หลายคนมุ่งมั่นและตั้งเป้าที่จะ ลดน้ำหนัก ให้ได้ตามต้องการ แต่ลดยังไงก็ยังไม่เห็นผลจริงๆ จังๆ สักที ลองมาเกือบจะครบทุกวิธีแล้ว อะไรที่เขาว่าดีก็ทำมาหมดแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่ประสบผลสำเร็จล่ะ? เป็นไปได้ว่าคุณอาจลดน้ำหนักผิดวิธี หรือใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองก็ได้นะ แต่อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณผู้อ่าน ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ นั้น Hello คุณหมอ รวบรวมคำตอบมาให้แล้วค่ะ
ทำไมเราถึง ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ สักที
สาเหตุที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จมีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย โดยสาเหตุที่ทำให้ ลดน้ำหนัก ไม่ได้ตามเป้าหมาย อาจมาจากหนึ่งในสาเหตุดังต่อไปนี้
นอนมากไปหรือนอนน้อยเกินไป
การนอนที่มากจนเกินไป (นอนมากเกินกว่า 9 ชั่วโมง) หรือนอนน้อยจนเกินไป (นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมง) จะมีผลทำให้ระดับของฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและระบบเผาผลาญทำงานได้น้อยลง อีกทั้งคนที่นอนน้อยก็จะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง อาจมีผลทำให้ไม่อยากจะออกกำลังกายหรือออกกำลังกายได้น้อยลง
กินหลายมื้อ
หลายคนอาจทำตามวิธีที่ว่าด้วยการแบ่งอาหารไว้กินหลายมื้อหรือการแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ เป็นวิธีที่ช่วยให้อิ่มได้มากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วแทบไม่มีผลการรับรองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับวิธีนี้เท่าไหร่นัก
ถ้าต้องการให้รู้สึกอิ่มจริงๆ อาจมีวิธีที่ดีกว่านั้น นั่นก็คือ การกินให้สมดุลหรือสอดคล้องกับปริมาณแคลอรี่ที่จำกัดไว้ในแต่ละวัน เลือกอาหารที่เน้นไฟเบอร์และโปรตีนที่จะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้ดีกว่าการแบ่งกินเป็นมื้อเล็กๆ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้อิ่มในระยะยาวแล้ว ยังอาจจะกระตุ้นให้หิวบ่อยขึ้นก็ได้
ไม่ค่อยออกกำลังกาย
การ ลดน้ำหนัก สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย แต่หลายคนอาจมุ่งเน้นแต่การจำกัดแคลอรี่และเลือกกินอาหารมากจนเกินไป และมองข้ามการออกกำลังกายซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์และดีต่อระบบเผาผลาญเป็นอย่างยิ่ง จากผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกายจะมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักตัวสูงกว่าคนที่เคลื่อนไหวร่างกายและออกกำลังกายเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถไปฟิตเนส หรือออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ การเคลื่อนไหวร่างกายเช่น การเดิน หรือการเดินขึ้นลงบันได ก็ช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายได้มากขึ้นเหมือนกัน
ดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์นอกจากจะทำให้เสียสุขภาพในระยะยาวแล้ว ยังมีส่วนในการเพิ่มน้ำหนักตัวได้ด้วย เพราะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮฮล์ทั้งเหล้า วอดก้า หรือเบียร์ ล้วนแล้วแต่มีส่วนในการเพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกายทั้งสิ้น ดังนั้นหากตั้งใจที่จะลดน้ำหนักล่ะก็ควรห่างจากปาร์ตี้ดื่มฉลองด้วยนะ
ไม่วางแผนการกิน
หลายคนให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมากกว่าการรับประทานอาหาร ซึ่งสำหรับการลดน้ำหนักที่เห็นผลแล้ว ทั้งสองอย่างนี้ควรจะทำควบคู่กันไป อย่าคิดแค่เพียงว่าออกกำลังกายก็จะเผาผลาญได้หมด เพราะอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป
ถ้าจะให้ดีควรจะต้องวางแผนตั้งแต่ปริมาณแคลอรี่ในแต่ละวัน สารอาหารใดบ้างที่ดีต่อการ ลดน้ำหนัก แต่ละมื้อควรกินอะไร ของว่างต้องกินอะไร เพื่อให้เกิดความสมดุลของร่างกาย และยิ่งทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ก็จะเห็นผลได้ดีขึ้นด้วย
อาหารเพื่อสุขภาพที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
หลายคนชอบการดื่มน้ำผลไม้ สมูทตี้ หรือเมนูเพื่อสุขภาพต่างๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมนูเพื่อสุขภาพเหล่านี้อาจไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักมากขนาดนั้น
- น้ำผลไม้หรือสมูทตี้ ก็อาจจะมีการเติมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม ซึ่งจะไปเพิ่มปริมาณน้ำตาลในร่างกาย หรือต่อให้ไม่เติมน้ำตาลกับน้ำเชื่อม แต่ร่างกายก็จะได้รับน้ำตาลในผลไม้ด้วยอยู่ดี อีกทั้งเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ทำมาจากผักและผลไม้ คุณค่าทางโภชนาการก็ลดลงในระหว่างการคั้นหรือการแปรรูปไปไม่น้อย ทางที่ดีการกินผลไม้แบบสดอาจจะได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่เต็มเปี่ยมมากกว่า
- โปรตีนบาร์ ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มและได้รับโปรตีนที่จำเป็น แต่ต้องไม่ลืมว่าโปรตีนบาร์ที่กินอยู่นั้นอาจมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่ไม่น้อยเลย
- ขนมปังธัญพืชต่างๆ ที่มักจะเคลมถึงข้อดีต่อสุขภาพ ก็จำเป็นที่จะต้องดูฉลากโภชนาการให้แน่ใจว่าให้ไฟเบอร์สูงเพียงพอ และควรจะมาจากธรรมชาติจริงๆ ไม่ผ่านการขัดสีหรือเพิ่มสารใดๆ ซึ่งจะไปลบล้างความตั้งใจในการ ลดน้ำหนัก จากที่หวังว่าจะดีต่อสุขภาพ กลับไม่ดีเท่าที่คิดก็ได้
ไม่กินมื้อเช้า
การงดมื้อเช้า นอกจากจะทำให้ร่างกายขาดพลังงานแล้วก็ยังกระตุ้นให้รู้สึกหิวมากขึ้นไปอีก เมื่อถึงมื้อต่อไปก็จะยิ่งกินมากกว่าเดิมเพราะไม่มีสารอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกายตั้งแต่มื้อเช้า อาจทำให้เผลอกินเกินพิกัดจนแคลอรี่พุ่ง ดังนั้น จึงควรกินมื้อเช้าอย่างสม่ำเสมอ เน้นอาหารประเภทโปรตีนและไฟเบอร์เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานเต็มที่และรู้สึกอิ่มได้นานขึ้นด้วย
กินมื้อเย็นใกล้กับเวลาเข้านอน
หลายคนเลือกเวลาอาหารเย็นใกล้กับเวลาในการนอนมากจนเกินไป ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิในร่างกาย ระดับน้ำตาลในเลือด และอินซูลินพุ่งสูง มีผลทำให้ระบบเผาผลาญสามารถเผาผลาญได้น้อยลง ทางที่ดีควรเว้นระยะห่างระหว่างมื้อเย็นกับเวลาเข้านอนให้ห่างกันสัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายเกิดการย่อยอาหารและระบบเผาผลาญสามารถเผาผลาญไขมันได้อย่างเป็นปกติ
เครียดไปหรือเปล่า
ใครเลยจะหลีกหนีความเครียดได้ แต่ยิ่งเครียดมากเท่าไหร่ก็จะมีผลต่อน้ำหนักตัวมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะยิ่งเครียดก็ยิ่งอยากกิน แถมยังมีแนวโน้มที่จะกินอาหารที่มีแคลอรี่สูงและไขมันสูงด้วย ซึ่งนั่นเสี่ยงที่จะทำให้ร่างกายเพิ่มโอกาสในการกักเก็บไขมันสูงตามไปด้วย
กินโปรตีนน้อย
โปรตีนเป็นอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อการ ลดน้ำหนัก การกินโปรตีน 25-30 เปอร์เซ็นต์ จะช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ได้มากถึง 80-100 แคลอรี่ต่อวัน แถมยังทำให้อิ่มได้นานขึ้น ได้พลังงานเต็มเปี่ยมและดีต่อการสร้างมวลกล้ามเนื้อด้วย
ไม่ออกกำลังกายที่ใช้แรง
การออกกำลังกายที่ดีต่อการลดน้ำหนัก ควรเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เรี่ยวแรงบ้าง อย่างเช่นการยกน้ำหนัก เพราะการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงจะช่วยในการลดไขมัน ป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และยังลดการชะลอตัวของระบบเผาผลาญได้ดีอีกด้วย
ไม่ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะเน้นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะหน้าท้อง ช่วยในการ ลดน้ำหนัก ได้
ไม่ลดคาร์โบไฮเดรต
สำหรับการลดน้ำหนักแล้วการลดคาร์โบไฮเดรตเป็นเรื่องจำเป็น เพราะการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำจะช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญ ทั้งการเผาผลาญไตรกลีเซอไรด์ หรือการเผาผลาญคอเลสเตอรอล
ไม่ค่อยดื่มน้ำ
การไม่ค่อยดื่มน้ำนอกจากจะเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ และไม่ดีต่อระบบทางเดินอาหารแล้ว ก็ยังมีผลต่อน้ำหนักตัวด้วย เนื่องจากจะไปลดประสิทธิภาพในการทำงานของระบบเผาผลาญให้ทำงานได้น้อยลง การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่พอดีไม่มากหรือน้อยจนเกินไป จะมีส่วนช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น
ติดอาหารขยะและน้ำอัดลม
อาหารขยะและน้ำอัดลม ทั้งมันฝรั่งทอดกรอบ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล หรือโซดา มีส่วนที่จะเพิ่มทั้งปริมาณของน้ำตาล โซเดียม คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายต้องสะสมแคลอรี่มากขึ้นด้วย หากต้องการ ลดน้ำหนัก ให้เห็นผลควรงดหรือลดการรับประทานอาหารเหล่านี้
ปัญหาทางสุขภาพ
การลดน้ำหนักไม่สำเร็จอาจไม่ได้เป็นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่อาจมาจากปัญหาสุขภาพบางอย่างที่มีผลต่อระบบเผาผลาญและระบบการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย ได้แก่
- ปัญหาไทรอยด์
- ปัญหาเกี่ยวกับการกินผิดปกติเช่น โรคล้วงคอหรือบูลิเมีย (Bulimia nervosa)
- โรคหัวใจ
- ความผิดปกติของฮอร์โมน
- ความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
หรือยารักษาโรคบางชนิดที่ใช้อยู่อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้น้ำหนักขึ้น ได้แก่
- ยารักษาอาการแพ้
- ยาคุมกำเนิด
- ยารักษาโรคซึมเศร้า
- ยารักษาโรคเบาหวาน
- ยารักษาโรคหัวใจ
- ยารักษาโรคโรคจิตเภท
- ยารักษาโรคลมบ้าหมู
- ยารักษาโรคอารมณ์สองขั้ว
- ยารักษาความดันโลหิตสูง
หากมีอาการหนึ่งอาการใดหรือใช้ยารักษาโรคดังที่กล่าวมาข้างต้นและต้องการ ลดน้ำหนัก สามารถขอคำแนะนำในการดูแลสุขภาพหรือการลดน้ำหนักจากแพทย์ได้
คาดหวังมากเกินไป
การ ลดน้ำหนัก ต้องเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่สามารถจะเห็นผลได้อย่างปุบปับหรือเห็นผลได้ทันที จำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาและความสม่ำเสมอ หลายคนจึงรู้สึกท้อแท้และล้มเลิกไปก่อนเพราะคาดหวังว่าจะเป็นไปตามที่คิดเอาไว้ จะได้ต้องได้หุ่นเหมือนนางแบบในนิตยสาร ทางที่ดีควรทำทุกอย่างให้ค่อยเป็นค่อยไป อย่าเพิ่งท้อถอย ใช้ความสม่ำเสมอและความมีวินัย ในระยะยาวผลลัพธ์ย่อมสามารถจะเป็นได้จริง
การลดน้ำหนักเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยทั้งระยะเวลาและความมีวินัยของตนเอง แม้จะลดน้ำหนักแล้วไม่ค่อยเห็นผลก็อย่าเพิ่งตัดพ้อต่อว่าตนเอง เนื่องจากลักษณะทางกายภาพ สรีระ และอาการทางสุขภาพของแต่ละบุคคลนั้นย่อมแตกต่างกันออกไป เคล็ดลับที่ได้ผลกับอีกคนอาจจะไม่ได้ผลกับเราเสมอไป ให้โอกาสและให้กำลังใจตนเองอยู่เสมอ
คุณอาจขอคำแนะนำและการวินิจฉัยจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อให้ได้รับคำแนะนำในการลดน้ำหนักอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายของตนเองเพื่อให้การ ลดน้ำหนัก มีแนวโน้มเห็นผลจริงมากขึ้น
[embed-health-tool-bmi]