เมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อต่าง ๆ ยานี้อยู่ในกลุ่มของยาปฏิชีวนะไนโตรอิมิดาโซล (nitroimidazoles) ออกฤทธิ์หยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัว (protozoa)
[embed-health-tool-bmr]
ข้อบ่งใช้
ยา เมโทรนิดาโซล ใช้สำหรับ
ยา เมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อต่าง ๆ ยานี้อยู่ในกลุ่มของยาปฏิชีวนะไนโตรอิมิดาโซล (nitroimidazoles) ยานี้ทำงานโดยการหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัว (protozoa)
ยาปฏิชีวนะชนิดนี้ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัวเท่านั้น ยานี้จะไม่ได้ผลกับการติดเชื้อไวรัส เช่น โรคหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ การใช้ยาปฏิชีวนะเกินอย่างไม่จำเป็น หรือใช้ยาเกินขนาด สามารถทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้
ยาเมโทรนิดาโซลยังสามารถใช้ร่วมกับยาต้านแผลเปื่อย (anti-ulcer medications) เพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหารประเภทอื่นๆ
วิธีการใช้ยา เมโทรนิดาโซล
ยาเมโทรนิดาโซลสามารถรับประทานพร้อมกับอาหาร น้ำ หรือนมหนึ่งแก้ว เพื่อป้องกันอาการท้องไส้ปั่นป่วน ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ ประเภทของการติดเชื้อที่กำลังรักษา และการตอบสนองต่อการรักษา
ยาปฏิชีวนะจะทำงานดีที่สุด เมื่อมีปริมาณของยาในร่างกายคงที่ ดังนั้นจึงควรใช้ยานี้โดยเว้นระยะเวลาที่เท่ากัน
ใช้ยาเมโทรนิดาโซลอย่างต่อเนื่องจนครบตามกำหนด แม้ว่าอาการจะหายไปหลังจากผ่านไปไม่กี่วัน การหยุดใช้ยาเมโทรนิดาโซลเร็วเกินไป อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียหรือโปรโตซัวนั้นเจริญเติบโตต่อไป และอาจส่งผลให้การติดเชื้อกำเริบได้
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการไม่หายไป หรือรุนแรงขึ้น
การเก็บรักษายา เมโทรนิดาโซล
ยาเมโทรนิดาโซลควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเมโทรนิดาโซลบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเมโทรนิดาโซลลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา เมโทรนิดาโซล
ก่อนใช้ยาเมโทรนิดาโซล
- โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ หากแพ้ต่อยาเมโทรนิดาโซลหรือยาอื่นๆ
- โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาตามใบสั่งแพทย์ และยาที่หาซื้อเองที่กำลังใช้ โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants) เช่น ยาวาฟาริน (warfarin) อย่างคูมาดิน (coumadin) ยาแอสเทมิโซล (astemizole) อย่างฮิสมานอล (hismanal) ยาไดซัลฟิแรม (disulfiram) อย่างแอนทาบิวส์ (antabuse) ยาลิเทียม (lithium) อย่างลิทโทบิด (lithobid) ยาฟีโนบาร์บิทัล (phenobarbital) ยาฟีนีโทอิน (phenytoin) อย่างไดแลนทิน (dilantin) และวิตามิน
- โปรดแจ้งให้ทราบ หากเป็นหรือเคยเป็นโรคเลือด โรคไต หรือโรคตับ หรือโรคโครห์น (crohn’s disease)
- โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากตั้งครรภ์ มีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร หากกำลังตั้งครรภ์ขณะที่กำลังใช้ยา เมโทรนิดาโซล โปรดติดต่อแพทย์
- ไม่ควรดื่มสุราขณะที่กำลังใช้ยานี้ เพราะแอลกอฮอล์สามารถทำให้เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วน อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง ปวดหัว เหงื่อออก และหน้าแดง
- โปรดวางแผนหลีกเลี่ยงการเปิดรับแสงแดดแบบไม่จำเป็นหรือในระยะยาว และควรสวมเสื้อผ้าป้องกัน แว่นกันแดด และทาครีมกันแดด ยาเมโทรนิดาโซลอาจทำให้ผิวหนังมีปฏิกิริยาไวต่อแสงแดดได้
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาเมโทรนิดาโซลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยา เมโทรนิดาโซล
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากมีอาการปวดหรือแสบร้อนอย่างรุนแรง ขณะที่กำลังใช้ยา เมโทรนิดาโซล ทาเฉพาะที่
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่ามีดังนี้
- แสบร้อนหรือปวดระดับเบาขณะที่ทายาเมโทรนิดาโซล
- มีอาการเหน็บหรือชาที่มือหรือเท้า
- ไอ คัดจมูก เจ็บคอ มีอาการของโรคหวัด
- มีอาการคันหรือสารคัดหลั่งจากช่องคลอด
- ปวดหัว
- ผิวแห้ง ตกสะเก็ด หรือคัน
- คลื่นไส้
- มีรสโลหะภายในปาก
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้ามีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาเมโทรนิดาโซลอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่กำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
ควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรว่า กำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
- ยาไซเมทิดีน (Cimetidine) อย่างทากาเมต (Tagamet)
- ยาเมโทรนิดาโซลสำหรับอาการชัก เช่น ยาฟีนีโทอิน (phenytoin) อย่างไดแลนทิน (Dilantin) หรือยาฟีโนบาร์บิทัล (phenobarbital) อย่างลูมินอล (Luminal) หรือซอลโฟทอน (Solfoton)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาวาฟาริน (warfarin) อย่างคูมาดิน (Coumadin) หรือแจนโทเวน (Jantoven)
- ยาลิเทียม (Lithium) อย่างลิโทบิด (Lithobid) เอสคาลิท (Eskalith) และอื่นๆ
- ยาไดซัลฟีแรม (Disulfiram) อย่างแอนทาบิวส์ (Antabuse)
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาเมโทรนิดาโซลอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาเมโทรนิดาโซลอาจส่งผลให้อาการโรคแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคก่อนใช้ยาเสมอโดยเฉพาะ
- กำลังมีหรือเคยมีปัญหาเกี่ยวกับเลือดหรือไขกระดูก
- โรคสมอง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบแบบไม่ติดเชื้อ (aseptic meningitis) หรือพยาธิภาวะที่สมอง (encephalopathy)
- เคยมีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (Leukopenia)
- เคยเป็นโรคประสาทตาอักเสบ (Optic neuropathy) ซึ่งเป็นโรคตาพร้อมกับการมองเห็นเปลี่ยนแปลง
- เชื้อราช่องปาก (Oral thrush) จากการติดเชื้อแคนดิดา (Candida infection)
- เคยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral neuropathy) โรคเส้นประสาทที่มีพร้อมกับอาการปวด ชา หรือเหน็บ
- เคยมีอาการชัก
- เคยติดเชื้อยีสต์ที่ช่องคลอด (การติดเชื้อแคนดิดา) — ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจทำให้ภาวะนี้รุนแรงขึ้น
- โรคไตระยะสุดท้าย
- โรคตับขั้นรุนแรง — ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ผลของยาอาจจะเพิ่มขึ้นเพราะกำจัดยาออกจากร่างกายได้ช้าลง
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาเมโทรนิดาโซลสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจนระดับรุนแรง (Serious anaerobic infections)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคบิดมีตัว (Amebiasis)
- โรคบิดมีตัวที่ลำไส้เฉียบพลัน หรือโรคบิดอะมีบาเฉียบพลัน (acute amebic dysentery) 750 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 ถึง 10 วัน
- โรคฝีตับจากอะมีบา (Amebic liver abscess) 500 ถึง 750 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 ถึง 10 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคลำไส้อักเสบชนิดเยื่อเทียม (Pseudomembranous Colitis)
- การติดเชื้อคลอสไทรเดียม ดิฟิซายล์ (Clostridium difficile infection) ระดับเบาถึงปานกลาง 500 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง
- การติดเชื้อคลอสไทรเดียม ดิฟิซายล์ระดับรุนแรงซับซ้อน 500 มก. ฉีดเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 8 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันขณะผ่าตัด
- ขนาดยาก่อนเริ่มการผ่าตัด 15 มก./กก. หยอดยาเข้าหลอดเลือดดำนานกว่า 30 ถึง 60 นาที และควรเสร็จสิ้นภายใน 1 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- ขนาดยาระหว่างการผ่าตัดหรือหลังการผ่าตัด 7.5 มก./กก. หยอดยาเข้าหลอดเลือดดำนานกว่า 30 ถึง 60 นาที ในเวลา 6 และ 12 ชั่วโมงหลังจากให้ยาเริ่มต้น
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis)
- สูตรยาสำหรับ 1 วัน 2 กรัม รับประทานหนึ่งครั้ง (หรือครั้งละ 1 กรัม วันละ 2 ครั้ง)
- สูตรยาสำหรับ 7 วัน
- ยาเม็ด 250 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน
- ยาแคปซูล 375 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori Infection)
- การรักษาด้วยบิสมัทสี่เท่า (Bismuth quadruple therapy) 250 มก. รับประทานวันละ 4 ครั้ง
- การรักษาที่มีคลาริโทมัยซินเป็นพื้นฐานสามเท่า (Clarithromycin-based triple therapy) 500 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
- ระยะเวลาการรักษา 10 ถึง 14 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ (Pelvic Inflammatory Disease) ให้ยาทางหลอดเลือดดำ
- ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis)
- ยาเม็ดออกฤทธิ์นาน 750 มก. รับประทานวันละครั้งเป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคปอดบวมจากการสำลัก (Aspiration Pneumonia)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียภายในเลือด (Bacteremia)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ (Diverticulitis)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อภายในช่องท้อง (Intraabdominal Infection)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Peritonitis)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะเยื่อบุหัวใจอักเสบ (Endocarditis)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อที่ข้อต่อ (Joint Infection)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคกระดูกอักเสบติดเชื้อ (Osteomyelitis)
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคปอดบวม
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่ออ่อน
- ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ขนาดยาเริ่มต้น 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
- รับประทาน 7.5 มก./กก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเจียอาร์ไดอาซิส (Giardiasis)
- คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางราย 250 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 ถึง 7 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาป้องกันกามโรค (STD Prophylaxis) คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (CDC)
การป้องกันหลังจากถูกล่วงละเมิดทางเพศ 2 กรัม รับประทานหนึ่งครั้ง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคหนองในเทียม (Nongonococcal Urethritis) คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ
ภาวะท่อปัสสาวะอักเสบกำเริบหรือเรื้อรัง
2 กรัม รับประทานหนึ่งครั้ง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อบาแลนทิเดียม โคไล
(Balantidium coli) คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางราย 500 ถึง 750 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อการติดเชื้อไดเอ็นทาโมอีบา ฟราจิลิส (Dientamoeba fragilis)คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางราย 500 ถึง 750 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน
ขนาดยาเมโทรนิดาโซลสำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ทารกแรกเกิด
- อายุ 7 วันหรือน้อยกว่า น้ำหนัก 2000 กรัมหรือน้อยกว่า 7.5 มก./กก. ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 24 ถึง 48 ชั่วโมง
- อายุ 7 วันหรือน้อยกว่า น้ำหนักมากกว่า 2000 กรัม 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 24 ชั่วโมง
- อายุ 8 ถึง 28 วัน น้ำหนัก 2000 กรัมหรือน้อยกว่า 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 24 ชั่วโมง
- อายุ 8 ถึง 28 วัน น้ำหนักมากกว่า 2000 กรัม: 15 มก./กก. ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำทุกๆ 12 ชั่วโมง
- อายุ 1 เดือนขึ้นไป
- ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ 22.5 ถึง 40 มก./กก./วัน แบ่งฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ 3 ครั้ง
- รับประทาน 30 ถึง 50 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคบิดมีตัว 35 ถึง 50 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคลำไส้อักเสบชนิดเยื่อเทียม คำแนะนำจากสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (AAP)
เด็กและวัยรุ่น 30 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 4 ครั้ง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อทริโคโมแนส เด็กที่น้ำหนักน้อยกว่า 45 กก. ที่มีภาวะช่องคลอดอักเสบก่อนวัยเจริญพันธุ์ (prepubertal vaginitis) (เกี่ยวข้องกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ [STI]) 15 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เด็กที่น้ำหนักน้อยกว่า 45 กก. ที่มีภาวะช่องคลอดอักเสบก่อนวัยเจริญพันธุ์ (เกี่ยวข้องกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์) 15 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 2 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
ภาวะปากช่องคลอดและช่องคลอดอักเสบ (vulvovaginitis) ในวัยรุ่น 500 มก. รับประทานวันละสองครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคเจียอาร์ไดอาซิส คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางราย (รวมถึงสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา) 15 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 ถึง 7 วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาป้องกันกามโรค การป้องกันหลังจากถูกล่วงละเมิดทางเพศ
คำแนะนำจากสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา สำหรับเด็กวัยก่อนวัยรุ่น
น้ำหนักน้อยกว่า 45 กก. 15 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อบาแลนทิเดียม โคไล คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางราย (รวมถึงสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา) 35 ถึง 50 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อการติดเชื้อไดเอ็นทาโมอีบา ฟราจิลิสคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางราย (รวมถึงสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา) 35 ถึง 50 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน 250 มก. 500 มก.
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา