แม้ปัจจุบันนี้ การเหมารวมเกี่ยวกับเพศชายและเพศหญิงอาจลดลง ผู้คนเริ่มเข้าใจความเป็นปัจเจกของแต่ละคนว่ามีความแตกต่างกัน ไม่อาจเหมารวมคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งว่ามีลักษณะใดลักษณะหนึ่ง แต่การเหมราวมก็ยังคงมีบทบาทต่อการปฏิบัติตัวของผู้ชายในสังคม และตัวอย่างหนึ่งที่เด่นชัด คือหากผู้ชายต้องการเป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน ผู้ชายอาจต้องมีบุคลิกลักษณะตามที่คนส่วนใหญ่คาดหวัง เช่น ต้องเข้มแข็ง กล้าเสี่ยง เป็นผู้นำ ทำงานนอกบ้าน ช่ำชองเรื่องเพศ
นอกจากนี้ การเหมารวมเกี่ยวกับเพศชายอาจมีผลให้ผู้ชายมีปัญหาสุขภาพจิต โดยเฉพาะแนวคิดที่เหมารวมว่าผู้ชายต้องเข้มแข็งหรือห้ามแสดงความอ่อนแอ เพราะการเหมารวมดังกล่าวทำให้ผู้ชายเก็บกดความรู้สึกของตนเองไว้ ไม่ค่อยกล้าพูดหรือระบายปัญหาสุขภาพจิตของตัวเองกับคนรอบข้าง ซึ่งส่งผลให้ปัญหาสุขภาพจิตแย่ลงกว่าเดิม
ผลการศึกษาหนึ่ง เรื่องผู้ชายและความอับอายต่อการมีปัญหาสุขภาพจิตเผยแพร่ในวารสาร American Journal of Men’s Health ปี พ.ศ. 2563 ระบุว่า อิทธิพลของแนวคิดชายเป็นใหญ่ในสังคม ส่งผลให้ผู้ชายไปพบจิตแพทย์น้อยกว่าผู้หญิง และทำให้ปัญสุขภาพจิตในผู้ชายไม่ได้รับการดูแลรักษา
ยิ่งกว่านั้น ผลการศึกษาเดียวกันยังระบุว่าา การยึดมั่นในแนวคิดชายเป็นใหญ่ อาจเป็นสาเหตุให้ผู้ชายมีปัญหาต่อไปนี้
- โรคซึมเศร้าและภาวะวิตกกังวลที่แย่ลง
- ความเสี่ยงเป็นโรคทางจิตเวชที่มากขึ้น
- การใช้สารเสพติด
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- การใช้ความรุนแรง
- ความสัมพันธ์กับคนรักหรือคนรอบข้างไม่ราบรื่น
- โรคเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกัน
- รู้สึกแปลกแยกและต้องการแยกตัวออกจากสังคม
- มีแนวโน้มฆ่าตัวตาย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย