สครับมะขาม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย เนื่องจากมะขามมีกรดผลไม้ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อาจช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสและดูสุขภาพดีได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรขัดผิวด้วยสครับมะขามหรือสครับอื่น ๆ บ่อยเกินไป เนื่องจากการผลัดเซลล์ผิวบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวบอบบาง ระคายเคือง และอาจเกิดการอักเสบได้ และหลังสครับผิวควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อไม่ให้ผิวขาดความชุ่มชื้น และควรทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันผิวเสียหายจากรังสียูวี
[embed-health-tool-ovulation]
สครับมะขาม มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไร
เนื้อมะขามอุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซี และกรดอัลฟาไฮดรอกซีหรือเอเอชเอ (Alpha Hydroxy Acids หรือ AHA) ซึ่งเป็นกรดผลไม้ที่มีส่วนช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวและการผลัดเซลล์ผิวใหม่ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจอุดตันรูขุมขนและสะสมอยู่ที่ผิวหนัง การสครับผิวด้วยมะขามอย่างถูกวิธีและไม่บ่อยจนเกินไปจึงอาจช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำดูกระจ่างและดูสุขภาพดีขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังสามารถผสมมะขามกับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น น้ำผึ้ง โยเกิร์ต เพื่อเพิ่มส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อการบำรุงผิวหน้าและผิวกาย
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Naresuan University Journal เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2546 ศึกษาเกี่ยวกับอิมัลชันชนิดน้ำมันในน้ำ (Oil-in-water emulsion) ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากเนื้อมะขาม พบว่า ในเนื้อมะขามมีกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHAs) ซึ่งเป็นกรดผลไม้จากธรรมชาติที่นิยมนำมาใช้บำรุงผิวตั้งแต่อดีต กรดชนิดนี้มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วยการทำให้พันธะที่ยึดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอ่อนแอลง ส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
ทั้งนี้ การสครับผิวอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ จึงควรสครับผิวอย่างเบามือร่วมกับการบำรุงผิวด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทาโลชั่นหรือน้ำมันบำรุงผิวสูตรอ่อนโยนต่อผิว และไม่ควรขัดผิวทุกวันหรือบ่อยกว่า 2 ครั้ง/สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้ผิวบางหรืออาจอักเสบได้
วิธีทำสครับมะขามด้วยตัวเอง
วิธีทำสครับมะขามเองด้วยวัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป อาจทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
สครับมะขามสูตรที่ 1
ส่วนผสม
- เนื้อมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือทะเลป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- นมเปรี้ยว หรือครีมนม 1 ช้อนโต๊ะ
- ชามแก้ว 1 ใบ
วิธีทำ
- ผสมเนื้อมะขามเปียกและเกลือทะเลป่นละเอียดเข้าด้วยกันในชามแก้ว
- เพิ่มนมเปรี้ยวหรือครีมนม 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน สำหรับผู้ที่มีผิวมันควรเลือกใช้นมเปรี้ยว ส่วนผู้มีผิวแห้งควรเลือกใช้ครีมนม
- นำสครับมะขามที่ได้มาขัดผิวหน้า โดยใช้ปลายนิ้วนวดวนทั่วใบหน้าอย่างเบามือ ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาทีแล้วล้างออก
สครับมะขามสูตรที่ 2
ส่วนผสม
- เนื้อมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ
- ชามแก้ว 1 ใบ
วิธีทำ
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดในชามแก้ว กวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- ใช้สครับขัดผิวหน้า ลำคอ และผิวกายขณะอาบน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาทีสำหรับผิวหน้าและลำคอ และไม่เกิน 10 นาทีสำหรับผิวกาย แล้วล้างออก
สครับมะขามสูตรที่ 3
ส่วนผสม
- เนื้อมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำกุหลาบ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- โจโจ้บาออยล์ 1 ช้อนโต๊ะ
- ชามแก้ว 1 ใบ
วิธีทำ
- ผสมมะขามเปียกและโยเกิร์ตในชามแก้ว
- เติมน้ำกุหลาบและน้ำผึ้งลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
- เติมโจโจ้บาออยล์ แล้วผสมทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- นำสครับขัดผิวมาถูวนเบา ๆ ทั่วใบหน้าและลำคอประมาณ 2 นาที แล้วล้างออก
ข้อควรระวังในการใช้ สครับมะขาม
ข้อควรระวังในการใช้สครับมะขาม อาจมีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้สครับมะขามกับผิวที่เพิ่งแว็กซ์หรือโกนขนมา หรือผิวที่อักเสบหรือระคายเคือง เนื่องจากกรดในมะขามอาจทำให้ผิวยิ่งระคายเคือง
- กรดอัลฟาไฮดรอกซีในมะขามมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจระคายผิวเมื่อใช้เป็นประจำทุกวัน จึงควรขัดผิวด้วยสครับมะขามหรือสครับอื่น ๆ ที่มีกรดอัลฟาไฮดรอกซีไม่เกิน 2 ครั้ง/สัปดาห์
- การสครับผิวอาจทำให้ผิวเป็นผื่น มีรอยแดง ระคายเคือง เกิดรอยช้ำหรือแผลถลอก โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย จึงไม่ควรสครับผิวแรงและนานเกินไป สำหรับผิวหน้า ลำคอ และผิวส่วนอื่น ๆ ที่บอบบาง ไม่ควรสครับและทิ้งไว้เกิน 5 นาที ส่วนผิวกายส่วนอื่น ๆ อาจสครับทิ้งไว้ไม่เกิน 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- สครับมะขามไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง เนื่องจากกรดอัลฟาไฮดรอกซีอาจทำให้ผิวเกิดรอยแดง หรือระคายเคืองได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น