อาการ คันเปลือกตา อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ตาแห้งจนระคายเคือง การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้อย่างขนสัตว์ ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ น้ำหอม ไรฝุ่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคตาแดง หรือแม้กระทั่งการใช้คอนแทคเลนส์หรืออายไลเนอร์ก็อาจทำให้เกิดระคายเคืองและคันเปลือกตาได้เช่นกัน อาการคันเปลือกตาอาจบรรเทาได้ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเย็นบิดหมาดเช็ดบริเวณเปลือกตาและหัวตาเบา ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้ตา งดใช้คอนแทคเลนส์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ แต่หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
[embed-health-tool-bmi]
คันเปลือกตา เกิดจากอะไรได้บ้าง
อาการคันเปลือกตา อาจเกิดจากปัจจัยต่อไปนี้
- การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นควัน ไรฝุ่น เชื้อรา ขนสัตว์ ควันบุหรี่ น้ำหอม สารเคมี ควันจากท่อไอเสีย เครื่องสำอาง ยาหยอดยา เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการดวงตาระคายเคืองและคันเปลือกตา
- โรคตาแดง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อในกลุ่มอะดีโนไวรัส (Adenovirus) ทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการหลั่งฮีสตามีน ส่งผลให้หลอดเลือดบริเวณดวงตาขยายตัวและทำให้เกิดการระคายเคือง จนอาจมีอาการคันเปลือกตาได้
- โรคเปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) หรือโรคหนังตาอักเสบ มักเกิดจากการติดเชื้อเนื่องจากต่อมไขมันขนาดเล็กที่โคนขนตาอุดตัน อาจทำให้ตาแดงและระคายเคือง หากเกิดขึ้นร่วมกับการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือโรคผิวหนังอักเสบ อาจทำให้อาการแย่ลงได้
- ตาแห้ง โดยปกติแล้วน้ำมันจากต่อมไขมัน น้ำตา และโปรตีนในน้ำตาจะทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา แต่หากมีของเหลวเหล่านี้น้อยกว่าปกติ อาจทำให้ตาแห้งจนระคายเคืองและมีอาการคันเปลือกตาได้
- การสัมผัสสิ่งแปลกปลอม หากสิ่งแปลกปลอม เช่น ทราย สิ่งสกปรก ติดอยู่ในดวงตา อาจทำให้ระคายเคืองและคันเปลือกตาได้
- การใช้คอนแทคเลนส์ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง คันเปลือกตา โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ที่ร่างกายยังไม่คุ้นชินกับการใส่คอนแทคเลนส์ อีกทั้งคอนแทคเลนส์ยังอาจดักจับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคจนอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ จึงควรใช้คอนแทคเลนส์แต่ละคู่ตามอายุการใช้งานที่ระบุข้างกล่อง และไม่ใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมง/วัน เพราะอาจทำให้ตาแห้ง ระคายเคือง และติดเชื้อได้ง่าย
- การใช้ยาบางชนิด ที่อาจเกิดอาการแพ้และมีผื่นที่เปลือกตา ทำให้มีอาการคันเปลือกตา น้ำตาไหล มีผื่นที่เปลือกตาได้
อาการคันเปลือกตา
อาการคันเปลือกตา อาจเกิดร่วมกับอาการต่อไปนี้
- อาการแสบร้อนบริเวณเปลือกตาและดวงตา
- มีขี้ตาคล้ายเมือกเหนียวสีเขียวหรือเหลือง
- น้ำตาไหล
- ตาแดง
- น้ำมูกไหล
- จาม
วิธีรักษาเมื่อคันเปลือกตา
วิธีรักษาเมื่อ คันเปลือกตา อาจทำได้ดังนี้
- ล้างมือให้สะอาดแล้วเช็ดมือให้แห้ง จากนั้นล้างตาด้วยน้ำเกลือ อาจช่วยขจัดสิ่งแปลกปลอม และบรรเทาอาการคันเปลือกตาได้
- อาการคันเปลือกตาที่เกิดจากการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้อาจรักษาได้ด้วยการใช้ยาแก้แพ้หรือยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines) เช่น เฟกโซเฟนาดีน (Fexofenadine) ไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine) เดสลอราทาดีน (Desloratadine) ทั้งนี้ ควรปรึกษาคุณหมอและเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา
- อาการคันเปลือกตาเนื่องจากเป็นโรคตาแดงจากเชื้อแบคทีเรียอาจหายได้หลังหยอดยาปฏิชีวนะ ระหว่างที่เป็นตาแดงควรพักผ่อนให้มาก ๆ ใช้สายตาให้น้อยที่สุด หยอดน้ำตาเทียมเมื่อเคืองตาหรือตาแห้ง หลีกเลี่ยงการขยี้ตาเพราะอาจทำให้ระคายเคืองและเชื้อยิ่งลุกลาม และงดใส่คอนแทคเลนส์จนกว่าจะหายดี
- หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สารก่อภูมิแพ้เพราะอาจทำให้อาการคันเปลือกตาหายช้าลงหรือแย่ลงได้ และควรรักษาสภาพแวดล้อมรอบตัวให้ปลอดสารก่อภูมิแพ้เสมอ เช่น ปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อป้องกันเกสรดอกไม้ปลิวเข้าบ้าน ไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าห้องนอน ทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำ สวมแว่นกันแดดหรือแว่นกรองแสงเมื่อออกไปข้างนอกเพื่อลดการสัมผัสกับฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกในอากาศ
- หากเคืองตา ไม่ควรขยี้ตา เนื่องจากอาจทำให้ระคายเคืองมากกว่าเดิม และอาจทำให้สารก่อภูมิแพ้ สิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคที่ติดอยู่บนมือเข้าตาหรือเปลือกตา จนเกิดปัญหาสุขภาพอย่างชั้นกระจกตาโก่ง เป็นโรคตาแดง เป็นโรคเปลือกตาอักเสบ เป็นต้น
- หยอดน้ำตาเทียม บ่อยๆ เมื่อรู้สึกระคายเคือง จะช่วยลดอาการคันตาได้
วิธีป้องกันอาการคันเปลือกตา
วิธีป้องกันอาการ คันเปลือกตา อาจทำได้ดังนี้
- ก่อนสัมผัสใบหน้า และใส่คอนแทคเลนส์ ควรล้างมือด้วยน้ำเปล่าและสบู่ จากนั้นเช็ดมือให้แห้งสะอาด โดยเฉพาะหลังใช้ห้องน้ำ
- หากตาแห้งและระคายเคืองได้ง่าย ควรหมั่นหยอดน้ำตาเทียม เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้นขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตาหรือขยี้ตาเมื่อรู้สึกระคายเคือง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคจากนิ้วมือเข้าสู่ดวงตาหรือสะสมที่เปลือกตา จนทำให้ยิ่งคันเปลือกตาหรือเกิดปัญหาสุขภาพตาอื่น ๆ
- ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์เกินวันละ 8 ชั่วโมง หากเป็นคอนแทคเลนส์รายวัน ควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หากเป็นคอนแทคเลนส์รายสัปดาห์หรือรายเดือน ควรถอดแล้วถูทำความสะอาดในน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ จากนั้นแช่เก็บไว้ในตลับใส่คอนแทคเลนส์สะอาดและที่มีน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ ควรเปลี่ยนน้ำยาคอนแทคเลนส์ภายในตลับทุกวันแม้ว่าจะไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ทุกวัน ล้างตลับให้สะอาดทุกครั้งก่อนใช้เก็บรักษาคอนแทคเลนส์ และควรเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ใหม่ทันทีเมื่อหมดอายุการใช้งาน
- ล้างหน้าและคราบเครื่องสำอางให้สะอาดทุกครั้งก่อนเข้านอน โดยเฉพาะบริเวณดวงตา เพื่อป้องกันรูขุมขนอุดตัน นอกจากนี้ ไม่ควรใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น และควรเปลี่ยนเครื่องสำอางทันทีเมื่อหมดอายุเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย โดยมาสคาร่าและอายไลเนอร์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 3-6 เดือนหลังเปิดใช้แล้ว
เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ
หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุของความผิดปกติและรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
- ดวงตามีเมือกหนาหรือขี้ตาข้น
- ไม่สามารถลืมตาได้ตามปกติ
- ลืมตานาน ๆ ไม่ได้
- สายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน
- รู้สึกเคืองตาเหมือนมีอะไรติดอยู่
- มองเห็นรัศมีรอบวัตถุที่มีแสงสว่าง เช่น ดวงไฟ
- ตาบวม
- ปวดตา