เลเซอร์รอยแตกลาย เป็นวิธีการรักษาปัญหาผิวแตกลายด้วยการฉายลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงเป็นจังหวะไปที่ผิวหนังบริเวณที่ต้องการรักษา เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวที่ถูกสร้างขึ้นใหม่มีสุขภาพดี กระจ่างใส และลดเลือนรอยแตกลายบนผิวหนังได้ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการรักษารอยแตกลายด้วยการทำเลเซอร์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดและความรุนแรงของรอยแตกลายที่เกิดขึ้น
รอยแตกลายเกิดขึ้นได้อย่างไร
รอยแตกลาย เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังยืดและหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้คอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ที่เป็นโครงสร้างของผิวหนังเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันจนทำให้เกิดเป็นรอยแตกลาย เนื่องจากผิวหนังอาจขาดความยืดหยุ่นและผิวไม่สามารถสมานตัวได้ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม รอยแตกลายอาจไม่เกิดขึ้นกับทุกคน ขึ้นอยู่กับสุขภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละคนด้วย
เลเซอร์รอยแตกลาย มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
เลเซอร์รอยแตกลาย อาจเป็นวิธีการรักษาที่มีความปลอดภัยและอาจได้ผลดีกว่าการรักษาแบบอื่น ซึ่งผู้เข้ารับการรักษาอาจต้องทำการเลเซอร์ประมาณ 1-4 เดือน หรือนานกว่านั้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดและความรุนแรงของรอยแตกลาย ดังนี้
- การรักษารอยแตกลายด้วยเลเซอร์และการรักษาด้วยแสงอาจช่วยลบรอยแตกที่ได้ผลดีที่สุด
- หลังเข้ารับการรักษาไม่ต้องพักฟื้น จึงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที และไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด จึงไม่ต้องกินยาแก้ปวดหลังการรักษา
- อาจช่วยเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ส่งผลให้การตอบสนองต่อการรักษาดีขึ้นตามไปด้วย
- ส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนให้ผิวใหม่ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่า จึงช่วยลดรอยแตกลายได้
- ในบริเวณที่รักษามีการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น อาจช่วยให้อาการบวมลดลงและลดการอักเสบ
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเลเซอร์รักษารอยแตกลายอาจมีข้อเสียเล็กน้อย ดังนี้
- ความเจ็บปวด เลือดออกเล็กน้อย
- อาการบวม
- สีผิวบริเวณที่เลเซอร์อาจเปลี่ยนสี
- บางกรณีอาจมีการติดเชื้อ เกิดแผลเป็นหรือเป็นสะเก็ด
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์รอยแตกลาย
ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพผิวและสุขภาพร่างกายอื่น ๆ เพื่อเตรียมความพร้อม ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการอาบแดด การแว็กซ์ขน การลอกผิวด้วยสารเคมีหรือการฉีดคอลลาเจน เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันอาการระคายเคืองและการบาดเจ็บบริเวณผิวที่บอบบางเกินไป
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สารระงับกลิ่นกาย หรือสารที่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความระคายเคืองรุนแรงในบริเวณที่ทำการรักษา
- หลีกเลี่ยงการกินยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ และอาหารเสริมสมุนไพร เนื่องจากยาและอาหารเสริมเหล่านี้อาจขัดขวางการแข็งตัวของเลือด และอาจทำให้เลือดออกมากขึ้น
การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์รอยแตกลาย
หลังการทำเลเซอร์ ผิวอาจบอบบางและอาจระคายเคืองได้ง่าย จึงควรดูแลสุขภาพผิว ดังนี้
- งดการสครับผิวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองบริเวณผิวที่ทำการเลเซอร์
- ให้ความชุ่มชื้นบริเวณผิวที่ทำเลเซอร์ ด้วยการทาครีม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือโลชั่น
- งดใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือกรดเรติโนอิก (Retinoic Acid) ประมาณ 2 สัปดาห์ ทั้งก่อนและหลังเลเซอร์ เพราะกรดทั้ง 2 งชนิดมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจทำให้ผิวบางลงและระคายเคืองได้
- หลีกเลี่ยงการถูกแดดโดยตรงอย่างน้อย 1 เดือนหลังการทำเลเซอร์ แต่หากไม่สามารถเลี่ยงได้ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 60 ก่อนออกไปโดนแดดและควรทาซ้ำทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง นอกจากนี้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าปกปิดร่างกายให้มิดชิดเพื่อป้องกันแสงแดด
[embed-health-tool-heart-rate]