เดี๋ยวนี้คนหันมาใช้น้ำมันจากธรรมชาติในการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะสุขภาพเส้นผมและผิวพรรณ น้ำมันจากธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก็น่าจะเป็นน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน น้ำมันงา แต่ยังมีน้ำมันจากธรรมชาติอีกหนึ่งชนิด ที่มีคุณประโยชน์ไม่แพ้น้ำมันอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม นั่นก็คือ น้ำมันดอกคำฝอย วันนี้ Hello คุณหมอ เลยอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับน้ำมันชนิดนี้ให้มากขึ้น คุณจะได้รู้ว่า น้ำมันดอยคำฝอยมีดีอย่างไร และมีข้อควรระวังในการใช้ยังไงบ้าง
ทำความรู้จัก น้ำมันดอกคำฝอย (Safflower oil)
ดอกคำฝอย เป็นไม้ล้มลุกในวงศ์ทานตะวัน ดอกมีลักษณะกลมคล้ายดอกดาวเรือง นอกจากคนจะนิยมนำส่วนดอกทั้งสดและแห้ง เกสร และเมล็ดมาทำเป็นยาสมุนไพรแล้ว ก็ยังนิยมนำเมล็ดดอกคำฝอยมาสกัดเอาน้ำมัน จนได้เป็นน้ำมันดอกคำฝอยที่อุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นไขมันดี รวมถึงสารประกอบอื่น ๆ เช่น เบต้าแคโรทีน ที่มีประโยชน์มากมาย จะนำมาบำรุงผิว บำรุงผม หรือบำรุงสุขภาพด้านอื่น ๆ ก็ได้
ประโยชน์สุขภาพของ น้ำมันดอกคำฝอย
เป็นแหล่งไขมันดี ที่มีประโยชน์รอบด้าน
น้ำมันดอกคำฝอยเป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) ทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีพันธะคู่ 1 ตำแหน่ง (Monounsaturated fatty acid) เช่น กรดไอลิอิก (Oleic acid) และกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีพันธะคู่ตั้งแต่ 2 ตำแหน่งขึ้นไป (Polyunsaturated fatty acid) เช่น กรดลิโนเลอิก (Linoleic acid)
กรดไขมันไม่อิ่มตัวได้ชื่อว่าเป็น “ไขมันดี” ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ดีต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยพัฒนาความจำ ทั้งยังช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินกลุ่มที่ละลายได้ในไขมัน (Fat-soluble vitamins) เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค และอาจช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น จึงกินได้น้อยลงด้วย
ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ส่งผลดีต่อหัวใจ
งานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 2011 พบว่า การบริโภคน้ำมันดอกคำฝอยติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือน ช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของกลุ่มตัวอย่างดีขึ้นได้ ซึ่งประโยชน์ข้อนี้ส่งผลดีโดยตรงต่อสุขภาพหัวใจของเราด้วย เพราะเมื่อคอเลสเตอรอลหรือไขมันเลวลดลง ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจก็จะน้อยลงตามไปด้วย
นอกจากนี้ กรดไขมันไม่อิ่มตัวในน้ำมันดอกคำฝอยยังช่วยเจือจางเลือดและทำให้เกล็ดเลือดข้นน้อยลง จึงอาจป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมองได้ด้วย และไม่ใช่แค่นั้น เพราะน้ำมันดอกคำฝอยยังอาจให้หลอดเลือดผ่อนคลาย จึงอาจช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย
ดีต่อผิว โดยเฉพาะผิวที่แห้งกร้าน
ในน้ำมันดอกคำฝอยมีวิตามินอี ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ การทาน้ำมันดอกคำฝอยจึงอาจช่วยให้ผิวที่แห้งกร้านนุ่มลื่นขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบของผิวหนังได้ อีกทั้งงานวิจัยหลายชิ้นยังเผยว่า วิตามินอีสามารถช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกแสงแดดและสารต้านอนุมูลอิสระทำลาย ผิวของคุณจึงเสื่อมช้าลงด้วย
เหมาะสำหรับนำไปปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิสูง
น้ำมันบางชนิดอาจไม่เหมาะสำหรับการนำมาทอด เพราะเมื่อได้รับความร้อนมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่สามารถทำร้ายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้เราแก่เร็วและเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรังได้ด้วย คุณจึงควรควรเลือกน้ำมันให้ถูกประเภท ซึ่งน้ำมันดอกคำฝอยถือว่าเหมาะมากสำหรับนำไปประกอบอาหารโดยใช้ไฟแรง ๆ เช่น การทอด เพราะเป็นน้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูง (High Smoke Point) ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับสารก่อมะเร็งจากควันน้ำมัน
ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้น
จากการนำงานศึกษาวิจัยหลายชิ้นในปี 2016 มาทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (Systematic review) พบว่า การกินอาหารที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงสามารถช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้นได้ อีกทั้งงานวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 2011 ยังเผยว่า การให้กลุ่มตัวอย่างที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 กินน้ำมันดอกคำฝอยทุกวัน ๆ ละ 8 กรัม เป็นเวลาติดต่อกัน 4 เดือน อาจช่วยลดการอักเสบได้ อีกทั้งยังอาจช่วยให้กลุ่มตัวอย่างบางรายมีระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้นได้ด้วย
อาจช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมได้
น้ำมันดอกคำฝอยอุดมไปด้วยกรดไอลิอิก (Oleic acid) ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะและสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย หลายคนเชื่อว่า การทาน้ำมันดอกคำฝอยบนหนังศีรษะจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้สารอาหารต่าง ๆ ไปเลี้ยงรูขุมขนและรากผมได้มากขึ้น ผมของคุณจึงแข็งแรง และเจริญเติบโตได้ดีขึ้นด้วย
ผลข้างเคียงที่คุณควรระวัง
หากคุณอยากใช้น้ำมันดอกคำฝอยเพื่อบำรุงผิวพรรณ แนะนำให้ลองทดสอบอาการแพ้ดูก่อน โดยการหยดน้ำมันดอกคำฝอย 1 หยดลงบนท้องแขน แล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากครบ 24 ชั่วโมงแล้วไม่เกิดอาการแพ้ใด ๆ เช่น ผื่นแดง ผื่นคัน แปลว่าคุณสามารถใช้น้ำมันดอกคำฝอยได้อย่างปลอดภัย
หรือหากต้องการนำน้ำมันดอกคำฝอยไปประกอบอาหาร ก็ควรบริเวณในปริมาณที่เหมาะสม และเนื่องจากน้ำมันดอกคำฝอยมีฤทธิ์ในการเจือจางเลือด จึงส่งผลให้เลือดแข็งตัวได้ช้าลง ซึ่งจะไปเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเลือดออกในคนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ (Bleeding Disorders) และคนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดได้ เพื่อความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงใด ๆ หากคุณมีภาวะสุขภาพดังกล่าว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคน้ำมันดอกคำฝอยทุกครั้ง
[embed-health-tool-bmi]