แคลเซียมสำหรับเด็กวัยเรียน จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทั้งยังสำคัญต่อระบบการทำงานของร่างกายในส่วนอื่น ๆ เช่น การทำงานของกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน การเต้นของหัวใจ ดังนั้น การรู้ถึงความสำคัญของแคลเซียม อาจช่วยให้พ่อแม่ส่งเสริมสุขภาพของเด็กวัยเรียนให้ดียิ่งขึ้น
แคลเซียมสำหรับเด็กวัยเรียน สำคัญอย่างไร
วัยเด็กเป็นวัยที่ต้องการแคลเซียม เพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง หากไม่มีการสะสมเพิ่มเติมแคลเซียมในกระดูกจะถูกดึงออกเพื่อใปใช้ในส่วนอื่น ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปกระดูกจะอ่อนแอลงและเปราะบาง ซึ่งอาจส่งผลต่อโรคกระดูกพรุนในอนาคตได้ นอกจากนี้ แคลเซียมยังมีความสำคัญต่อระบบการทำงานของร่างกายในส่วนอื่น ๆ เช่น การทำงานของกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน การเต้นของหัวใจ
ปริมาณแคลเซียมที่เด็กวัยเรียนควรได้รับ
ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับอาจแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ซึ่งปริมาณแคลเซียมที่เด็กวัยเรียนควรได้รับ มีดังนี้
- เด็กอายุ 1-3 ปี ควรได้รับแคลเซียม 700 มิลลิกรัม/วัน ประมาณ 2-3 มื้อ
- เด็กอายุ 4-8 ปี ควรได้รับแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัม/วัน ประมาณ 2-3 มื้อ
- เด็กและวัยรุ่นอายุ 9-18 ปี ควรได้รับแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัม/วัน ประมาณ 4 มื้อ
อาหารที่อุดมไปด้วย แคลเซียมสำหรับเด็กวัยเรียน
อาหารดังต่อไปนี้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมที่เหมาะสำหรับเด็กวัยเรียน
- ผักใบเขียว เช่น บร็อคโคลี่ ผักกาดขาว ผักโขม คะน้า กระหล่ำปลี
- ถั่วและเมล็ดพืช เช่น อัลมอนด์ เมล็ดงา ถั่วเหลือง เมล็ดเจีย ถั่วเขียว ถั่วขาว ถั่วแดง ถัวแระญี่ปุ่น
- ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมจากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง
- ปลา เช่น ปลาซาร์ดีน ปลากระป๋อง
- ผลิตภัณฑ์นม เช่น นมวัว โยเกิร์ต นมอัลมอลด์ ชีส
- ผลไม้ เช่น ส้ม มะเดื่อ ลูกพรุน
คุณพ่อแม่อาจนำอาหารเหล่านี้มาปรุงเป็นมื้ออาหารเสริมแคลเซียมให้กับเด็กได้ นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ยังควรให้เด็กได้รับวิตามินมากเพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
ข้อควรระวังในการบริโภคแคลเซียม
แม้ว่าการเสริมแคลเซียมให้ด็กวัยเรียนจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเด็กได้รับแคลเซียมในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลทำให้เกิดโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคทางเดินสมองบางชนิด นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการท้องผูก แน่นท้อง มวนท้อง ปวดหัว ปวดกระดูก เหนื่อยล้า ปัสสาวะบ่อย คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดกล้ามเนื้อ และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับความจำ
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรควบคุมปริมาณของแคลเซียมที่เด็กจะได้รับให้เหมาะสม โดยไม่ให้มากเกินกว่าความต้องการของร่างกายตามช่วงวัย และหากเด็กเริ่มมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น ควรให้เด็กกินอาหารเสริมแคลเซียม และพาไปพบคุณหมอทันที
[embed-health-tool-vaccination-tool]