ข้อมูลพื้นฐาน
การผ่าตัดเล็บขบคืออะไร
การผ่าตัดเล็บขบ (Ingrown Toenail Surgery) ใช้สำหรับการรักษาอาการเล็บขบ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อเล็บงอกยาวเข้าไปในผิวหนังรอบๆ ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นถูกทำลาย จนเกิดการอักเสบและปวด ปัญหานี้มักเกิดขึ้นที่นิ้วโป้งเท้า
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเล็บขบทั่วไปคือ การไม่ตัดเล็บให้เรียบร้อย หรือตัดเล็บไม่ผิดทรง ปัญหานี้ส่วนใหญ่จะส่งต่อกันทางพันธุกรรม จากการมีลักษณะเล็บที่มักจะโค้งงอเวลางอกยาวออกมา ทำให้เกิดเล็บขบได้ง่าย นอกจากนี้ การสวมรองเท้าหัวแคบเกินไป ทำให้นิ้วเท้าไม่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็สามารถทำให้เกิดอาการเล็บขบได้เช่นกัน
ความจำเป็นในการ ผ่าตัดเล็บขบ
เล็บขบเป็นอาการที่พบได้บ่อย คุณสามารถป้องกันหรือรักษาอาการเล็บขบได้ด้วยตนเอง โดยวิธีดังต่อไปนี้
- ตัดเล็บเท้าให้เป็นแนวตรง และไม่ปล่อยให้ขอบเล็บแหลม
- สวมรองเท้าที่เหมาะกับรูปเท้า
- แพทย์สามารถตัดผิวหนังบริเวณที่เกิดเล็บขบออก หรือตัดเล็บที่ยาวยื่นเข้าไปในผิวหนังออกได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเล็บงอกและทิ่มลึกเข้าสู่ผิวหนัง และไม่สามารถรักษาตามวิธีที่กล่าวข้างต้นได้ อาจต้องใช้วิธีการผ่าตัด แต่ก็ยังสามารถกลับมาเป็นเล็บขบซ้ำได้อีก
ความเสี่ยง
ความเสี่ยงของการ ผ่าตัดเล็บขบ
การผ่าตัดเล็บขบก็มีความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนเช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สามารถเกิดกับคุณได้
อาการแทรกซ้อนทั่วไปของการผ่าตัดทุกประเภท มีดังนี้
- อาการแพ้ยาสลบ
- เลือดออกมากเกินไป หรือเกิดลิ่มเลือด (thrombosis)
อาการแทรกซ้อนจำเพาะที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดเล็บขบ ได้แก่
- การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
- การติดเชื้อที่เนื้อเยื่อกระดูกส่วนล่าง
คุณควรทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อนต่างๆ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดดังกล่าว หากมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือศัลยแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอนการผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเล็บขบ
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แพทย์จะซักประวัติทางการแพทย์ เช่น ยาที่ใช้อยู่ อาการแพ้ต่างๆ ภาวะสุขภาพของคุณ จากนั้นคุณจะได้เข้าพบวิสัญญีแพทย์ และวางแผนในการดมยาสลบ สิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการงดอาหารและน้ำก่อนการผ่าตัด
ขั้นตอนการ ผ่าตัดเส้นเล็บขบ
การผ่าตัดจะทำควบคู่ไปกับการใช้ยาชา และใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยมีขั้นตอนดังนี้
- การถอดเล็บ
- การตัดส่วนของเล็บเท้า
- การตัดเนื้อเยื่อรองเล็บ เป็นการตัดบางส่วนหรือทั้งหมด และทาสารเคมีหรือใช้คลื่นไฟฟ้ากับบริเวณของเนื้อเยื่อซึ่งเล็บงอกออกมา
- กระบวนการซาเด็ค (Zadek’s procedure) ซึ่งเป็นการถอดเล็บทั้งหมด และตัดเนื้อเยื่อบริเวณที่เล็บงอกออกไป
รายละเอียดในการผ่าตัดอาจแตกต่างไปในแต่ละกรณี หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์
การพักฟื้น
หลังการผ่าตัดผ่าตัดเล็บขบ
หลังจากผ่าตัดเล็บขบ แพทย์จะให้คุณพักสักครู่ จากนั้นคุณก็สามารถกลับบ้านได้
ในช่วงวันแรกๆ หลังจากการผ่าตัด คุณควรยกขาสูงเพื่อลดอาการบวม หลังจากนั้น คุณสามารถเริ่มทำกิจกรรมต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อย
นอกจากนี้ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้เพื่อฟื้นฟูอาการได้เร็วขึ้น
- ไม่ควรเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายหนักเป็นเวลาสองสัปดาห์
- รักษาเครื่องแต่งกายให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะถุงเท้าละรองเท้า
- ตัดเล็บเป็นแนวตรง และไม่ปล่อยให้มีส่วนแหลมที่ขอบเล็บ
- สวมรองเท้าที่สบายและเหมาะกับรูปเท้า อย่าสวมรองเท้าคับเกินไป
ความเสี่ยงหลังผ่าตัดเส้นเล็บขบ
การผ่าตัดทุกชนิดย่อมมีความเสี่ยง จึงควรศึกษาข้อมูลและขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนการผ่าตัด
สำหรับการผ่าตัดเล็บขบ อาจก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น มีอาการปวด รอยช้ำ
คุณสามารถลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อเตรียมพร้อมในการผ่าตัด เช่น งดอาหาร หยุดยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]