การใช้ประโยชน์ โสมอเมริกา
โสมอเมริกา ใช้ทำอะไร
โสมอเมริกา (American Ginseng) คือ พืชสมุนไพรที่เติบโตในอเมริกาเหนือเป็นส่วนใหญ่ ใช้บรรเทาอาการได้หลากหลายอาการดังต่อไปนี้:
- ความเครียด
- ฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน
- ทำหน้าที่เป็นสารกระตุ้น
- สามารถต่อสู้กับไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่
- เอชไอวี (HIV) / เอดส์ (AIDS)
- บรรเทาอาการติดเชื้อในลำไส้ (โรคบิด)
- การติดเชื้อเฉพาะ ( การติดเชื้อ Pseudomonas)
- ฟื้นฟูระบบการย่อยอาหาร
- บรรเทาอาการเบื่ออาหาร
- อาการคลื่นไส้ อาเจียน
- อาการอักเสบของลำไส้ใหญ่ (โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ)
- อาการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร (กระเพาะอาหาร)
- ภาวะขาดธาตุเหล็ก หรือ ธาตุเหล็กในเลือดต่ำ (โรคโลหิตจาง)
- โรคเบาหวาน
- ภาวะดื้อต่ออินซูลินที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเอชไอวี (HIV)
- ความเหนื่อยล้าจากโรคมะเร็ง
- ความดันโลหิตสูง
- ปัญหาด้านการนอน (นอนไม่หลับ)
- อาการปวดเส้นประสาท
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ED)
- อาการไข้
- อาการเมาค้าง
- โรคสมาธิสั้น (ADHD)
- อาการผิดปกติของเลือดหรือมีเลือดผิดปกติ
- มะเร็งเต้านม
- อาการวิงเวียนศีรษะ
- อาการปวดศีรษะ
- อาการชัก
- อาการปวดกล้ามเนื้อ เอ็น และเนื้อเยื่ออ่อน
- อาการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง (โรคหลอดเลือดแดงหรือท่อหลอดเลือดแดงแข็ง)
- อาการหลงลืม
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- โรคจิตเภท
- ฟื้นฟูสมรรถภาพทางด้านร่างกาย
- ฟื้นฟูสมรรถภาพทางจิต
- ช่วยต่อต้านริ้วรอย
- ภาวะหมดระดู
- ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ภาวะประสาทอ่อนเพลีย (ภาวะประสาทเปลี้ย)
การทำงานของโสมอเมริกาเป็นอย่างไร
เนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับโสมอเมริกาไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม มีบางการศึกษาค้นคว้าพบว่าโสมอเมริกา มีสารเคมีที่เรียกว่า จินเซนโนไซด์ ซึ่งมีผลต่อระดับอินซูลินและลดระดับน้ำตาลในเลือด และยังมีสารเคมีอื่นที่มีผลต่อภูมิคุ้มกัน เรียกว่าพอลิแซ็กคาไรด์
ข้อควรระวังและคำเตือน:
เราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้โสมอเมริกา
ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:
- ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- กำลังใช้ยาอื่นๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
- มีอาการแพ้สารโสมอเมริกายาอื่นๆ หรืออาหารเสริมอื่นๆ
- มีโรคอื่นๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่นๆ
- มีอาการแพ้อื่นๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ
ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโสมอเมริกานั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โสมอเมริกามีความปลอดภัยแค่ไหน
โสมอเมริกาปลอดภัยสำหรับรับประทานในระยะเวลาอันสั้น
ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ
สำหรับเด็ก:
โสมอเมริกาปลอดภัยสำหรับเด็กโดยการรับประทานในระยะเวลาอันสั้น
สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร:
โสมอเมริกาอาจไม่ปลอดภัยเมื่อใช้ในขณะตั้งครรภ์ สารสกัดจากโสม ( Panax ginseng ) อาจส่งผลกระทบต่อการให้กำเนิดได้ ควรงดการใช้โสมอเมริกาในระหว่างการตั้งครรภ์
ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ โสมอเมริกาในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัย
การผ่าตัด:
โสมอเมริกาอาจส่งผลกระทบต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างผ่าตัดและหลังผ่าตัด ฉะนั้นควรหยุดรับประทานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
ผลข้างเคียง:
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้โสมอเมริกามีอะไรบ้าง
- โรคอุจจาระร่วง
- อาการคัน
- ปัญหาด้านการนอน (นอนไม่หลับ)
- ปวดศีรษะ
- อาการทางประสาท หรือ วิตกกังวล
- ภาวะหัวใจเต้นเร็ว
- ความดันโลหิตสูงหรือความดันโลหิตต่ำ
- อาการเจ็บเต้านม
- มีเลือดออกทางช่องคลอดในผู้หญิง
- อาการอักเสบของผิวหนังใน
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตับ
- อาการแพ้อย่างรุนแรง
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียงดังกล่าว บางครั้งอาจเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งหากพบอาการข้างเคียงใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักสมุนไพรศาสตร์ก่อนใช้โสมอเมริกา
ปฏิกิริยาระหว่างยา:
ยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับโสมอเมริกามีอะไรบ้าง
โสมอเมริกาอาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้อยู่ควบคู่กัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ยา
อาการที่อาจมีปฏิกิริยาระหว่างโสม
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน: โสมอเมริกาอาจมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ถ้าผู้บริโภคกำลังเป็นโรคเบาหวานและกำลังใช้ยาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด การรับประทานโสมอเมริการ่วมด้วยอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำมากจนเกินไป ควรตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างระมัดระวัง
- อาการฮอร์โมนที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก มะเร็งรังไข่ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือเนื้องอกในมดลูก: สารเคมีที่มีชื่อว่า จินเซนโนไซด์ ( ginsenosides ) ที่อยู่ในโสมอเมริกาอาจทำหน้าที่เสมือนสารเอสโตรเจน ซึ่งอาจมีผลกระทบทำให้อาการดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเลวร้ายยิ่งขึ้น ฉะนั้นควรงดการใช้โสมอเมริกา อย่างไรก็ตามได้มีบางผลิตภัณฑ์ของ American ginseng ที่สกัดสารจินเซนโนไซด์ออกมาแล้ว จากสถาบัน Cold-fX, Afexa Life Sciences ประเทศแคนาดา ผลิตภัณฑ์นั้นจึงมีสารจินเซนโนไซด์ในปริมาณที่น้อยหรือแทบจะไม่มีเลย จึงไม่สามารถทำหน้าที่เสมือนสารเอสโตรเจนได้
- ปัญหาด้านการนอน (นอนไม่หลับ): การรับประทานโสมอเมริกาในปริมาณมากนั้นอาจมีผลกระทบต่อการนอนไม่หลับ ถ้าผู้ใช้มีปัญหาด้านการนอนอยู่แล้ว ควรรับประทาน โสมอเมริกาด้วยความระมัดระวัง
- โรคจิตเภท(โรคทางจิต): การรับประทานโสมอเมริกาในปริมาณมากนั้นอาจมีผลกระทบต่อปัญหาการนอนหลับและอาการกระวนกระวายในผู้ที่เป็นโรคจิตเภท โปรดระมัดระวังในการใช้ในผู้ที่เป็นโรคจิตเภท
นอกจากนี้ ห้ามใช้โสมอเมริกาคู่กับยา ดังต่อไปนี้:
- ยาวาร์ฟาริน หรือ ยาคูมาดิน (Warfarin or Coumadin)
- ยาสำหรับภาวะซึมเศร้า (MAOIs)
- ยาสำหรับโรคเบาหวาน (ยาต้านโรคเบาหวาน) เช่น glimepiride (Amaryl), glyburide (DiaBeta, Glynase PresTab, Micronase), insulin, pioglitazone (Actos), rosiglitazone (Avandia), chlorpropamide (Diabinese), glipizide (Glucotrol), tolbutamide (Orinase) และอื่นๆ
ขนาดการใช้
ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษานักสมุนไพรศาสตร์หรือแพทย์ก่อนการใช้ยาเสมอ
ปกติแล้วควรใช้โสมอเมริกาในปริมาณเท่าใด
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน:
- สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 รับประทาน โสมอเมริกาปริมาณ 3 กรัม ก่อนอาหาร ไม่เกิน 2 ชั่วโมง จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงหลังจากทานอาหาร
- สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 รับประทาน โสมอเมริกาปริมาณ 100-200 กรัม เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนรับประทานอาหาร
การติดเชื้อทางเดินหายใจ:
- สำหรับผู้ใหญ่อายุ 18-65 ปี รับประทาน โสมอเมริกาปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3-4 เดือน ในช่วงไข้หวัดใหญ่ระบาด จะช่วยป้องกันโรคหวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่ได้
- สำหรับผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป ต้องได้รับการฉีดวัคฉีดไข้หวัดใหญ่เพื่อรักษาและลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่
- สารสกัดโสมอเมริกานี้ มีส่วนช่วยในบรรเทาอาการและทำให้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ในระยะเวลาที่สั้นลงได้
สำหรับเด็ก:
- สำหรับเด็กอายุ 3-12 ปี ควรใช้สารสกัดจากโสม เฉพาะที่มีชื่อว่า CVT-E002 ของสถาบัน Cold-FX, Afexa Life Sciences ประเทศแคนาดา ในปริมาณ 4.5-26 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นระยะเวลา 3 วัน
- ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ป่วย ซึ่งปริมาณยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และปัจจัยอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อปริมาณยาที่เหมาะสมสำหรับการรับประทาน
สมุนไพรดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบใด
โสมอเมริกาอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
- สารสกัดของเหลว
- ผง
- สารละลายแอลกอฮอล์ด้วยยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]