กระดูกเชิงกรานหัก ปัญหากระดูกที่เราจำเป้นต้องระมัดระวัง เพราะไม่งั้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดินอาจจะไม่สะดวกเหมือนปกติ ซึ่งกระดูกเชิงกรานหักนั้น มีสาเหตุมาจากอะไรบ้างนะ เพื่อเพิ่มการระมัดระวังในตนเองให้มากขึ้น
[embed-health-tool-ovulation]
กระดูกเชิงกราน ประกอบด้วยกระดูกกี่ชิ้น
กระดูกเชิงกราน เป็นส่วนหนึ่งของโครงกระดูกรยางค์อยู่ล่างหน้าท้อง ตำแหน่งระบบสืบพันธุ์ โดยประกอบด้วยกระดูก 3 ชิ้น
- กระดูกหัวหน่าว (Pubis) เป็นกระดูกที่อยู่บริเวณด้านหน้า
- กระดูกก้น (Ischium) เป็นกระดูกที่อยู่ด้านหลังสุด
- กระดูกปีกสะโพก (Ilium) เป็นกระดูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในบรรดากระดูกเชิงกราน แบ่งออกเป็นฝั่งซ้าย และขวา
กระดูกทั้ง 3 ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกันทั้งหมด ซึ่งกระดูกเชิงกรานในเพศหญิง และเพศชายนั้นไม่เหมือนกันในลักษณะของรูปร่าง
สาเหตุของกระดูกเชิงกรานหักคืออะไร
ส่วนใหญ่สาเหตุของกระดูกเชิงกรานหัก มักเกิดจากอุบัติเหตุที่รุนแรง เช่น อุบัติเหตุทางรถ ไม่ว่าจะรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ การบาดเจ็บจากการถูกทับ หรือการตกจากที่สูง สาเหตุอื่น ๆ คือกระดูกเชิงกรานหักเนื่องจากเส้นเอ็นของกล้ามเนื้อหลุดออกจากกระดูก มาจากการเล่นกีฬา ที่เกี่ยวข้องกับความเร็ว และหยุดกะทันหัน ได้แก่ การวิ่งข้ามรั้ว การวิ่งระยะสั้น รวมไปถึง ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน
อาการ กระดูกเชิงกรานหัก
- การเดิน หรือยืนลำบาก รวมไปถึงการเคลื่อนไหว
- ปวด และเจ็บบริเวณขาหนีบ สะโพก หลังส่วนล่าง ก้น หรือเชิงกรา
- ไม่สามารถขยับพลิกตัวหรือขยับสะโพกได้
- มีการปวดกระดูกเชิงกราน เวลานั่งบางท่า
- บริเวณกระดูกเชิงกราน หรือสะโพกผิดรูป
- มีเลือดออกทางช่องคลอด หรือท่อปัสสาวะ
- มีรอยฟกช้ำชัดเจนบริเวณสะโพก และเชิงกราน
การวินิจฉัย กระดูกเชิงกรานหัก ทำได้อย่างไรบ้าง
- เอ็กซเรย์ (X-ray) กระดูกเชิงกรานจะถูกถ่ายจากมุมต่าง ๆ เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจสอบ และวินิจฉัย
- การสแกนด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ในกรณีที่มีความซับซ้อน เพื่อให้ได้ภาพที่ดีขึ้นของกระดูกที่หัก และค้นหาอาการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้อง
- สแกนภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) เป็นทางเลือกแทน CT อาจเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- อัลตราซาวด์ ใช้คลื่นเสียงเพื่อสร้างภาพอวัยวะ และโครงสร้างภายในร่างกาย เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัย และรักษา
การตรวจสอบอื่น ๆ รวมถึงการตรวจเลือดเพื่อประเมินระดับของเลือด การทำงานของตับ และไต รวมไปถึงการตรวจปัสสาวะ เพื่อดูความเสียหายของกระเพาะปัสสาวะว่าได้รับผลกระทบ หรือไม่
วิธีรักษากระดูกเชิงกรานหัก
- การผ่าตัดเพื่อใส่โลหะยึดกระดูก กรณีกระดูกเชิงกรานหักไม่มีความมั่นคงพอที่จะรับน้ำหนัก หรือรับการขยับเคลื่อนไหวได้ รวมไปถึงมีการผิดรูปมาก การรักษาอาจใช้เวลา 8-12 สัปดาห์
- แบบไม่ผ่าตัด ในกรณีกระดูกเชิงกรานหักแต่ไม่ได้มีความรุนแรงมาก ไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัด แต่ผู้ป่วยจะต้องปฎิบัติตนเองอย่างเคร่งครัดเพื่อการรักษา คือ
- การกายภาพบำบัด กระดูกเชิงกรานที่ได้รับบาดเจ็บเริ่มหายดี การออกกำลังกายเพื่อช่วยรักษาด้านการเคลื่อนไหว และความแข็งแรงของข้อต่อ กล้ามเนื้อรอบ ๆ เช่น การยกขา
- การใช้ยาแก้ปวด สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้มากพอที่จะเดินได้ แต่หลีกเลี่ยงยาต้านการอักเสบจำพวกสเตียรอยด์
- การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า และอัลตราโซนิก กระตุ้นกระดูกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง คลื่นเสียงกระตุ้นให้ร่างกายรวมแคลเซียมไว้ในกระดูก ช่วยสร้างมวลกระดูกขึ้นใหม่ รวมทั้งกระตุ้นการผลิตสารเคมีบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการบำบัด
กระดูกเชิงกรานหัก ผู้ป่วยจำเป็นที่จะต้องพยายามไม่เคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ควรลงน้ำหนักที่สะโพกข้างที่ได้รับผลกระทบเป็นเวลา 6 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพ