวะความเครียดจากสิ่งรอบข้าง
    • รู้จักดูแลตัวเอง เอาใจใส่บุคลิกภาพมากขึ้น
    • ให้ความสำคัญกับเพื่อนมากขึ้น จนลดความสัมพันธ์ในครอบครัว
    • มีกิริยาแสดงความหยาบคาย ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
    • ขาดความมั่นใจ

    พัฒนาการข้างต้นของเด็ก ๆ จะไปในเชิงบวก หรือเชิงลบนั้น อาจต้องขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ การดูแลของผู้ปกครอง และสังคมความเป็นอยู่รอบด้านร่วมด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้ก็เป็นอีกปัจจัยที่มีผลกับเด็ก ๆ ในการกระตุ้นพัฒนาการ และการเติบโตนำไปสู่การใช้ชีวิตในวันข้างหน้าได้

    เคล็ดลับการเลี้ยงดูเด็กวัยประถม

    ในฐานะที่คุณเป็นผู้ปกครอง คุณต้องรู้จักฝึกวินัยพวกเขาตั้งแต่เนิ่น ๆ พร้อมเอาใจใส่ พูดคุย ถามไถ่สม่ำเสมอ และมักหากิจกรรมทำร่วมกัน เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าคุณไม่ใช่เป็นเพียงแค่พ่อแม่ แต่ยังเป็นเพื่อน และที่ปรึกษาคนสำคัญในชีวิต ที่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็สามารถเข้าไปพูดคุยได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัว หรือถูกทำโทษรุนแรง

    ที่สำคัญควรชี้แนะแนวทางด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง กล่าวตักเตือนทุกครั้งหากเด็ก ๆ ทำผิดพลาด เว้นการลงโทษดุด่าถ้อยคำหยาบคาย และใช้ความรุนแรงเป็นทางออก เพราะอาจเป็นการสร้างความกลัวให้เด็กฝังใจจนส่งผลต่อสุขภาพจิตได้ อีกทั้งในกรณีที่เด็กมีความประพฤติดี คุณจำเป็นต้องชมเชย หรือมีการให้รางวัลบ้างเล็กน้อย เพื่อให้พวกเขารู้สึกมีกำลังใจจะทำต่อ และพร้อมสนับสนุนกิจกรรมในสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ภาษา วิชาการ ศิลปะ เป็นต้น

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 31/05/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา