ตาปลา หมายถึงตุ่มนูนเล็ก ๆ ที่เกิดจากแรงเสียดสีหรือแรงกด พบได้มากในบริเวณนิ้วมือและนิ้วเท้า ตาปลาสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือตาปลาแบบแข็งและตาปลาแบบนิ่ม โดยปกติมักไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ แต่หากอาการตาปลาเริ่มมีอาการอักเสบ เป็นหนอง หรือส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด ควรเข้ารับการรักษาจากคุณหมออย่างรวดเร็ว
[embed-health-tool-bmr]
ตาปลา คืออะไร
ตาปลาเป็นอาการที่เกิดจากเนื้อเยื่อชั้นบนของผิวหนังมีการหนาตัวและนูนขึ้นมาเป็นตุ่มเล็ก ๆ ซึ่งเกิดจากแรงกดหรือแรงเสียดสีเป็นเวลานาน ๆ มักเกิดขึ้นตรงบริเวณที่มีปุ่มกระดูกนูน โดยเฉพาะที่บริเวณฝ่าเท้าและนิ้วเท้า ตาปลาพบได้บ่อยในคนทั่วไป โดยพบได้ในคนทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ ทุกวัย แต่จะพบได้ในผู้สูงอายุมากกว่าวัยอื่น ส่วนใหญ่ ไม่พบภาวะแทรกซ้อนจากอาการนี้แต่อย่างใด ยกเว้นในกรณีของผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าเกิดอาการตาปลาแล้วไม่รักษาให้ดี อาจเกิดการอักเสบรุนแรงได้
สัญญาณของอาการตาปลา
สัญญาณของตาปลา สามารถสังเกตได้จากอาการ ดังต่อไปนี้
- ผิวเป็นปื้นหนาและสากด้าน
- ผิวแห้งบริเวณที่เริ่มมีอาการ
- ตุ่มนูนตรงกลางของบริเวณที่มีอาการ
- อาการเจ็บและรู้สึกระคายเคืองตรงบริเวณที่มีอาการตาปลา
ประเภทของตาปลา
ตาปลาสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้
ตาปลา (Corns)
ลักษณะของตาปลานั้นคล้ายกับ อาการหนังหนา (Calluses) พบได้บ่อยบริเวณส่วนบนและด้านข้างของเท้า ซึ่งอาจไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากนัก อย่างไรก็ตาม ตาปลาสามารถแบ่งออกได้อีก 2 ชนิดย่อย ๆ คือ
- ตาปลาแบบแข็ง (Hard corns) ที่เกิดจะแข็งและหนาเป็นรูปวงกลมคล้ายโดนัท วงด้านนอกมีสีเหลืองและมีจุดแข็งตรงกึ่งกลางเป็นสีเทา มักเกิดบริเวณที่เท้ารับน้ำหนัก และจะเกิดอาการเจ็บหากสัมผัสโดนบริเวณที่เป็นตาปลา
- ตาปลาแบบนิ่ม (Soft corns) จะมีพื้นผิวที่บางกว่าและนุ่มบริเวณส่วนกลาง ส่วนใหญ่พบตาปลาแบบนิ่มตามบริเวณซอกนิ้วเท้ามากกว่าบริเวณอื่น
หนังหนา
หนังหนา มีขนาดใหญ่และไม่มีขอบเขตชัดเจน มักเกิดขึ้นบริเวณมือและฝ่าเท้า ที่มีการเสียดสีอยู่บ่อยครั้ง การเดินด้วยเท้าเปล่าก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการหนังหนา โดยทั่วไป หนังหนาจะมีลักษณะแห้งสาก และมีสีเหลืองหรือเทา ไม่มีอาการเจ็บปวด แต่ผิวในบริเวณนั้นจะมีความรู้สึกน้อยกว่าผิวหนังธรรมดา
เมื่อใดควรพบคุณหมอ
แม้ว่าอาการตาปลาและหนังหนานั้นจะไม่รุนแรงและไม่จำเป็นต้องทำการรักษาใด ๆ แต่ในกรณีที่เริ่มมีอาการดังต่อไปนี้ควรพบคุณหมอเพื่อขอตรวจรับการวินิจฉัยทันที
- อาการไม่ดีขึ้นแม้ว่าจะดูแลด้วยตนเองแล้วในเบื้องต้น เช่น การกำจัดผิวหนังส่วนที่หนาออกด้วยหินขัด
- เริ่มมีอาการ ปวด บวม แดง อักเสบ และเป็นหนอง บริเวณที่มีอาการ
- มีอาการของระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ผู้ป่วยเบาหวาน ปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงบริเวณเท้าของผู้ป่วย
หนังหนาและตาปลาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะทำให้ผิวหนังหนาและสากบริเวณผิวหนัง อาการของตาปลาและหนังหนาส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและมักไม่ต้องการการรักษาใด ๆ อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาในส่วนของระบบไหลเวียนเลือดและอาการแย่ลง ควรสังเกตอาการ หรือขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังทันที