ประจําเดือนสีดำ อาจเป็นเรื่องปกติในช่วงแรกที่ประจำเดือนมาหรือใกล้ประจำเดือนหมด แต่ในขณะเดียวกันก็อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในสุขภาพช่องคลอดได้ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ช่องคลอดมีกลิ่น ปวดท้องล่างรุนแรง ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ และควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็ว เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และมะเร็งปากมดลูกได้
[embed-health-tool-ovulation]
ประจําเดือนสีดำ มีสาเหตุมาจากอะไร
ประจำเดือนเป็นสีดำ มีสาเหตุมาจากเลือดเก่าของประจำเดือนที่ตกค้างอยู่ภายในช่องคลอด เมื่อเลือดประจำเดือนสัมผัสกับอากาศหรือออกซิเจนจะเกิดการออกซิเดชันทำให้กลายเป็นสีดำได้ หรืออาจเป็นเลือดผสมกับตกขาวทำให้เลือดเปลี่ยนจากสีแดงหรือสีชมพูเป็นสีน้ำตาลหรือสีแดงเข้มจนถึงสีดำเข้มคล้ายกับกากกาแฟที่ไหลออกมาในช่วงระยะแรกของประจำเดือนหรือก่อนประจำเดือนหมดในรอบเดือนนั้น
นอกจากนี้ประจำเดือนสีดำยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้
- วัตถุแปลกปลอมติดค้างอยู่ในช่องคลอด เช่น ห่วงคุมกำเนิด ผ้าอนามัยแบบสอด
- กระดูกเชิงกรานอักเสบ
- การติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม
- การฝังตัวของตัวอ่อนในมดลูกที่เตรียมการตั้งครรภ์
- การแท้งบุตร
- น้ำคาวปลาหลังจากคลอดบุตร
- โรคมะเร็งปากมดลูก
ประจําเดือนสีดำส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่
ประจําเดือนสีดำ มักไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่หากพบว่ามีเลือดหรือตกขาวสีดำไหลออกทางช่องคลอดหลังหมดประจำเดือนหรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ แสบช่องคลอด ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของสภาวะการติดเชื้อในช่องคลอด ที่เกิดจากสิ่งแปลกปลอมอุดตันภายในช่องคลอด เช่น อุปกรณ์คุมกำเนิด ถุงยางอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอด ทำให้เยื่อบุช่องคลอดระคายเคืองจนเกิดการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่สังเกตได้จากอาการเจ็บปวดขณะปัสสาวะ คันช่องคลอด มีเลือดออกระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะลำบาก สีตกขาวผิดปกติ ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ผิวรอบ ๆ ช่องคลอดบวมและมีผื่นขึ้นที่อวัยวะเพศ
นอกจากนี้ยังอาจเป็นสัญญาณเตือนของการแท้งบุตรรวมถึงโรคมะเร็งปากมดลูกที่อาจส่งผลให้มีเลือดสีดำออกทางช่องคลอด พร้อมกับอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
อาการผิดปกติของประจําเดือนสีดำที่ควรพบคุณหมอ
อาการผิดปกติของประจําเดือนสีดำที่ควรพบคุณหมอ อาจมีดังต่อไปนี้
- ปวดเกร็งท้องรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย
- สีตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวมีสีเหลือง เขียว เทา และดำ ตกขาวสีขาวเป็นก้อนหนาเหมือนแป้งเปียก
- ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น
- ประจำเดือนมามากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง
- ประจำเดือนขาดนานกว่า 3 เดือน โดยที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
- รอบเดือนสั้นกว่า 21 วัน หรือมากกว่า 35 วัน
- เป็นประจำเดือนหลายครั้งภายในเดือนเดียว
- รู้สึกหายใจลำบากระหว่างเป็นประจำเดือนหรือหลังเป็นประจำเดือน
- มีไข้ วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย และเหนื่อยล้า
หากมีอาการดังกล่าวควรเข้ารับการวินิจฉัยโดยคุณหมออาจตรวจด้วยการอัลตราซาวด์ เช็คมะเร็งปากมดลูก เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก ตรวจเลือด หรืออาจต้องส่องกล้องตรวจในโพรงมดลูก เพื่อหาความผิดปกติและรักษาตามสาเหตุที่เป็นอย่างรวดเร็ว