อวัยวะเพศชายมีกลิ่นเหม็น อาจเป็นอาการปกติเนื่องจากในการทำกิจกรรมต่างๆจะทำให้มีเหงื่อบวกกับแบคทีเรียซึ่งอาจให้เกิดกลิ่นได้ซึ่งเมื่อทำความสะอาดก็มักจะหายไป แต่ถ้าทำความสะอาดแล้วก็ยังมีกลิ่นอยู่ตลอดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การอักเสบที่ปลายอวัยวะเพศชาย ขี้เปียก ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศ ดังนั้น การทำความสะอาดอวัยวะเพศ จึงอาจทำให้อวัยวะเพศชายสะอาด และไม่มีกลิ่นเหม็น
[embed-health-tool-bmi]
อวัยวะเพศชายมีกลิ่นเหม็น เกิดจากอะไร
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น มีสาเหตุมาจากสาเหตุอะไร แต่อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
ขี้เปียก (Smegma)
หากอวัยวะเพศชายไม่มีการทำความสะอาดที่มากพอ ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดขี้เปียกได้ โดยขี้เปียก คือ สารหล่อลื่นธรรมชาติ ที่ช่วยให้อวัยวะเพศมีความชุ่มชื้น มักพบได้ที่ปลายอวัยวะเพศ หรือบริเวณใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย หากหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายมีขี้เปียกมากขึ้น ก็อาจทำให้อวัยวะเพศเพศชายมีกลิ่นเหม็น และเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย
การอักเสบที่ปลายอวัยวะเพศชาย (Balanitis)
การอักเสบที่ปลายอวัยวะเพศชาย อาจเกิดจากการทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่เพียงพอจนเกิดเป็นความสกปรก หมักหมม ทำให้มีขี้เปียก จนกระทั่งเป็นแหล่งของเชื้อแบคทีเรีย และทำให้อวัยวะเพศมีการติดเชื้อ นอกจากการอักเสบจากการติดเชื้อแล้ว การอักเสบที่ปลายอวัยวะเพศชายยังอาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน การระคายเคืองต่อผิวหนังที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย การใช้ถุงยาง ซึ่งอวัยวะเพศที่มีการอักเสบ จะมีลักษณะบวมและแดง
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอาจทำให้อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น ซึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจมีดังนี้
- หนองใน อาจทำให้ปลายอวัยวะเพศชายมีสีเหลือง สีขาว หรือสีเขียว รู้สึกเจ็บปวด และแสบร้อนเมื่อปัสสาวะ รวมถึงยังทำให้เกิดการอักเสบที่บริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
- หนองในเทียม จะทำให้มีคราบหรือน้ำสีขาวขุ่นไหลออกมาเมื่อมีการปัสสาวะ มีอาการเจ็บหรือปวดขณะปัสสาวะ รวมถึงอาจส่งผลให้มีอาการเจ็บปวดที่อัณฑะ
การติดเชื้อรา
กลิ่นเหม็นที่อวัยวะเพศชาย อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อราที่บริเวณปลายอวัยวะเพศ เพราะทำความสะอาดไม่เพียงพอ หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีการติดเชื้อราอยู่แล้ว เมื่อมีเชื้อราสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ก็อาจส่งผลให้อวัยวะเพศมีกลิ่น รวมถึงมีอาการต่าง ๆ ดังนี้
- คัน และระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ
- ปวดแสบปวดร้อน
- มีคราบเมือกสีขาวเป็นก้อน
- ผิวที่อวัยวะเพศชายมีความผิดปกติ หรือมันวาวผิดปกติ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ หรือไต เมื่อมีการติดเชื้อในบริเวณนี้อาจทำให้เวลาที่ปัสสาวะมีอาการปวด และแสบร้อน
อวัยวะเพศชายมีกลิ่นเหม็น ควรดูแลอย่างไร
การรักษาความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะจุดซ่อนเร้นอย่างอวัยวะเพศ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะความสกปรกที่อวัยวะเพศ อาจส่งผลให้มีอาการทางสุขภาพที่ร้ายแรงได้ นอกจากนี้ การทำความสะอาดอวัยวะเพศยังอาจช่วยลดกลิ่นเหม็นที่อาจทำให้เสียความมั่นใจได้ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสำหรับผิวและจุดซ่อนเร้น เช็ดตัวและเช็ดอวัยวะเพศให้แห้งก่อนสวมใส่เสื้อผ้าเสมอ และสำหรับผู้ชายอาจดูแลอวัยวะเพศได้ ดังนี้
- ล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งหลังการมีเพศสัมพันธ์
- เลือกสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และไม่ระคายเคืองผิว
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หรือหากมีการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศ หากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือควรสวมถุงยางอนามัย
- ทุกครั้งที่ทำความสะอาดอวัยวะเพศ ต้องไม่ลืมที่จะทำความสะอาดในส่วนของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศด้วย
เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ
การรักษาสุขอนามัยและความสะอาดของอวัยวะเพศ อาจช่วยลดโอกาสในการมีกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณอวัยวะเพศได้ แต่เมื่อใดที่สังเกตได้ว่า อวัยวะเพศมีความผิดปกติเหล่านี้ ควรไปพบคุณหมอ
- มีการสะสมของก้อน หรือคราบสีขาวอยู่รอบอวัยวะเพศซึ่งเมื่อทำความสะอาดแล้วไม่หายไป
- มีผื่นขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือที่ก้น
- รู้สึกปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ
- มีอาการคัน
- ระคายเคือง
- อวัยวะเพศมีสีแดง และบวม