ทุกปัญหาเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมแลดูแห้งกร้าน ขาดชีวิตชีวา ไม่เงางาม มีรังแคทำให้คันหนังศีรษะ สามารถดูแลให้อาการต่าง ๆ เบาบางลงได้ การบำรุงผมด้วยสูตรสเปรย์เลมอน สามารถทำใช้ได้เองง่าย ๆ เป็นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ จึงอาจมีส่วนช่วยบำรุงเส้นผมในแบบง่าย ๆ นำไปใช้ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยอีกด้วย
[embed-health-tool-bmi]
ประโยชน์ของการใช้ สเปรย์เลมอน บำรุงเส้นผม
นอกเหนือจากการนำเลมอนมาเพิ่มรสชาติของอาหาร หรือเครื่องดื่มแล้ว เลมอนยังมีคุณสมบัติในการบำรุงเส้นผม เพิ่มความเงางาม ลดความมัน และกำจัดรังแคบนหนังศีรษะได้อีกด้วย เนื่องจากในเลมอน มีกรดบางชนิด และวิตามินซีสูงโดยเฉพาะกรดซิตริก (Citric acid) ที่มีบทบาทหน้าที่ในการช่วยดูดซึมน้ำมันส่วนเกินบนหนังศีรษะขที่มากเกินไปได้ พร้อมทั้งยังอาจสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของรังแค และบรรเทาอาการหนังศีรษะอักเสบ เพื่อให้เส้นผมดูแข็งแรงเงางามและสุขภาพดีขึ้นที่สำคัญยังอาจทำให้เส้นผมไม่แห้งเสีย ปลายผมแตกปลายน้อยลง และช่วยปกป้องสภาพเส้นผมจากแสงแดดได้ด้วย
สูตรสเปรย์เลมอน
น้ำเลมอนธรรมดาสามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นสเปรย์เลมอนบำรุงผมได้ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
ส่วนผสมในการทำ สเปรย์เลมอน
- เลมอน 1 ลูก
- น้ำมันหอมระเหย (กลิ่นตามความชอบ)
- น้ำเปล่าสะอาด 2 ถ้วย
- แอลกอฮอล์ที่ทำมาจากเมล็ดพันธุ์พืช เช่น เมล็ดข้าว 2-3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำสเปรย์เลมอน
1. คั้นน้ำเลมอนผสมกับน้ำสะอาด 2 ถ้วย แล้วนำไปอุ่นด้วยไฟปานกลาง จนปริมาณน้ำระเหยออก หรือลดลงครึ่งหนึ่งจากปริมาณเดิม
2. ปิดไฟ และปล่อยให้น้ำเลมอนที่ต้มไว้เย็นลง
3. นำน้ำมันหอมระเหย และแอลกอฮอล์ที่ทำจากพืช ลงไปผสมกัน 6-8 หยด
4. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้ว ให้นำใส่ภาชนะที่มีหัวสเปรย์ เพื่อทำการเก็บไว้ฉีดลงบนเส้นผมบริเวณที่ประสบกับปัญหาตามต้องการ
วิธีใช้สเปรย์เลมอน
- หลังจากที่ฉีดสเปรย์ลงบนเส้นผมแล้ว ให้ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น หรือสระผมได้ตามปกติ
- อย่าใช้สเปรย์เลมอนนานติดกันทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ควรใช้เพียงแค่หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ สเปรย์เลมอน
ถึงการใช้เลมอนมาบำรุงเส้นผมอาจมีข้อดีอยู่ไม่ใช้น้อย แต่ขณะเดียวกันก็อาจสร้างความระคายเคืองให้แก่ผิวหนังของหนังศีรษะได้ เนื่องจากผู้ใช้บางรายอาจมีอาการแพ้กรดซิตริกในเลมอนร่วมด้วย
ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงดังกล่าว โปรดตรวจสอบด้วยการนำสเปรย์เลมอนไปทดสอบค่าความเป็นกรดด้วยชุดทดสอบที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือฉีดลงบนผิวที่บอบบางอย่างด้านในข้อศอกของเราเสียก่อนก็ย่อมได้
หากมีข้อกังวลเพิ่มเติมใด ๆ โปรดเข้าขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงการแก้ไขปัญหาหนังศีรษะโดยตรง เพื่อเป็นการรับการรักษา หรือรับคำแนะนำในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่เหมาะสมเพิ่มเติม