backup og meta

น้ำหนักลดลง 5% ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    น้ำหนักลดลง 5% ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

    รู้หรือไม่ ว่าความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องรอให้ลดน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัม ถึงจะมีสุขภาพดี เพราะเพียงแค่ลดน้ำหนักไม่กี่กิโลกรัมก็สร้างความแตกต่างให้ร่างกายแล้ว เนื่องจากมีงานวิจัยที่พบว่า น้ำหนักลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 4.5 กิโลกรัมของผู้ที่มีน้ำหนัก 90 กิโลกรัม ก็สามารถทำให้สุขภาพดีขึ้นได้

    น้ำหนักลดลง 5% ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

    งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการ Cell Metabolism ให้ข้อมูลว่า สำหรับคนไข้ที่เป็นโรคอ้วนและพยายามจะลดน้ำหนักนั้น นักวิจัยพบว่า ประโยชน์ด้านสุขภาพที่ดีที่สุดมาจากการลดน้ำหนักเพียง 5% ของน้ำหนักร่างกาย เนื่องจากนักวิจัยพบความสัมพันธ์ระหว่างการลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อย กับการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงช่วยปรับปรุงการทำงานของการเผาผลาญในตับ ไขมัน และเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้การลดน้ำหนัก 5% ยังส่งผลที่ดีต่อสุขภาพของคุณ ดังนี้

    ลดแรงกดดันบริเวณข้อต่อ

    หากคุณมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 4.5 กิโลกรัม (10 ปอนด์) จะเพิ่มแรงกดดันบริเวณเข่าและข้อต่อประมาณ 18 กิโลกรัม (40 ปอนด์) นอกจากนี้การมีไขมันส่วนเกินยังอาจทำให้เกิดการอักเสบ เนื่องจากเมื่อสารเคมีในร่างกายสร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อเป็นเวลานาน เช่น บริเวณข้อต่อ ร่างกายอาจเกิดการอักเสบได้ การลดน้ำหนักเพียง 5% ของน้ำหนักตัวจึงสามารถช่วยลดแรงกดดันบริเวณข้อต่อได้ และถ้าคุณลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง ก็จะยิ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไขข้ออักเสบในตอนที่อายุมากด้วย

    ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง

    งานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงมีอายุที่ลดน้ำหนักอย่างน้อย 5% ของน้ำหนักตัว ผลการวิจัยพบว่าช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม 12% อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าการลดน้ำหนักสามารถป้องกันโรคมะเร็งชนิดอื่นได้หรือไม่ แต่ก็มีโอกาสที่คนที่ลดน้ำหนักจะลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งด้วย เนื่องจากเมื่อผู้ที่มีน้ำหนักเกินลดไขมันในร่างกาย ก็อาจช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็ง เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน อินซูลิน และแอนโดรเจน จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งชนิดอื่น

    ป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2

    ถ้าคุณมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การลดน้ำหนักเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยป้องกัน หรือช่วยชะลอการเป็นโรคนี้ โดยอาจเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายระดับปานกลาง เป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ส่วนถ้าในกรณีที่คุณเป็นโรคเบาหวาน การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพอื่นๆ ด้วย

    ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

    การลดน้ำหนักเพียงไม่กี่กิโลกรัมสามารถช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้นได้ เนื่องจากมีงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการ Diabetes Care ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่ลดน้ำหนักระหว่าง 5-10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักร่างกาย พบว่ามีไขมันดี หรือไขมันแอชดีแอล (HDL) เพิ่มขึ้น และไขมันไตรกลีเซอไรด์ลดลง ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ นอกจากนี้การลดน้ำหนักยังอาจช่วยทำให้ความดันโลหิตลดลง ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองด้วย โดยคุณอาจเริ่มต้นการลดน้ำหนักด้วยการลดการกินเกลือ หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง รวมถึงกินผักและผลไม้

    ช่วยเรื่องการนอนหลับ

    ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน มักจะมีชั้นเนื้อเยื่อพิเศษที่ด้านหลังของลำคอ ทำให้เวลานอนเนื้อเยื่ออาจปิดกั้นทางเดินหายใจ จนทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ตลอดทั้งคืน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ดังนั้นการลดน้ำหนักไขมันเพียงไม่กี่กิโลกรัม อาจช่วยเรื่องการนอนหลับได้ และทำให้หายใจสะดวกขึ้นขณะหลับ

    อารมณ์ดีขึ้น

    การลดน้ำหนักอาจช่วยทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการมีรูปร่างดีขึ้น และนอนหลับสบายขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่า ผู้ที่มีน้ำหนักมากจะรู้สึกดีขึ้น หลังจากที่พวกเขาลดน้ำหนักโดยเฉลี่ย 8% ของน้ำหนักร่างกาย มากไปกว่านั้นยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่า คุณจะรู้สึกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นเวลาหลังจากนั้น 2 ปี ตราบเท่าที่น้ำหนักของคุณลดลง

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา