backup og meta

ผู้ชายเสร็จเร็วเพราะอะไร และการรักษาอาการเสร็จเร็ว

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงอรกนิษฐา อรุณาทิตย์ · สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 28/02/2024

    ผู้ชายเสร็จเร็วเพราะอะไร และการรักษาอาการเสร็จเร็ว

    เสร็จเร็ว หมายถึง การหลั่งอสุจิอย่างรวดเร็วหลังสอดใส่ประมาณหนึ่งนาทีโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยเป็นปัญหาที่พบบ่อย หรือในอัตรา 1 ใน 5 ของผู้ชายอายุระหว่าง 18-59 ปี หากถามว่า ผู้ชายเสร็จเร็วเพราะอะไร คำตอบคือการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ความเครียด โรคซึมเศร้า รวมถึงความวิตกกังวลต่อการมีเพศสัมพันธ์

    เสร็จเร็ว คืออะไร

    เสร็จเร็ว (Premature Ejaculation) หมายถึง การหลั่งอสุจิอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยอาจเกิดขึ้นหลังเล้าโลมหรือหลังสอดใส่เพียงไม่นาน

    โดยปกติแล้ว ผู้ชายส่วนใหญ่มักหลั่งน้ำอสุจิหรือถึงจุดสุดยอดหลังสอดใส่ไปแล้วประมาณ 5-7 นาที แต่ระยะเวลาในการถึงจุดสุดยอดของผู้ชายนั้นอาจมีตั้งแต่ 1 นาทีหรืออาจนานกว่าครึ่งชั่วโมง

    ทั้งนี้ สมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่าการเสร็จเร็วเป็นความบกพร่องด้านเพศสัมพันธ์ และ 1 ใน 5 ของผู้ชายอายุระหว่าง 18 ถึง 59 ปี เคยมีปัญหาเสร็จเร็ว

    เสร็จเร็ว มีอาการอย่างไร

    ผู้ชายที่เข้าข่ายว่าเสร็จเร็วนั้น อาจพิจารณาได้จากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

    • หลั่งน้ำอสุจิหรือถึงจุดสุดยอดโดยไม่ตั้งใจภายในระยะเวลา 1 นาทีหลังการสอดใส่
    • มีอาการเสร็จเร็วเกิดขึ้นมานานกว่า 6 เดือน
    • ทำให้รู้สึกวิตกกังวล เครียด หรือส่งผลต่อความสัมพันธ์
    • ไม่ได้ใช้ยาที่มีผลข้างเคียงทำให้เสร็จเร็ว

    ผู้ชายเสร็จเร็วเพราะอะไร

    ภาวะเสร็จเร็วนั้นเกิดได้จากสาเหตุต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    สาเหตุทางกายภาพ

    • การมีองคชาตที่อ่อนไหวเป็นพิเศษต่อการกระตุ้น
    • การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
    • การติดเชื้อบริเวณต่อมลูกหมาก หรือท่อปัสสาวะ
    • ปัญหาเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) ฮอร์โมนโพรแลกติน (Prolactin) ฮอร์โมนลูทิไนซิง (Luteinizing Hormone) หรือฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (Thyroid Stimulating Hormone) ซึ่งสัมพันธ์กับการทำงานของระบบสืบพันธุ์เพศชาย
    • การลดลงของสารเซโรโทนิน (Serotonin) หรือโดพามีน (Dopamine) ในสมอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีอารมณ์ทางเพศและการตื่นตัวที่ผิดปกติ
    • ลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งสัมพันธ์กับการทำงานของโมเลกุลที่ส่งสัญญาณระหว่างเส้นประสาทที่ผิดปกติ

    สาเหตุทางจิตวิทยา

    • ความวิตกกังวลต่อการมีเพศสัมพันธ์ในแง่มุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ความพึงพอใจของคู่นอน หรือความพร้อมของตัวเองหลังห่างเหินจากการมีเพศสัมพันธ์ไปนาน
    • ความระหองระแหงหรือความไม่เข้าใจกันระหว่างคู่รัก
    • ความเครียดในเรื่องต่าง ๆ อาจกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทให้ไวต่อการสัมผัส และเป็นสาเหตุให้ฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล จนทำให้ผู้ชายเสร็จเร็วได้
    • โรคซึมเศร้า หรือโรคทางจิตเวชอื่น ๆ เช่น โรคแพนิค โรคจิตเภท

    ผู้ชายเสร็จเร็ว ควรดูแลตัวเองอย่างไร

    เมื่อพบปัญหาเสร็จเร็ว อาจเลือกดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาหรือป้องกันการเสร็จเร็วด้วยวิธีต่อไปนี้

  • มีเพศสัมพันธ์โดยสวมถุงยางอนามัย เพราะถุงยางอนามัยจะช่วยให้องคชาตไวต่อการสัมผัสน้อยลง นอกจากนี้ ถุงยางอนามัยบางรุ่นอาจเคลือบยาชาไว้ ทำให้ผู้ชายเสร็จได้ช้าลง
  • คิดถึงเรื่องอื่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ อย่างร้านค้าต่าง ๆ ที่เห็นระหว่างการเดินทาง หรือรายชื่อของนักฟุตบอลที่ชอบ
  • มีเพศสัมพันธ์ในท่าที่อาจช่วยให้เสร็จช้า อย่างท่าคาวเกิร์ล (Cowgirl) ซึ่งฝ่ายหญิงเป็นผู้ควบคุมจังหวะช้า-เร็วในการมีเพศสัมพันธ์ และฝ่ายชายอาจบอกฝ่ายหญิงให้เคลื่อนไหวช้า ๆ เพื่อชะลอการถึงจุดสุดยอดได้
  • ฝึกควบคุมการถึงจุดสุดยอด ด้วยวิธี Pause-Squeeze Technique หรือการร่วมเพศตามปกติจนกระทั่งใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วบีบส่วนหัวองคชาตไว้ เพื่อให้องคชาตอ่อนตัวก่อน ทำแบบเดิมซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องการหลั่งจริง ๆ ทั้งนี้ ยังมีวิธี Stop and Start ด้วย ซึ่งขั้นตอนปฏิบัติคล้ายกับ Pause-Squeeze Technique แต่เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดไม่ต้องบีบหัวองคชาต ให้ชะลอการเคลื่อนไหวแล้วปล่อยให้องคชาตอ่อนตัวลงแทน
  • รับประทานยาต้านเศร้า เมื่อไปพบคุณหมอด้วยปัญหาหลั่งเร็ว คุณหมออาจให้รับประทานยาต้านเศร้าอย่าง ดาพ็อกซิทีน (Dapoxetine) พาร็อกซีทีน (Paroxetine) เอสซิตาโลแพรม (Escitalopram) หรือฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) นอกจากนี้ หากพบว่าปัญหาหลั่งเร็วมาจากการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คุณหมอจะจ่ายยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) หรืออะแวนาฟิล (Avanafil) ให้
  • ยาชา ในรูปแบบครีมหรือสเปรย์ สามารถช่วยชะลอการหลั่งไวได้ โดยควรทาหรือชโลมยาชาก่อนมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 20-30 นาที จากนั้นล้างออกในช่วง 5-10 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันช่องคลอดของคู่นอนสัมผัสกับยาชา (หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย) และมีอาการชาตามไปด้วย
  • เข้ารับการบำบัดกับนักบำบัดหรือจิตแพทย์ หากทราบว่าปัญหาหลั่งไวมาจากสาเหตุทางจิตวิทยา เช่น ความไม่มั่นใจในตัวเอง การรู้สึกผิดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ความเครียด โรคซึมเศร้า
  • หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงอรกนิษฐา อรุณาทิตย์

    สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


    เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 28/02/2024

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา