โรค ขี้เต็มท้อง หรือภาวะอุจจาระอุดตัน เป็นโรคที่เกิดจากการอุดตันของอุจจาระในลำไส้ใหญ่ จนทำให้ไม่สามารถถ่ายอุจจารได้ตามปกติ อาจทำให้ถ่ายอุจจาระได้น้อยลง ขับถ่ายไม่ปกติ อ่อนเพลีย แน่นท้อง วิงเวียนศีรษะ เบื่ออาหาร เป็นต้น โรคนี้อาจป้องกันได้ด้วยการขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่อั้นอุจจาระเมื่อจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ โรคนี้ไม่สามารถหายได้เอง จึงควรไปพบคุณหมอหากสังเกตว่ามีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาการอาจรุนแรงและเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้
[embed-health-tool-bmi]
โรค ขี้เต็มท้อง คืออะไร
โรคขี้เต็มท้อง (Fecal impaction) เป็นโรคที่มีอุจจาระในลำไส้ใหญ่มากเกินไป ซึ่งเกิดจากลำไส้ใหญ่ทำงานผิดปกติ แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ กลุ่มที่ลำไส้ใหญ่อุดตันและ กลุ่มที่มีอาการท้องผูก โดยอุจจาระมักมีลักษณะแข็งและแห้งจนไม่สามารถเคลื่อนตัวและขับถ่ายได้ตามปกติ ส่งผลให้อุจจาระสะสมภายในลำไส้ และอาจเกาะอยู่ภายในผนังลำไส้ และกดทับเส้นเลือดในกระเพาะ หรือลามไปถึงกระดูกสันหลัง
ส่วนใหญ่มักพบในผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ลำไส้ทำงานช้าลง นอกจากนี้ ยังอาจพบได้ในเด็กเล็กที่กินนมแล้วนอนเลย ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายและอยู่เฉย ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง ผู้ที่ผ่าตัดบ่อยครั้ง ผู้ที่มีลำไส้ยาว ผู้ที่เป็นโรคทางจิตเวชอย่างโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน และภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น
ขี้เต็มท้อง เกิดจากอะไร
โดยทั่วไป โรคนี้มีสาเหตุหลัก ๆ ต่อไปนี้
- อาการท้องผูก โรคขี้เต็มท้องอาจเกิดจากอาการท้องผูกและไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
- ยาระบาย การใช้ยาระบายบ่อยเกินไปอาจทำให้ระบบขับถ่ายไม่ตอบสนองต่อสัญญาณที่ร่างกายส่งให้เมื่อถึงเวลาต้องขับถ่าย ส่งผลให้อุจจาระสะสมในลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก
- ยารักษาโรคอื่น ๆ เช่น ยาระงับปวดกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid drugs) ที่ใช้บรรเทาอาการปวด หากรับประทานบ่อยอาจส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงให้อุจจาระสะสมในลำไส้
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ที่อยู่เฉย ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ พนักงานออฟฟิศ อาจเสี่ยงเกิดอาการท้องผูกและเป็นโรคขี้เต็มท้องได้มากกว่าคนที่ขยับร่างกายบ่อย ๆ ในเวลากลางวัน
- พฤติกรรมการขับถ่าย ผู้ที่อั้นอุจจาระเป็นประจำ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคขี้เต็มท้องได้มากกว่าผู้ที่ขับถ่ายเป็นเวลาและไม่อั้นอุจจาระเมื่อปวด
อาการ ขี้เต็มท้อง
อาการขี้เต็มท้อง ที่พบได้บ่อย มักมีดังนี้
- ปวดท้องเหมือนอิ่ม แน่นท้อง
- ท้องอืด ท้องบวม
- มีเลือดปนในอุจจาระ
- ถ่ายอุจจาระเป็นก้อนขนาดเล็ก
- จำเป็นต้องเบ่งหรือเกร็งเมื่อถ่ายอุจจาระ
- ปวดอุจจาระแต่ไม่สามารถถ่ายออกมาได้
- ในผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังเป็นเวลานาน อาจมีอาการท้องร่วงเป็นน้ำหรือมีของเหลวอื่นรั่วไหลเมื่อขับถ่าย
- ปวดกล้ามเนื้อไหล่ ปวดหลัง ปวดขา
- ไม่อยากอาหาร
- วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้
- อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
การรักษาโรคขี้เต็มท้อง
วิธีรักษาโรคขี้เต็มท้อง มีดังนี้
- การสวนล้างอุจจาระ เป็นวิธีรักษานิยมใช้มากที่สุด คุณหมอจะปล่อยของเหลวเข้าไปทางทวารหนักเพื่อทำให้อุจจาระนิ่มลงและช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ส่วนใหญ่แล้วเมื่อสวนล้างมักถ่ายอุจจาระที่อัดแน่นอยู่ออกมาได้เอง แต่หากการสวนล้างอุจจาระไม่ได้ผล คุณหมออาจต้องสอดมือเข้าไปเพื่อช่วยแบ่งอุจจาระที่อุดกั้นอยู่ภายในออกมาเป็นส่วน ๆ
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้การชีวิตประจำวัน คุณหมออาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันให้ดีต่อสุขภาพลำไส้มากขึ้น เช่น ออกกำลังกาย ขยับร่างกายมากขึ้น รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง รับประทานอาหารเสริมไฟเบอร์ ซึ่งจะช่วยให้ขับถ่ายได้ตามปกติ
- การผ่าตัด หากมีอาการรุนแรง คุณหมอจะรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการเลือดออกจากการฉีกขาดของลำไส้
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคขี้เต็มท้อง
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคขี้เต็มท้อง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารสูงเป็นประจำ เช่น ผักและพืชตระกูลถั่วอย่างปวยเล้ง ใบเหลียง กระเฉด ขนุนอ่อน โหระพา อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง ผลไม้อย่างแอปเปิล ส้ม เสาวรส อะโวคาโด ฝรั่ง ทับทิม ธัญพืชอย่างซีเรียลโฮลเกรน ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง
- คุณหมออาจแนะนำให้ผู้ที่มีอาการท้องผูก รับประทานอาหารเสริมหรือยาระบายอ่อน ๆ เพื่อช่วยให้อุจจาระนิ่มลงและขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคขี้เต็มท้อง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เล่นแบดมินตัน เล่นเทนนิส เดินเร็ว ปั่นจักรยาน วิ่งจ๊อกกิ้ง เล่นโยคะ เล่นเวท เพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อลำไส้ อาจช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังป้องกันอาการท้องผูก