backup og meta

ตกขาวสีดำ เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงนันทิวดี มาเมือง · สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 2 สัปดาห์ก่อน

    ตกขาวสีดำ เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

    ตกขาวสีดำ อาจเป็นตกขาวที่ปนกับเลือด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก ประจำเดือนตกค้าง ประจำเดือนมาน้อยในช่วงวันแรกหรือใกล้หมดประจำเดือน แต่หากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น เจ็บแสบช่องคลอดขณะปัสสาวะและมีเพศสัมพันธ์ คันรอบนอกช่องคลอด ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อในช่องคลอดหรือมะเร็งปากมดลูกได้

    ตกขาวสีดำ เกิดจากอะไร 

    ตกขาวสีดำ คือตกขาวปนเลือด ที่มีอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

    • ประจำเดือน

    ในช่วงแรกที่ประจำเดือนมาและช่วงใกล้หมดประจำเดือน อาจมีเลือดตกค้างที่ใช้เวลานานกว่าจะขับออกจากช่องคลอดทำให้เลือดที่ออกมามีสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ซึ่งหากมีตกขาวร่วมด้วยก็อาจส่งผลให้มีตกขาวสีดำ นอกจากนี้ หากมีประจำเดือนมาไม่ปกติ มีเลือดออกกะปริบกะปรอย และมีประจำเดือนตกค้างภายในช่องคลอด ก็อาจส่งผลให้มีตกขาวสีดำได้เช่นกัน

    • สิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในช่องคลอด

    ตกขาวสีดำอาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ภายในช่องคลอด เช่น ถุงยางอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอด อุปกรณ์คุมกำเนิด จนส่งผลให้เยื่อบุช่องคลอดระคายเคือง มีแผล และอาจนำไปสู่การติดเชื้อ

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • ตกขาวสีดำอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสและเชื้อราในช่องคลอดผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม หูดหงอนไก่ โรคพยาธิในช่องคลอด ซึ่งควรรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ปวดกระดูกเชิงกรานเรื้อรังและภาวะมีบุตรยาก

    • การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร

    ตกขาวสีดำอาจเกิดขึ้นเนื่องจากตัวอ่อนฝังตัวลงบนผนังมดลูก ทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดไหลปนกับตกขาว หรืออาจเป็นสัญญาณเตือนของการแท้งบุตร นอกจากนี้ คุณแม่หลังคลอดอาจมีลิ่มเลือดตกค้างจากการคลอดทำให้ตกขาวมีสีแดง สีชมพู สีน้ำตาลหรือตกขาวสีดำได้ โดยปกติแล้วมักเกิดขึ้นช่วงหลังคลอดบุตร 4-6 สัปดาห์

    • โรคมะเร็งปากมดลูก

    ตกขาวสีดำอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งปากมดลูก โดยในระยะแรกอาจมีอาการตกขาวสีใสเป็นน้ำ และอาจมีกลิ่นเหม็น เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีเลือดปนและเปลี่ยนเป็นตกขาวสีน้ำตาลหรือตกขาวสีดำออกมาทางช่องคลอด

    ตกขาวสีดํา อันตรายไหม

    อาการตกขาวสีดำ อาจเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ผู้หญิงส่วนใหญ่พบเจอในช่วงระยะแรกที่ประจำเดือนมาหรือหมดประจำเดือน แต่หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรเข้าพบคุณหมอทันที โดยสามารถสังเกตได้ดังนี้

  • ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น
  • อาการคันในช่องคลอดและรอบนอกช่องคลอด
  • ปัสสาวะลำบาก
  • ผื่นหรือตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ
  • เจ็บแสบช่องคลอดขณะปัสสาวะ หรือมีเพศสัมพันธ์
  • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ 
  • ปวดท้องน้อยรุนแรงหรือปวดอุ้งเชิงกราน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับภาวะแท้งบุตรหรือมะเร็งปากมดลูก
  • ตกขาวสีดํา วิธีรักษา

    วิธีรักษาตกขาวสีดำ อาจแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดตกขาวสีดำ ดังต่อไปนี้

    • สำหรับผู้ที่มีตกขาวสีดำเนื่องจากประจำเดือนมาไม่ปกติและฮอร์โมนไม่สมดุล คุณหมออาจรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัด เพื่อช่วยให้ประจำเดือนมาตามปกติ ป้องกันประจำเดือนตกค้าง
    • สำหรับผู้ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด อาจใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
    • สำหรับผู้ที่มีภาวะแท้งบุตร คุณหมออาจจำเป็นต้องนำทารกที่หยุดการเจริญเติบโตออกและขูดมดลูกเก่าทิ้ง เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและป้องกันภาวะเสียเลือดมากที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
    • สำหรับผู้ที่มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในช่องคลอด ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อนำสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ออก
    • สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งปากมดลูก คุณหมออาจรักษาด้วยการฉายรังสี เคมีบำบัดหรือการผ่าตัด เพื่อชะลอการเจริญเติบโตเซลล์มะเร็งหรือกำจัดเซลล์มะเร็ง

    การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันตกขาวสีดำ

    การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันตกขาวสีดำ อาจทำได้ดังนี้

    • บันทึกและตั้งแจ้งเตือนกำหนดวันที่ควรเปลี่ยนอุปกรณ์คุมกำเนิด เพื่อป้องกันการลืมเปลี่ยน
    • ทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยการใช้สบู่สูตรอ่อนโยน และซับให้แห้งสนิทโดยใช้ทิชชูหรือผ้าสะอาดเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังทวารหนัก เพื่อไม่ให้สัมผัสกับเชื้อโรคในบริเวณทวารหนัก
    • เลือกกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้ายที่ระบายความอับชื้นได้ดี ป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตมากเกินไปที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อในช่องคลอดและตกขาวสีดำ
    • สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    • ลีกเลี่ยงการใช้เซ็กส์ทอยร่วมกับผู้อื่น และควรทำความสะอาดก่อนทุกครั้งก่อนใช้งานและหลังใช้งานเสร็จ
    • ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เช่น การเข้ารับการรักษามะเร็ง การรับประทานยารักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจคัดกรองโรค และตรวจสุขภาพขณะตั้งครรภ์สม่ำเสมอ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงนันทิวดี มาเมือง

    สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 2 สัปดาห์ก่อน

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา