กลูโคส (Glucose) ช่วยให้ร่างกายได้รับของเหลวที่มีน้ำตาลในปริมาณมาก เมื่อไม่สามาถดื่มน้ำได้เพียงพอหรือเมื่อร่างกายจำเป็นต้องรับน้ำเพิ่ม นอกจากนี้ ยากลูโคสยังอาจใช้ในการช่วยนำส่งยาฉีดชนิดอื่น ๆ โดยยากลูโคสเป็นยาปราศจากเชื้อสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
[embed-health-tool-bmi]
ข้อบ่งใช้
ยากลูโคสใช้สำหรับ
ยากลูโคส (Glucose) ช่วยให้ร่างกายได้รับของเหลวที่มีน้ำตาลในปริมาณมาก เมื่อไม่สามาถดื่มน้ำได้เพียงพอหรือเมื่อจำเป็นต้องรับน้ำเพิ่ม นอกจากนี้ ยากลูโคสยังอาจใช้ในการช่วยนำส่งยาฉีดชนิดอื่น ๆ โดยยากลูโคสเป็นยาปราศจากเชื้อสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
วิธีการใช้ยากลูโคส
ใช้ยากลูโคสตามที่คุณหมอกำหนด ควรอ่านฉลากยาเพื่อรับทราบวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง
การให้ยากลูโคส นิยมฉีดยาที่โรงพยาบาล หรือคลินิก หากใช้ยากลูโคสเองที่บ้าน ควรปฏิบัติตามวิธีฉีดยาที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด
- ควรเก็บยานี้พร้อมทั้งกระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาให้พ้นจากมือของเด็กและสัตว์เลี้ยง
- อย่าใช้เข็มฉีดยา กระบอกฉีดยา หรืออุปกรณ์อื่นๆ ซ้ำ ควรกำจัดอุปกรณ์เหล่านี้ให้ถูกต้องหลังจากใช้งาน โปรดสอบถามคุณหมอหรือเภสัชกรเพื่อรับทราบข้อบังคับการกำจัดขยะท้องถิ่น
- หากยากลูโคสนั้นปนเปื้อนฝุ่นละอองหรือเปลี่ยนสี หรือหากขวดยามีรอยแตกหรือเสียหาย ไม่ควรใช้ยานั้นโดยเด็ดขาด
- อย่าให้ยาในชุดอุปกรณ์เดียวกันพร้อมกับชุดที่ให้เลือด
หากลืมใช้ยากลูโคส โปรดติดต่อคุณหมอในทันที และหากมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการใช้ยากลูโคส โปรดปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรใกล้บ้าน
การเก็บรักษายากลูโคส
ยากลูโคสควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยากลูโคสบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยากลูโคสลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยากลูโคส
ก่อนใช้ยานี้ โปรดแจ้งให้คุณหมอทราบหากมีอาการแพ้ต่อส่วนผสมใด ๆ ในยากลูโคส
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรที่เพียงพอ หากกำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรโปรดปรึกษากับแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยากลูโคสจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยากลูโคส
ยาทุกชนิดอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ แต่ส่วนใหญ่มักไม่เกิดผลข้างเคียงหรือมีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อย
ผลข้างเคียงโดยทั่วไปของการใช้ยากลูโคส ได้แก่
- อาการปัสสาวะเพิ่มขึ้น
- มีอาการปวด รอยแดง หรืออาการบวมตรงบริเวณที่ฉีดยา
โปรดปรึกษาคุณหมอ หากผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่หายไป หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
ผลข้างเคียงรุนแรงของการใช้ยากลูโคส ได้แก่
- อาการแพ้รุนแรง เช่น ผดผื่น ลมพิษ หายใจติดขัด แน่นหน้าอก อาการบวมที่ปาก ใบหน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น)
- สับสน
- กล้ามเนื้อกระตุก
- ชัก
- อาการบวมที่มือหรือเท้า
- อ่อนแรง
หากเกิดผลข้างเคียงรุนแรง ควรหยุดใช้ยาและติดต่อโรงพยาบาลทันที
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกราย หรือบางรายอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรใกล้บ้าน
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยากลูโคสอาจทำปฏิกิริยากับยาอื่นที่กำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ควรแจ้งคุณหมอหรือเภสัชกรด้วยว่า กำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร และเพื่อความปลอดภัย ไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากคุณหมอ
ข้อควรระวัง ยากลูโคสอาจจะเพิ่มระดับของน้ำตาลกลูโคสในเลือดและลดประสิทธิภาพของยารักษาโรคเบาหวานได้
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยากลูโคสอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาบางชนิดไม่ควรใช้พร้อมกัน หรือใช้ในเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานอาหาร รวมถึงไม่ควรรับประทานร่วมกับอาหารบางชนิดเนื่องจากอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาได้ นอกจากนี้ การดื่มสุราหรือการสูบบุหรี่พร้อมกับยาบางชนิด ก็อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาได้เช่นกัน
โปรดสอบถามคุณหมอเกี่ยวกับการใช้ยานี้พร้อมกับการรับประทานอาหาร สุรา หรือสูบบุหรี่ โดยเฉพาะหากมีภาวะหรือโรคเหล่านี้
- อยู่ในภาวะโคม่า เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานหรือโรคตับ
- มีอาการสับสน มีปัญหากับความจำ หรือมีอาการเลือดออกที่ศีรษะหรือกระดูกสันหลัง
- เป็นโรคเบาหวานหรือมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูง
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับคุณหมอหรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยากลูโคสสำหรับผู้ใหญ่
การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล (Oral glucose tolerance test)
ผู้ใหญ่ ทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (Take fasting plasma glucose) แล้วจึงให้รับประทานยาแอนไฮดัส กลูโคส (anhydrous glucose) ขนาด 75 กรัม ควรทำการตรวจระดับพลาสม่ากลูโคสหลังจากรับประทานยากลูโคสผ่านไป 2 ชั่วโมง
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycaemia)
ผู้ใหญ่ รับประทานยากลูโคสขนาด 15-20 กรัม การตอบสนองต่อการรักษาด้วยยากลูโคสควรจะเห็นได้ชัดภายใน 10-20 นาที ทำการตรวจระดับพลาสม่ากลูโคสในเวลา 60 นาที เนื่องจากอาจจำเป็นต้องทำการรักษาเพิ่มเติม
ภาวะขาดน้ำ (Fluid depletion)
ผู้ใหญ่ ฉีดยาสารละลายกลูโคส 50% เข้าในหลอดเลือดดำส่วนปลาย
ภาวะขาดคาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate depletion)
ผู้ใหญ่ ฉีดยาสารละลายกลูโคส น้อยกว่า 5% โดยปกติมักจะให้ทางหลอดเลือดดำใหญ่
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอย่างรุนแรง
ผู้ใหญ่ ฉีดยาสารละลายกลูโคส 50% เข้าในหลอดเลือดดำใหญ่
ขนาดยากลูโคสสำหรับเด็ก
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ควรเจือจางก่อนฉีดเข้าหลอดเลือดดำ อาจให้สารละลายที่เข้มข้นกว่าในกรณีฉุกเฉิน เช่น 12.5-25%
- อายุน้อยกว่า 6 เดือน: 0.25-0.5 กรัม/กก./ครั้ง (1-2 มล./กก./ครั้ง ของสารละลาย 25%) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ไม่ควรเกิน 25 กรัม/ครั้ง
- ทารกอายุมากกว่า 6 เดือนและเด็ก: 0.5-1 กรัม/กก. จนถึง 25 กรัม (2-4 มล./กก./ครั้งของสารละลาย 25%) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ไม่ควรเกิน 25 กรัม/ครั้ง
- วัยรุ่น: ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ 10-25 กรัม (เช่น 20-50 มล. ของสารละลาย 50% หรือ 40-100 มล. ของสารละลาย 25%) รับประทาน 4-20 กรัม หนึ่งครั้ง อาจให้ยาเพิ่มหลังจากผ่านไป 15 นาที หากผลการตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสด้วยตนเองนั้นแสดงให้เห็นว่ายังคงมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอยู่
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ดสำหรับเคี้ยว : 1 กรัม 4 กรัม 5 กรัม
- ยาเม็ด : 4 กรัม
- ยาเจลสำหรับรับประทาน : 15 กรัม
- สารละลายสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำ : 2.5%, 5%, 10%, 20%, 25%, 30%, 40%, 50% และ 70%
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา