ข้อบ่งใช้ บาโคลเฟน
บาโคลเฟน ใช้สำหรับ
บาโคลเฟน (Baclofen) ใช้เพื่อรักษาอาการกล้ามเนื้อกระตุกที่เกิดจากโรคบางอย่าง เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งหรือโรคเอ็มเอส (Multiple Sclerosis) และอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง ยานี้ออกฤทธิ์คล้ายยาคลายกล้ามเนื้อ
วิธีการใช้ บาโคลเฟน
- รับประทานยาพร้อมกับอาหารหรือแยกต่างหาก ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยปกติจะทาน 3 ครั้งต่อวัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง แพทย์อาจให้คุณเริ่มใช้ยานี้ในปริมาณต่ำ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณยาขึ้น ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ด้วยความระมัดระวัง
- ขนาดยาขึ้นอยู่กับโรคประจำตัว และการตอบสนองต่อการรักษาตามแต่ละบุคคล
ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการใดๆ ใช้ยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด และง่ายต่อการจำควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน อย่าหยุดใช้ยานี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์
การเก็บรักษา บาโคลเฟน
- ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
- เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรทิ้งบาโคลเฟนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน
บาโคลเฟนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้บาโคลเฟน
- ก่อนที่ใช้ยาบาโคลเฟน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณมีอาการแพ้ยาชนิดนี้ หรือหากคุณมีอาการแพ้ยาอื่นๆ เนื่องจากมีส่วนประกอบของบาโคลเฟนควรปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติโรคประจำตัวทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคไต โรคทางจิต ภาวะอารมณ์ไม่คงที่ ความผิดปกติของสมอง เช่น อาการชัก
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงซึม หรือมองเห็นไม่ชัดในขณะใช้ยานพาหนะหรือเครื่องจักร รวมถึงการทำกิจกรรมที่มีความตื่นตัวสูง จนกว่าอาการของคุณจะดีขึ้น
ผู้สูงอายุอาจตอบสนองไวต่อผลข้างเคียงของยานี้ โดยเฉพาะอาการง่วงซึม และการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์จิตใจ
ในช่วงขณะการตั้งครรภ์หรือระหว่างการให้นมบุตรควรใช้บาโคลเฟนเมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้เสมอ
ยานี้อาจซึมผ่านสู่น้ำนมของแม่ไปยังบุตรได้ ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
บาโคลเฟนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด N โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงจากการใช้ บาโคลเฟน
อาการที่สามารถพบได้ทั่วไปมื่อใช้ยานี้
- ง่วงซึม วิงเวียนศีรษะ
- อ่อนเพลีย เมื่อยล้า
- นอนไม่หลับ คลื่นไส้
- ปัสสาวะบ่อย
- ท้องผูก
หากคุณเริ่มมีอาการรุนแรงเหล่านี้ ควรหยุดการใช้ยานี้และเข้ารับการรักษาโดยแพทย์
- การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และจิตใจ
- เห็นภาพหลอน
- มีอาการซึมเศร้า สับสน
หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้นโปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบในทันที
โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และผู้ที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่มักไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณ
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
- ยาแก้ปวดโอปิออยด์ (Opioid)
- ยาบรรเทาอาการไอ เช่น โคเดดีน (codeine) หรือไฮโดรโคโดน (hydrocodone)
- ยานอนหลับ หรือยาแก้เครียด เช่น ยาอัลปราโซแลม (alprazolam) ยาลอราซีแพม (lorazepam) ยาโซลพิเดม (zolpidem)
- ยาต้านฮิสตามีน (anyihistamines) เช่น ยาเซริทิซีน (cetirizine) หรือยาไดเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine)
โปรดตรวจสอบฉลากยาทั้งหมดของคุณอย่างละเอียด เนื่องจากยาเหล่านี้อาจจะมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม โปรดสอบถามเภสัชกรถึงวิธีการใช้อย่างปลอดภัย
บาโคลเฟนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
บาโคลเฟนอาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
บาโคลเฟนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
-ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมก่อนใช้
ขนาดยา บาโคลเฟน สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับรักษาอาการหดเกร็ง
สำหรับรับประทาน
แนะนำให้ค่อยๆ เพิ่มปริมาณยา ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย : 5 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 3 วันจากนั้น เพิ่มปริมาณเป็น 10 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 3 วัน เช่นกัน จนถึง 20 มิลลิกรัม
ขนาดยาที่มีผลกับการรักษา : ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย
ขนาดยาสูงสุด : 80 มิลลิกรัมต่อวัน (รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละ 4 ครั้ง)
คำแนะนำ
- แนะนำให้ใช้ยาในขนาดที่ต่ำที่สุดเพื่อให้ผู้ป่วยมีการตอบสนองที่ดี
- ค่อย ๆ ลดขนาดยาหากอาการไม่ดีขึ้นหลังใช้ยามาระยะหนึ่ง
การใช้
- ใช้สำหรับการบรรเทาอาการชักของกล้ามเนื้อกระตุก และอาการปวดที่มีอาการกระตุกร่วม รวมถึงกล้ามเนื้อหดเกร็ง ควรมีการบำบัดร่วมด้วยเพราะจะช่วยในการฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ
- เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บชนิดไขสันหลังอักเสบ และโรคไขสันหลังอักเสบอื่นๆ
ขนาดยาสำหรับรักษา
- การตรวจคัดกรองครั้งแรก : 50 ไมโครกรัม (ในปริมาตร 1 มิลลิลิตร) ฉีดเข้าช่องเยื่อหุ้มไขสันหลัง อย่างน้อย 1 นาที สังเกตอาการผู้ป่วยเป็นเวลา 4-8 ชั่วโมง
- ขนาดยาการตรวจคัดกรองครั้งที่สอง : (ถ้าไม่มีการตอบสนองเชิงบวก ต่อการตรวจคัดกรองครั้งแรก) : 75 ไมโครกรัม (ในปริมาตร 1.5 มิลลิลิตร) ภายใน 24 ชั่วโมงหลังกาตรวจคัดกรองครั้งแรก สังเกตผู้ป่วยเป็นเวลา 4-8 ชั่วโมง
- ขนาดยาการตรวจคัดกรองครั้งที่สาม : (หากไม่มีการตอบสนองในทางบวก ต่อยาที่ได้รับการตรวจคัดกรองครั้งที่สอง) : 100 ไมโครกรัม (ในปริมาตร 2 มิลลิลิตร) ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับการตรวจครั้งที่สอง สังเกตผู้ป่วยเป็นเวลา 4-8 ชั่วโมง
ถ้าไม่มีการตอบสนองในทางบวกต่อการตรวจคัดกรองครั้งที่สามผู้ป่วยไม่ควรใช้ยาฉีดเพื่อรักษาอาการปวดเรื้อรัง
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจจำเป็นต้องลดปริมาณของยาบาโคลเฟนลง
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยการล้างไต
การฟอกไตอาจขับยานี้ออกจากร่างกาย ช่วยเรื่องผลข้างเคียงของการให้ยาเกินขนาด และทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ไวขึ้น
ความแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำในการใช้ยา
- ควรรับประทานยาพร้อมอาหาร
- ความเข้มข้นเฉพาะของยานี้ที่ควรใช้สำหรับการฉีดเข้าน้ำไขสันหลังขึ้นอยู่กับขนาดยารวมในแต่ละวันที่รวมถึงอัตราการทำงานของเครื่องปั๊ม
- ผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนอง เห็นถึงการลดลงของความตึงตัวของกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อ หลังจากฉีดยาเข้าน้ำไขสันหลัง 100 ไมโครกรัม ไม่ควรให้ยาเพิ่มขึ้นอีก หรือได้รับการฉีดยาอย่างสม่ำเสมอ
- ในระหว่างการรักษาด้วยการฉีดยาเข้าน้ำไขสันหลัง ผู้ป่วยจำนวนมากจำเป็นต้องค่อยๆเพิ่มขนาดยา เพื่อรักษาฤทธิ์ของยาที่ต้องการ
ทั่วไป
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน และยาน้ำต่างมีประสิทธิภาพเท่ากัน
- หากผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้นภายใน 6-8 สัปดาห์หลังจากรับประทานยาในปริมาณสูงสุดแล้ว ควรรับคำแนะนำจากแพทย์ว่าจะใช้ยานี้ต่อไปหรือไม่
- ควรใช้ยาสูตรเฉพาะ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา
- ไม่ควรฝังเครื่องปั๊มจนกว่าผู้ป่วยจะได้รับการตอบสนองต่อการฉีดยาในปริมาณมาก หรือการวัดความเข้มข้นยาอย่างเพียงพอ และพบว่าปลอดภัยจากอันตรายที่อาจตามมาภายหลัง
- อย่าใช้บาโคลเฟนสำหรับการฉีดเข้าไขสันหลังด้วยวิธีอื่น นอกเหนือไปจากวิธีที่กำหนด
- สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหดเกร็ง เนื่องจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรรอกระทั่งอาการหดเกร็งดีขึ้น
- ไม่มีคำแนะนำในการปรับขนาดยา สำหรับผู้ป่วยสูงอายุ
ขนาดยา บาโคลเฟน สำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับรักษาอาการหดเกร็ง
อายุ 12 ปีขึ้นไป
สำหรับรับประทาน
- ขนาดยาเริ่มต้น : แนะนำให้ค่อยๆ เพิ่มขนาดยาแต่ควรปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละราย: 5 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน จากนั้นรับประทาน 10 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 3 วัน จนถึงปริมาณ 20 มิลลิกรัมหรือตามที่แพทยฝืกำหนด
- ขนาดยาที่มีผลกับการรักษา : ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย
- ขนาดยาสูงสุด : 80 มิลลิกรัมต่อวัน (รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละ 4 ครั้ง)
คำแนะนำ
- แนะนำให้ใช้ยาในขนาดที่ต่ำที่สุดที่ตอบสนองดีที่สุด
- ค่อยๆ เลิกใช้ยาหากอาการไม่ดีขึ้นหลังใช้ยามาระยะหนึ่ง
การใช้
- เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเลือดตีบหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการบรรเทาอาการกล้ามเนื้อกระตุก และอาการปวดที่มีอาการกระตุกร่วม และควรได้รับการบำบัดจะช่วยในการฟื้นฟูการทำงานของเส้นเลือดได้ดีขึ้น
- เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บชนิดไขสันหลังอักเสบ และโรคไขสันหลังอักเสบอื่นๆ
การรับประทาน
ยังไม่มีการรับรองความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้ยา ในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี
การฉีดเข้าน้ำไขสันหลัง
ยังไม่มีการรับรองความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้ยา ในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี
รูปแบบของยา
ยาบาโคลเฟนมีรูปแบบดังต่อไปนี้
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
- ยาผงสูตรผสม
- ยาฉีด
- ยาน้ำแขวนตะกอน
กรณีฉุกเฉินหรือการใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมรับประทานบาโคลเฟนอาจควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]