สังเกตกันไหมว่าทำไมชาวเกาหลีถึงมีผิวพรรณที่ขาวผ่องใส ผิวเนียนนุ่มดูสุขภาพดี จนทำให้วัยรุ่นส่วนใหญ่ค้นหาความลับนี้ บางคนก็เลือกวิธีการใช้สกินแคร์ตามรีวิวที่โด่งดัง แต่จริงๆ แล้วยังมีความลับอีกอย่างที่คุณไม่ต้องเสียเงินเยอะมากมายขนาดนั้น วันนี้ Hello คุณหมอ ขอแนะนำการทำ ชาไหมข้าวโพด สุดดังที่กำลังฮิตไม่แพ้กัน มาให้ทุกคนได้ลอง
ทำความรู้จักกับ ไหมข้าวโพด ก่อนจะไปเป็น ชา กัน
ไหมข้าวโพด (Corn silk) คือ เส้นใยที่เกาะอยู่บนฝักข้าวโพดสีเหลืองนวลที่เรานิยมนำมาต้ม หรือนำมาประกอบอาหารเพื่อรับรับประทาน ซึ่งมีสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ และไฟเบอร์ ซึ่งเป็นคุณค่าด้านโภชนาการมีประสิทธิภาพสูง ป้องกันโรคหัวใจ และควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
นอกจากนี้ยังมีกรดในตัวที่ช่วยในการปรับปรุงสภาพของสุขภาพช่องปาก บำรุงผิวหนัง ลดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบของต่อมลูกหมาก รักษานิ่วในไต ได้เป็นอย่างดีเมื่อรับประทานอย่างถูกวิธี และเหมาะสม
ก่อนการดื่ม ชาไหมข้าวโพด สิ่งที่คุณควรรู้ไว้ คือ
ประโยชน์ของชาไหมข้าวโพดที่ชวนให้คุณต้องอึ้ง แทบไม่น่าเชื่อว่าเส้นใยที่เรามองข้ามจะมีสารที่ทำให้สุขภาพร่างกายเราแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกได้เพียงนี้
- ได้รับวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ : ชาไหมข้าวโพดประกอบไปด้วยวิตามินซีจำนวนมาก ในการรักษาประสิทธิภาพแก่อวัยวะภายใน ลดความเครียดจากการเกิดออกซิเดทีฟ (Oxidative stress) ที่ถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระ และกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดี ให้คุณมีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆได้ อย่างคล่องแคล่ว
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด : ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงเหมาะกับการดื่มชาไหมข้าวโพดเป็นที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาโดยธรรมชาติไร้สารเคมี
- ป้องกันโรคเกาต์ : สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดเมื่อโรคเกาต์กำเริบ ด้วยการดื่มชาไหมข้าวโพด 3 แก้ว ต่อวัน หลังจากนั้นหากอาการดีขึ้นควรรับประทานเพียงแค่วันละ 1 แก้วก็เพียงพอ
- ควบคุมการตกเลือด : สำหรับสตรีตั้งครรภ์ ชาไหมข้าวโพดมีความสำคัญต่อการควบคุมการตกเลือดอย่างมาก ทั้งช่วงก่อน และหลังการคลอดบุตร
- เพิ่มปริมาณของปัสสาวะ : เพื่อรักษาสมดุลของปริมาณปัสสาวะให้มีประสิทธิภาพ โดยอาจมีอาการปัสสาวะถี่ และบ่อยขึ้น เนื่องจากสารที่อยู่ในชาไหมข้าวโพดเข้าไปขจัดสารพิษอันตรายต่างๆ ให้ออกมาในรูปแบบปัสสาวะ หรือขับถ่าย
- ให้สารอาหารที่ดีต่อร่างกาย : ชาไหมข้าวโพดเป็นแหล่วงรวมของเบตาแคโรทีน (Beta-carotene), ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) , เมนทอล (Menthol) , ไทมอล (Thymol) , ซีลีเนียม (Selenium) , ไนอาซิน (Niacin) , และลิโมนีน (Limonene) ที่ดีต่อสุขภาพของคุณ
ในการศึกษาล่าสุดของทีมวิจัยแห่งหนึ่งโดยใช้หนูทดลองเป็นตัวชี้วัด แสดงให้เห็นถึงการลดความเครียดที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเอกสับของอวัยวะภายใน ขจัดส่วนเกินที่เป็นอันตรายออกจากร่างกาย และยังลดประสิทธิภาพการทำงานของเอนไซม์บางชนิดที่ทำให้ร่างกายของเราแย่ลงได้
วิธีการทำ ชาไหมข้าวโพด แสนง่ายด้วยตัวคุณเอง
เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบ ดังนี้
- ไหมข้าวโพดที่ถูกฉีกเป็นเส้นฝอย ในปริมาณ 1 ฟัก
- น้ำสะอาด 1 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
- นำไหมข้าวโพดต้มกับน้ำสะอาด 15-20 นาที
- ปิดเตา นำหม้อที่ต้มไหมข้าวโพดทิ้งไว้ให้เย็นสักครู่ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีน้ำที่เป็นสีออกน้ำตาล หรือเหลืองนวลคล้ายสีไหม และข้าวโพด
- หากชิมแล้วรสชาติจืดไปคุณสามารถเติมน้ำผึ้งดิบเพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่มได้ ควบคุมความหวานให้อยู่ในระดับพอดีไม่ควรหวานเกินไปเพราะอาจทำให้ลดคุณประโยชน์ของชาไหมข้าวโพดลง สามารถเก็บแช่ชาไหมข้าวโพดได้ในตู้เย็น ชานี้จะอยู่ได้ 2-3 วันเท่านั้น
สำหรับผู้ใหญ่ : ควรดื่มอย่างน้อย 1 แก้ว 3 ครั้งต่อวัน และไม่แนะนำให้ดื่มชานี้ก่อนเข้านอน
สำหรับเด็ก : ควรลดปริมาณเหลือ 1 แก้วต่อวัน
หากมีอาการแพ้ หรือต้องการดื่มชาไหมข้าวโพดร่วมกับยาตัวอื่น เพื่อป้องกันปฏิกิริยาที่ร้ายแรง ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในด้านการดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmr]