ข้อบ่งใช้
ยา เมโปรบาเมต ใช้สำหรับ
ยา เมโปรบาเมต (Meprobamate) ใช้ในระยะสั้น เพื่อรักษาอาการวิตกกังวล และอาการทางประสาท ยานี้ทำงานที่ศูนย์กลางของสมองบางอย่างเพื่อช่วยทำให้ระบบประสาทสงบ
วิธีการใช้ยา เมโปรบาเมต
รับประทานยานี้พร้อมกับอาหารหรือรับประทานแยกต่างหาก โดยปกติ คือ วันละ 2 ถึง 4 ครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด
ขนาดยาขึ้นอยู่กับอายุ สภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา ผู้ใหญ่ไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 2,400 มก. ภายใน 24 ชั่วโมง
อย่าเพิ่มขนาดยา หรือรับประทานยาบ่อยกว่าที่กำหนด นอกจากอาการของคุณจะไม่หายไวขึ้นแล้ว ความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงอาจจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
หากใช้ยานี้เป็นประจำเป็นเวลานาน หรือใช้ในขนาดสูง อาจเกิดอาการถอนยา เช่น อาเจียน สั่นเทา สับสน และในนานๆ ครั้งอาจเกิดอาการชัก หากคุณหยุดใช้ยากะทันหัน เพื่อการป้องกันอาการถอนยา แพทย์จะค่อยๆ ลดขนาดยาลง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และแจ้งให้ทราบหากมีอาการถอนยาเกิดขึ้น
ยานี้อาจได้ผลไม่ดีหากใช้เป็นเวลานาน แพทย์อาจจำเป็นต้องเพิ่มขนาดยาหรือเปลี่ยนยาของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์หากยาไม่ได้ผลดีดังเดิม
แม้ว่ายานี้จะช่วยคนไว้เป็นจำนวนมาก แต่ในบางครั้งก็อาจทำให้เกิดการเสพติดยาได้ ความเสี่ยงนี้อาจจะสูงขึ้นหาคุณเคยใช้สารในทางที่ผิด เช่น ใช้ยา/สุราเกินขนาดหรือหรือติดยา/สุรา ควรรับประทานยานี้ตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดยา โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น
การเก็บรักษายา เมโปรบาเมต
ยาเมโปรบาเมตควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเมโปรบาเมตบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเมโปรบาเมตลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา เมโปรบาเมต
ก่อนใช้ยา เมโปรบาเมต แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือแพ้ต่อคาริโซโพรดอล (carisoprodol) มีบูทาเมต (mebutamate) ไทบาเมต (tybamate) หรือคาร์โบรมาล (carbromal) หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีสารไม่ออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะความผิดปกติของตัวหรือเลือดบางชนิด เช่น โรคพอร์ฟิเรีย (porphyria) โรคไต โรคตับ ความผิดปกติของสมอง เช่น ชักหรือสมองเสียหาย ประวัติส่วนบุคคลหรือคนในครอบครัวเคยใช้สารในทางที่ผิด เช่น ใช้ยา/สุราเกินขนาดหรือหรือติดยา/สุรา
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนหรือง่วงซึมได้ อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว จนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย และควรจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้สูงอายุอาจมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงของยานี้ได้มากกว่า โดยเฉพาะอาการง่วงซึมและการติดยา อาการง่วงซึมสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการหกล้มได้
ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากมีโอกาสที่จะทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ ในช่วง 6 เดือนหลังของการตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยา
ยานี้สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ และอาจส่งผลไม่พึงประสงค์ต่อทารกได้ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาเมโปรบาเมตจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท N โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยา เมโปรบาเมต
อาจเกิดอาการง่วงซึม วิงเวียน ปวดหัว ตื่นเต้น คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นแต่รุนแรงดังต่อไปนี้ มีอาการเหน็บชา หรือบวมที่มือหรือเท้า
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่หายากแต่รุนแรงมาก ดังต่อไปนี้ หัวใจเต้นเร็วหรือหัวใจเต้นผิดปกติ มีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น เป็นไข้ เจ็บคอบ่อย มีรอยช้ำ หรือเลือดออกง่าย มีสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับไต เช่น ปริมาณของปัสสาวะเปลี่ยนแปลง เหนื่อยล้าผิดปกติ
การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้ ผดผื่นคันหรือบวม โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม รวมถึงสุรา กัญชา ยาต้านฮีสตามีน (antihistamines) เช่น เซทิริซีน (cetirizine) หรือไดเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine) ยานอนหลับ หรือยาสำหรับอาการวิตกกังวล เช่น อัลปราโซแลม (alprazolam) ไดอาเซแพม (diazepam) หรือโซลพิเดม (zolpidem) ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น คาริโซโพรดอล (carisoprodol) และยาแก้ปวดแบบเสพติด (narcotic pain relievers) เช่น โคเดอีน (codeine)
ควรตรวจสอบฉลากของยาทั้งหมด เช่น ยาแก้แพ้หรือยาแก้ไอแก้หวัด เนื่องจากอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมได้ สอบถามแพทย์เกี่ยวกับวิธีการใช้ยาเหล่านี้อย่างปลอดภัย
ยาเมโปรบาเมตอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาเมโปรบาเมตอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาเมโปรบาเมตอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาเมโปรบาเมตสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการวิตกกังวล (Anxiety)
- 1,200 ถึง 1,600 มก. แบ่งรับประทาน 3 หรือ 4 ครั้ง
- ขนาดยาสูงสุด: 2400 มก. ต่อวัน
คำแนะนำ
- ควรใช้ยาในขนาดต่ำที่สุดที่มีประสิทธิภาพเพื่อจำกัดอาการง่วงนอนมากเกินไป
- ยังไม่มีการประเมินประสิทธิภาพของการใช้ยานานเกินกว่า 4 เดือน
การใช้งาน
- เพื่อควบคุมโรควิตกกังวลหรือเพื่อบรรเทาอาการวิตกกังวล
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต
- ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคตับ
- ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
การปรับขนาดยา
- ผู้สูงอายุ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ควรเลือกขนาดยาอย่างรอบคอบโดยเริ่มต้นที่ช่วงท้ายของช่วงขนาดยา
- ควรหลีกเลี่ยงการหยุดการรักษาอย่างกะทันหัน ควรค่อยๆ ลดขนาดยานานกว่า 1 ถึง 2 สัปดาห์ อีกทางหนึ่งคืออาจใช้ยาในกลุ่มบาร์บิทูเรตชนิดออกฤทธิ์นานแทน (barbiturate) แล้วจึงค่อยๆ ถอนยา
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำการใช้ยา
- รับประทานวันละ 3 ถึง 4 ครั้ง
ทั่วไป
- ควรควบคุมขนาดยาและปริมาณการสั่งยาอย่างระมัดระวังเนื่องจากยานี้อาจทำให้เกิดการเสพติดทั้งทางจิตและทางกาย
- ควรหลีกเลี่ยงการหยุดใช้ยากะทันหัน โดยเฉพาะหลังจากใช้ยาเป็นเวลานาน มักเริ่มมีอาการถอนยาภายใน 12 ถึง 48 ชั่วโมง และอาการมักจะหายไปภายใน 12 ถึง 48 ชั่วโมงถัดไป
- ควรประเมินอีกครั้งเป็นประจำหากจำเป็นต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่อง
การเฝ้าระวัง
- เฝ้าระวังการกดประสาทมากเกินไป
- เฝ้าระวังการใช้ยาในทางที่ผิด
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- ผู้ป่วยควรทราบว่า ยานี้อาจทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมที่อันตรายบกพร่องได้ เช่น การขับรถ
- ผู้ป่วยควรทราบว่า ยานี้อาจทำให้เกิดการเสพติดทั้งทางจิตและทางกายหากใช้ในขนาดสูงมากกว่ากำหนด อาจเกิดอาการถอนยาได้ และผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการหยุดใช้ยา
- ผู้ป่วยควรทราบว่า ความทนทานต่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยากดประสาทส่วนกลางอื่นๆ (CNS depressants) นั้นจะลดลง โดยทั่วไปแล้ว จะไม่แนะนำการใช้ร่วมกับยานี้ แต่ควรปรึกษากับแพทย์
ขนาดยาเมโปรบาเมตสำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการวิตกกังวล (Anxiety)
อายุ 6 ถึง 12 ปี
- 200 ถึง 600 มก. แบ่งรับประทาน 2 หรือ 3 ครั้ง
อายุ 13 ปีขึ้นไป
- 1,200 ถึง 1,600 มก. แบ่งรับประทาน 3 หรือ 4 ครั้ง
- ขนาดยาสูงสุด 2,400 มก. ต่อวัน
คำแนะนำ
- ควรใช้ยาในขนาดต่ำที่สุดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อจำกัดอาการง่วงนอนมากเกินไป
- ยังไม่มีการประเมินประสิทธิภาพของการใช้ยานานเกินกว่า 4 เดือน
การใช้งาน
- เพื่อควบคุมโรควิตกกังวลหรือเพื่อบรรเทาอาการวิตกกังวล
ข้อควรระวัง
ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 6 ปี
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]