backup og meta

แปรงฟันให้ลูก และวิธีดูแลช่องปากที่ถูกต้อง

แปรงฟันให้ลูก และวิธีดูแลช่องปากที่ถูกต้อง

การแปรงฟัน ควรฝึกฝนตั้งแต่เด็กให้เป็นนิสัย โดยคุณพ่อคุณแม่ควร แปรงฟันให้ลูก ตั้งแต่เริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นเป็นซี่แรก นอกจากสอนวิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง ควรสอดแทรกวิธีอื่น ๆ สำหรับดูแลสุขภาพช่องปาก เช่น การบ้วนปาก การกลั้วคอ เพื่อสร้างพื้นฐานการมีสุขภาพปากที่ดีและฟันที่แข็งแรงต่อไป

[embed-health-tool-vaccination-tool]

ทำไมจึงต้อง แปรงฟันให้ลูก

การแปรงฟันมีประโยชน์อย่างมาก ทั้งช่วยขจัดคราบหินปูน คราบฟัน เศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน รวมถึงกลิ่นปากได้ด้วย ซึ่งคราบและเศษอาหารเหล่านี้ คือต้นตอของปัญหาสุขภาพปากและฟัน ทั้งยังเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย ฉะนั้น ตุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกฝนและแปรงฟันให้ลูกอย่างน้อยวันละสองครั้ง หากลูกน้อยยังไม่มีฟันน้ำนมขึ้น อาจใช้สำลี หรือผ้าชุบน้ำอุ่น หรือผลิตภัณฑ์เข็ดทำความสะอาดภายในช่องปากสำหรับเด็ก เช็ดบริเวณเหงือก ลิ้น และกระพุ้งแก้ม

เตรียมความพร้อมในการ แปรงฟันให้ลูก

วัยเด็กเป็นวัยที่ฟันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งยังเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพฟันหากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะปัญหาที่พบได้บ่อยคือ ฟันผุ ทั้งนี้ อาจป้องกันปัญหาสุขภาพเหงือกและฟันให้ลูกน้อยได้ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • ฟันยังไม่ขึ้น

ในช่วงที่ลูกน้อยยังไม่มีฟันน้ำนมงอกขึ้นมานั้น คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นทำความสะอาดเหงือกและลิ้นเพื่อเช็ดคราบน้ำนมที่อาจหมักหมมจนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก อาจใช้สำลี หรือผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดที่ลิ้นและเหงือกเบา ๆ หรือใช้ปลอกนิ้วยางในการทำความสะอาดเหงือก และยังเป็นการช่วยนวดเหงือกไปในตัวด้วย

  • ฟันเพิ่งขึ้น

เด็กที่มีอายุ 6 เดือนจนถึง 2 ปี เริ่มมีฟันน้ำนมงอกขึ้นมาแล้ว จึงอาจทำให้ลูกน้อยมีอาการเจ็บบริเวณเหงือกได้ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บ คันเหงือก ด้วยการหาของเล่นที่เป็นยางมาให้กัดเล่น

  • ฟันผุต้องระวัง

สำหรับเด็กที่มีฟันน้ำนมแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลภายในช่องปากของลูกและหมั่นแปรงฟันให้ลูกด้วย อย่างน้อยวันละสองครั้ง คือ หลังอาหารเช้าและก่อนนอน และควรฝึกให้ลูกเคยชินกับการแปรงฟัน เมื่อโตพอที่จะแปรงฟันเองได้ ควรให้ลูกแปรงฟันเป็นกิจวัตร และสอนให้ลูกเข้าใจว่า หากไม่แปรงฟันก็อาจก่อให้เกิดปัญหาฟันผุ ทำให้รู้สึกเจ็บ ไม่สบายตัว นอกจากแปรงฟันแล้ว ควรหมั่นตรวจดูฟันและช่องปากของลูกเป็นระยะ ๆ และพาไปพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยทุก 6 เดือน

  • เปลี่ยนแปรงสีฟัน

นอกจากดูแล แปรงฟันให้ลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันให้ลูกทุก ๆ 3-6 เดือน เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพฟันได้ รวมทั้งเพื่อช่วยให้การทำความสะอาดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเมื่อใช้ไปนาน ๆ ขนแปรงมักเสียรูปทรงและเสื่อมประสิทธิภาพลงได้

ถึงแม้ลูกน้อยอาจเพิ่งมีฟันน้ำนมขึ้น ควรสร้างความคุ้นเคยให้ลูกน้อย ด้วยการพาไปพบทันตแพทย์ปีละสองครั้ง หรือตามแต่ที่ทันตแพทย์จะเห็นสมควร เพราะการไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับฟันที่ร้ายแรงต่าง ๆ ได้ด้วย

 

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Caring for Your Baby’s Teeth. https://www.webmd.com/parenting/baby/caring-babies-teeth. Accessed October 27, 2022.

6 Effective Tooth-Brushing Tips For Toddlers. https://my.theasianparent.com/effective-tooth-brushing-tips-for-toddlers/. Accessed October 27, 2022.

Keeping Your Child’s Teeth Healthy. https://kidshealth.org/en/parents/healthy.html. Accessed October 27, 2022.

Looking after your baby’s teeth. https://www.nhs.uk/conditions/baby/babys-development/teething/looking-after-your-babys-teeth/.  Accessed October 27, 2022.

Dental care. https://www.rch.org.au/kidsinfo/fact_sheets/Dental_care/. Accessed October 27, 2022.

เวอร์ชันปัจจุบัน

27/10/2022

เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet

อัปเดตโดย: Duangkamon Junnet


บทความที่เกี่ยวข้อง

วรรณกรรมเยาวชน แนะนำเล่มไหนดีที่จะช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน

สุขภาพเหงือก เรื่องสำคัญของช่องปากที่ห้ามละเลย


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 27/10/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา