โรคอ้วนไม่ได้มีปัญหาเฉพาะแค่รูปร่างเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสุขภาพร่างกายอีกด้วย โดยเฉพาะ โรคอ้วนในผู้ชาย เหล่าคุณผู้ชายอยากรู้หรือไม่ว่า โรคอ้วนส่งผลกระทบอะไรบ้างต่อร่างกายของคุณ แต่ก่อนอื่นเลยเราจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโรคอ้วน กับน้ำหนักเกินเกณฑ์มีความแตกต่างกันนะ ไปอ่านเลย
โรคอ้วน กับน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานต่างกันอย่างไร
โรคอ้วน คือ มีไขมันสะสมมากเกินไป โดยมี BMI (ดัชนีมวลกาย) มากกว่า 30
น้ำหนักเกิน คือ ภาวะที่บุคคลนั้นมีน้ำหนักมากกว่าปกติสำหรับส่วนสูง อายุ และเพศ จะถือว่าน้ำหนักเกินเมื่อ BMI อยู่ระหว่าง 25 ถึง 29.9 อาจมี หรือไม่มีไขมันสะสมมากเกินไปก็ได้
การคำนวณ BMI คือนำน้ำหนักตัว(Kg) / (ส่วนสูง(m) ยกกำลังสอง) สามารถคำนวณได้ตั้งแต่ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
ไขมันที่หน้าท้อง อันตรายกว่าที่คิด จริงหรือเปล่า
ใช่ ปัญหาของไขมันหน้าท้อง คือไม่ได้จำกัดอยู่แค่ไขมันใต้ผิวหนังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงไขมันในช่องท้องอีกด้วย ซึ่งไขมันที่หน้าท้องที่เราเห็นอาจคิดว่าไม่อันตราย แต่ความจริงแล้วภายในร่างกายที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ อาจส่งผลกระทบได้อันตรายมากกว่าที่คุณคิด ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ และหลอดเลือด ที่เรียกมันว่าหลอดเลือด หมายถึง “การแข็งตัวของหลอดเลือดแดง ” มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก เกิดภาวะซึมเศร้า โรคเบาหวาน รวมถึงหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
โรคอ้วนในผู้ชาย ส่งผลให้หย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือไม่
การหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่สำคัญ การหย่อนสมรรถภาพทางเพศพบบ่อยในผู้ชายที่อ้วน คือการแข็งตัวของอวัยวะเพศช้า บางครั้งไม่ค่อยแข็งตัว หรือบางทีอ่อนตัวเร็ว และหลั่งเร็ว ทำให้การมีเพศสัมพันธ์ไม่น่าพึงพอใจ และยังทำให้ขาดความมั่นใจ ซึมเศร้า และอาจส่งผลต่อปัญหาชีวิตคู่ได้ โดยการศึกษาของฮาร์วาร์ดพบว่าผู้ชายที่มีรอบเอว 42 นิ้ว มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นสองเท่าของผู้ชายที่มีเอว 32 นิ้ว
ปัจจัยสำคัญในการเกิด โรคอ้วนในผู้ชาย
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เช่น การดื่มเบียร์สามารถส่งผลให้อ้วนลงพุง และเกิดเป็น โรคอ้วนในผู้ชาย
- การรับประทานอาหารที่มากเกินไป
- การใช้ชีวิตอยู่ประจำโดยไม่มีออกกำลังกาย หรือขยับร่างกายน้อยเกินไป
- ความผิดปกติของการเผาผลาญในร่างกาย
- ความไม่สมดุลของฮอร์โมนประเภทอื่น ๆ
- การแพ้อาหาร
- สภาวะทางจิตใจสามารถทำให้เกิดปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว
- อายุ รวมไปถึงกรรมพันธุ์
การวินิจฉัยสมรรถภาพทางเพศชายเป็นอย่างไร
- การตรวจเลือดเพื่อตรวจระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และคอเลสเตอรอล
- การตรวจความดันโลหิต
- การตรวจทางทวารหนัก เพื่อตรวจต่อมลูกหมาก
- การตรวจองคชาต และอัณฑะ
การรักษาสมรรถภาพเสื่อมในเพศชาย
- ยาที่ช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศโดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังองคชาต
- การบำบัดด้วยฮอร์โมน
- การบำบัดทางจิต หากมีความรู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า
ป้องกันการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชาย
การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายอาจไม่สามารถป้องกันได้ แต่การจัดการกับสาเหตุอาจช่วยให้คุณเข้าใจ และรับมือกับปัญหาได้ ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ดังนี้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เลิกบุหรี่
- กินอาหารเพื่อสุขภาพ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น แอโรบิก
- พยายามพูดคุย สื่อสารกับคู่ของคุณ
- รับการรักษาหากมีปัญหาทางอารมณ์ หรือจิตใจ เช่น ความเครียด ภาวะซึมเศร้า
วิธีปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก คือการลดแคลอรี่ (คุมอาหาร) และเพิ่มการออกกำลังกายในแต่ละวัน อาจเริ่มจากง่าย ๆ ก่อนก็ได้ เพื่อที่คุณผู้ชายไม่รู้สึกท้อแท้ตั้งแต่ต้น