ยาคุมฉุกเฉิน1เม็ด เป็นยาคุมฉุกเฉินที่ใช้ตัวยาออกฤทธิ์ชนิด Levonorgestrel ขนาด 1.5 มิลลิกรัม รับประทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง หากรับประทานอย่างถูกต้องอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 84% แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เลือดออกทางช่องคลอด เจ็บเต้านม ซึ่งอาการข้างเคียงเหล่านี้จะดีขึ้นเองตามลำดับ แต่หากมีอาการผิดปกติติดต่อกันหลายวัน ควรปรึกษาคุณหมอ
[embed-health-tool-ovulation]
ยาคุมฉุกเฉิน1เม็ด คืออะไร
ยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด ชนิดตัวยาที่ใช้กันมากที่สุดคือ Levonorgestrel เป็นยาในกลุ่มโปรเจสติน (Progestins) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์เลียนแบบโปรเจสเตอโรน (Progesterone) สามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีกว่า โดยยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดมีขนาด 1.5 มิลลิกรัม ใช้รับประทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง อาจสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ 84% โดยการออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการตกไข่ ลดปริมาณของ Glycodelin ซึ่งเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์รวมไปถึงช่วยยับยั้งการปฏิสนธิ
หลังจากรับประทานยาในช่วงสัปดาห์แรกอาจทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย หรือตกขาวสีน้ำตาล และอาจทำให้ประจำเดือนรอบใหม่คลาดเคลื่อนได้
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน1เม็ด
ยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด ควรรับประทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด ชนิด Levonorgestrel ขนาด 1.5 มิลลิกรัม หากรับประทานอย่างถูกต้องอาจป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 84% เมื่อเทียบกับยาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด ขนาดเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม หากรับประทาน 2 เม็ดห่างกันเม็ดละ 12 ชั่วโมง อาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ใกล้เคียงกับยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด
หากมีอาการอาเจียนหลังรับประทานยาคุมกำเนิด1เม็ด ภายใน 2-3 ชั่วโมง ให้รีบพบคุณหมอเพื่อตรวจสอบอาการ และสอบถามว่าจำเป็นต้องใช้ยาซ้ำหรือไม่
ผลข้างเคียงยาคุมฉุกเฉิน1เม็ด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นสำหรับการรับประทานยาคุม1เม็ด มีดังนี้
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้อง
- เหนื่อยล้า วิงเวียนศีรษะ
- เลือดออกทางช่องคลอดกะปริบกะปรอย
- เจ็บเต้านม
แจ้งให้คุณหมอทราบทันทีหากมีผลข้างเคียงรุนแรง ได้แก่ ปวดท้องส่วนล่างอย่างรุนแรงหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน1เม็ด ประมาณ 3-5 สัปดาห์
อาการแพ้ยาคุมที่อาจเกิดขึ้นได้ ควรพบคุณหมอทันที หากมีอาการดังนี้
- หายใจลำบาก
- ผื่น
- คันและบวม โดยเฉพาะที่ลิ้น ใบหน้า ลำคอ
- วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง
ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินทุกชนิดในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อป้องกันผลกระทบต่อทารกในครรภ์ และหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรทันทีหลังกินยาคุมฉุกเฉิน ควรเว้นประมาณ 8 ชั่วโมงก่อนให้นมบุตร
สำหรับผู้ที่รับประทานยาคุมฉุกเฉิน รอบประจำเดือนถัดไปอาจคลาดเคลื่อนได้ อาจมาช้าหรือเร็วกว่าปกติ และอาจมามากหรือน้อยกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม หากประจำเดือนในรอบถัดไปมาช้ากว่าปกติเกิน 7 วัน หรือมาน้อยกว่าปกติมาก ควรเข้าพบคุณหมอทันทีเพื่อตรวจการตั้งครรภ์ หรือความผิดปกติอื่น ๆ