เบตาแคโรทีน (Beta-carotene) เป็นสารอาหารที่ร่างกายสามารถได้รับจากการรับประทานอาหารจำพวกผลไม้และผักต่างๆ หรืออาจได้รับจากการรับประทานเบตาแคโรทีนในรูปแบบสังเคราะห์จำพวกอาหารเสริม หรือวิตามินเสริมต่างๆ
ข้อบ่งใช้
เบตาแคโรทีน ใช้สำหรับ
เบตาแคโรทีน (Beta-carotene) พบได้ตามธรรมชาติในผลไม้และผักต่างๆ สำหรับรูปแบบสังเคราะห์นั้นอาจผลิตได้จากเชื้อราหรือสาหร่าย เบตาแคโรทีนนั้นจะแปลงเป็นวิตามินเอภายในร่างกาย ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับบำรุงดวงตาและบำรุงผิวหนังให้สุขภาพดี
เบตาแคโรทีนนั้นใช้เพื่อรักษา
- โรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic fibrosis)
- อาการท้องร่วง
- โรคเรื้อรัง
- โรคตับ โรคตับอ่อน
- ปัญหาการดูดซึมอาหารทางลำไส้
- โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ใหญ่
- โรคหอบหืดที่เกิดจากการออกกำลังกาย
- โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
- แดดเผา
- ภาวะเซลล์ปากมดลูกเจริญผิดปกติ (Cervical dysplasia)
- ภาวะความดันโลหิตสูง
เบตาแคโรทีนนั้นยังใช้ในผู้หญิงที่ขาดสารอาหารเพื่อลดโอกาสในการเสียชีวิตและอาการตาบอดในตอนกลางคืนขณะตั้งครรภ์ เช่นเดียวกันกับอาการท้องร่วงและเป็นไข้ขณะคลอดบุตร
การทำงานของเบตาแคโรทีน
ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับการทำงานของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรนี้ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่มีงานวิจัยบางชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าเบตาแคโรทีนนั้นจะเปลี่ยนแปลงเป็นวิตามินเอ สารอาหารสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์เกิดความเสียหาย
- ฤทธิ์ต้านมะเร็ง
- ฤทธิ์ต้านภาวะจอประสาทตาที่เกี่ยวข้องกับอายุ
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ เบตาแคโรทีน
- โปรดแจ้งให้ทราบหากผู้ป่วยเคยสัมผัสรับแร่ใยหิน (asbestos) เพิ่งผ่านการผ่าตัดขยายเส้นเลือด (angioplasty) หรือสุบบุหรี่ เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ควรใช้อาหารเสริมเบตาแคโรทีน
- โปรดแจ้งให้ทราบหากผู้ป่วยดื่มสุรา alcohol, ใช้โอเลสตรา (olestra) ยาไบล์แอซิดซีเควสแตรนต์ (bile acid sequestrants) ยามินเนอรอลออย (mineral oil) ยานีโอมัยซินสำหรับรับประทาน (neomycin) ยาออริสแตท (orlistat) ยาโปรตอนปั๊ม อินฮิบิเตอร์ (proton pump inhibitors) เนื่องจากยาเหล่านี้อาจจะลดระดับของเบตาแคโรทีนได้
- เก็บเบตาแคโรทีนไว้ในที่แห้ง ห่างจากแสงแดด
- กฏข้อบังคับในการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรนั้นมักเข้มงวดน้อยกว่ากฏข้อบังคับในการใช้ยา และยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาความปลอดภัยของอาหารเสริมนี้ ควรพิจารณาคุณประโยชน์และความเสี่ยงของการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรอย่างรอบคอบ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ความปลอดภัยของเบตาแคโรทีน
- เบตาแคโรทีนจะปลอดภัยหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม แต่ไม่แนะนำให้ใช้อาหารเสิรมเบตาแคโรทีนในขนาดสูงสำหรับการใช้ทั่วไปขณะตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- สำหรับผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ อาหารเสริมเบตาแคโรทีนนั้นอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งปอด และโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก อย่าใช้อาหารเสริมเบตาแคโรทีนหากคุณสูบบุหรี่
- ผู้ที่เคยสัมผัสกับแร่ใยหิน อาหารเสริมเบตาแคโรทีนอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง อย่าใช้เบตาแคโรทีนหากคุณเคยมีประวัติสัมผัสกับแร่ใยหินมาก่อน
- หลีกเลี่ยงการใช้อาหารเสริมเบตาแคโรทีนเพียงชนิดเดียวหรือใช้ร่วมกับวิตามินที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในทันทีหากและหลังจากการผ่าตัดขยายเส้นเลือด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้เบตาแคโรทีน
- ผลหลักจากการใช้เบตาแคโรทีนคือการมีผิวหนังเป็นสีส้มอมเหลือง
- เบตาแคโรทีนอาจทำให้เรอ ท้องผูก ท้องร่วง วิงเวียน ปวดหัว เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค (ทั้งโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคหวัด โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งปอด การเสียชีวิต โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร) ปวดข้อต่อ ปัญหาเกี่ยวกับปอด ปวดกล้ามเนื้อ ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ระดับคอเลสเตอรอลแย่ลง มีจุดสีเหลืองในดวงตา และผิวหนังเป็นสีเหลือง
- มีข้อกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้อาหารเสริมที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างเบตาแคโรทีนในขนาดสูงนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายมากกว่าประโยชน์ นักวิจัยบางรายได้แสดงให้เห็นว่าการใช้อาหารเสริมเบตาแคโรทีนในขนาดสูงนั้นอาจจะเพิ่มโอกาสในการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด และอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลว่าการรับประทานวิตามินรวมในขนาดสูงร่วมกับอาหารเสริมเบตาแคโรทีนนั้นจะเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระดับรุนแรงในผู้ชาย
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยาที่อาจจะเกิดขึ้นกับ
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรนี้อาจจะมีปฏิกิริยากับยาที่คุณกำลังใช้หรือโรคที่คุณเป็น โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์นี้
- เบตาแคโรทีนอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการเลือดออกหรือรอยช้ำ ควรระมัดระวังการใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับอาการเลือดออกหรือการใช้ยาที่อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการเลือดออก อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยา
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาของเบตาแคโรทีน
- ปริมาณของวิตามินเอที่คุณต้องการนั้นขึ้นอยู่กับอายุและการเติบโตในแต่ละคน ปริมาณการบริโภควิตามินเอที่แนะนำสำหรับผู้ที่อายุ 14 ปีขึ้นไปคือระหว่าง 700 ถึง 900 ไมโครกรัมของปริมาณเทียบเท่าของวิตามินเอ (retinol activity equivalents) ในแต่ละวัน ปริมาณการบริโภคที่แนะนำสำหรับผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตรคือ 1,200 ถึง 1,300 ไมโครกรัมของปริมาณเทียบเท่าของวิตามินเอ และนำให้ใช้ยาในขนาดที่ต่ำกว่าสำหรับทารกและเด็กที่อายุน้อยกว่า 14 ปี
- คุณสามารถเปลี่ยนแปลงปริมาณของเบตาแคโรทีนที่คุณต้องการจะบริโภค โดยยึดคุณค่าทางโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์เป้นหลัก โดยปกติแล้วคุณสามารถบริโภคเบตาแคโรทีนขนาด 15 มก. พร้อมกับวิตามินซีขนาด 500 มก. ซิงค์ออกไซด์ (zinc oxide) ขนาด 80 มก. และวิตามินอี 400 หน่วย ต่อวัน
- ขนาดของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรอาจจะแตกต่างกันตามแต่ละคน ขนาดยาของคุณจะขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และภาวะอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรนั้นไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับขนาดยาที่เหมาะสมกับคุณ
รูปแบบของ เบตาแคโรทีน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรนั้นมีทั้งรูปแบบยาเม็ดและยาแคปซูล โดยมีทั้งรูปแบบที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบพื้นฐาน และมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยที่ระบุว่าเบตาแคโรทีนที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบพื้นฐานนั้นจะดูดซึมได้ดีกว่า
[embed-health-tool-bmi]