การฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปีมีความสำคัญในการช่วยป้องกันโรคที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่าย และลดความรุนแรงของโรค ซึ่งนอกจากจะช่วยปกป้องตัวเองแล้วยังสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในสังคมได้อีกด้วย บทความนี้จะมาแนะนำ เช็กลิสต์ วัคซีนที่ควรฉีด เป็นประจำในแต่ละปี รวมไปถึงวัคซีนกระตุ้นที่ควรได้รับ
[embed-health-tool-vaccination-tool]
วัคซีนที่ควรฉีด เป็นประจำทุกปี มีอะไรบ้าง
1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไวรัสทุกปี วัคซีนจึงได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสายพันธุ์ที่คาดว่าจะระบาดในปีนั้น ๆ ดังนั้น จึงควรเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ คือช่วงก่อนฤดูฝนและฤดูหนาว
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและลดความรุนแรงของอาการ อีกทั้งยังช่วยลดการแพร่ระบาดในชุมชนได้อีกด้วย
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- ฉีดปีละ 1 ครั้ง เป็นประจำทุกปี
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
- ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป)
- ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือโรคปอด
- หญิงตั้งครรภ์
- บุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่อยู่ในสถานพยาบาล
2. วัคซีนหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR)
วัคซีน MMR เป็นชนิดเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์ ช่วยป้องกันโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันหรือไม่แน่ใจว่าตัวเองได้รับวัคซีนมาก่อน
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- 2 เข็ม สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับ หรือไม่ทราบประวัติการได้รับวัคซีน (ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์)
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน MMR หรือไม่ทราบประวัติ
- ผู้ที่มีอาชีพหรือหน้าที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายหรือรับเชื้อ เช่น บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่ในศูนย์ดูแลเด็ก
- ผู้หญิงที่กำลังวางแผนจะตั้งครรภ์และไม่มีประวัติเคยรับวัคซีนนี้มาก่อน
3. วัคซีนป้องกันโรคไอกรน บาดทะยัก และคอตีบ (Tdap/Td Vaccine)
วัคซีนนี้ช่วยป้องกัน 3 โรคสำคัญ ได้แก่ บาดทะยัก คอตีบ และไอกรน วัคซีนควรฉีดเพื่อกระตุ้นเป็นประจำทุก ๆ 10 ปี แม้เคยได้รับช่วงวัยเด็กแล้ว สำหรับผู้มีบาดแผลปนเปื้อนดินหรือสนิม แพทย์อาจแนะนำฉีดวัคซีนทันที แม้ยังไม่ครบ 10 ปี
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี (Td หรือ Tdap 1 เข็ม) หรือฉีดซ้ำทันทีเมื่อมีบาดแผลเสี่ยงติดเชื้อ
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไป
- ผู้ที่มีบาดแผลเปิดหรือบาดแผลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรน บาดทะยัก และคอตีบ (Tdap) เพื่อป้องกันโรคไอกรนในทารก
4. วัคซีนอีสุกอีใส (Varicella Vaccine)
หากผู้ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสในวัยเด็กได้รับเชื้อนี้ในวัยผู้ใหญ่ อาการจะมีความรุนแรงและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนสูง เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ ควรตรวจภูมิคุ้มกันก่อนรับวัคซีน หากไม่มีภูมิ ควรฉีดให้ครบทั้ง 2 เข็ม
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- 2 เข็ม (ห่างกัน 4-8 สัปดาห์) สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใส และไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยป่วยเป็นอีสุกอีใส
- บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ดูแลเด็ก ผู้หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้ออีสุกอีใส
- ควรตรวจภูมิคุ้มกันก่อนฉีดวัคซีน
5. วัคซีนป้องกันไวรัส HPV
วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV หลายสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก ช่องปาก และหูดหงอนไก่ในเพศชายหญิง
วัคซีนนี้ไม่สามารถป้องกันโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไปแล้วหรือรักษาโรคที่เกิดขึ้นแล้วได้ แต่ช่วยลดความเสี่ยงโรคร้ายแรงในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- หญิงและชาย อายุ 9-25 ปี (ดีที่สุดช่วง 9-15 ปี)
- อายุ 26-45 ปี อาจพิจารณาตามความเสี่ยง
- จำนวนเข็ม 2-3 เข็ม ตามช่วงอายุและชนิดวัคซีน
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- หญิงวัยรุ่นและหญิงสาว (9-25 ปี)
- ชายวัยรุ่น (9-25 ปี)
- ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
6. วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ (HAV)
โรคตับอักเสบเอ ติดต่อผ่านอาหารและน้ำดื่มที่ปนเปื้อนไวรัส ผู้ใหญ่ที่ได้รับเชื้ออาจมีอาการรุนแรงกว่ากลุ่มเด็ก
ควรตรวจภูมิคุ้มกันก่อนในบางราย เพราะหากเคยได้รับเชื้อแล้วจะมีภูมิคุ้มกันถาวร ไม่ต้องฉีดซ้ำ
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- 2 เข็ม (ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน)
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง, ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับอาหาร ผู้ต้องเดินทางไปพื้นที่ที่มีการระบาด
- ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยป่วยเป็นตับอักเสบเอ
- ควรตรวจภูมิคุ้มกันก่อนฉีด
7. วัคซีนป้องกันตับอักเสบบี (HBV)
ไวรัสตับอักเสบบีติดต่อผ่านเลือดและการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน หากติดเชื้ออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับเรื้อรัง ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ
เด็กที่เกิดหลังปี พ.ศ. 2535 จะได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด แต่สำหรับผู้ที่มีอายุ 27 ปีขึ้นไป ควรตรวจภูมิ หากไม่มีภูมิ ควรฉีดให้ครบ 3 เข็ม หากมีภูมิแล้วไม่จำเป็นต้องฉีดอีก
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- อายุ 18-26 ปี: 3 เข็ม (0, 1, 6 เดือน)
- อายุ 27 ปีขึ้นไป: 3 เข็ม และควรตรวจภูมิก่อนฉีด
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยตรวจภูมิ
- บุคลากรทางการแพทย์
- ผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้ป่วยตับอักเสบบีหรือมีความเสี่ยงสูง
- ผู้ที่วางแผนมีบุตร
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือผู้ที่ต้องฟอกไต
8. วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส (PCV และ PPSV23)
นิวโมคอคคัสเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อรุนแรงอื่น ๆ วัคซีน PCV จะช่วยป้องกันการติดเชื้อในวงกว้างและลดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- อายุ 18-64 ปี (กลุ่มเสี่ยง): PCV13 หรือ PCV15 1 เข็ม ตามด้วย PPSV23 1 เข็ม (ห่างกันอย่างน้อย 1 ปี) หรือ PCV20 1 เข็ม
- อายุ 65 ปีขึ้นไป: รับเช่นเดียวกับข้างต้น หากยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ปอดเรื้อรัง เบาหวาน โรคตับเรื้อรัง
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่ได้รับการฝังประสาทหูเทียม
- ผู้ที่สูบบุหรี่จัด
9. วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก (Dengue Vaccine)
วัคซีนไข้เลือดออกช่วยลดความรุนแรงของโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะในกลุ่มที่เคยเป็นโรคมาแล้ว
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- เคยเป็นไข้เลือดออก อายุ 6-45 ปี: 3 เข็ม
- ไม่เคยเป็นไข้เลือดออก อายุ 4-60 ปี: 2 เข็ม
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ผู้ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อไข้เลือดออก
- ผู้ที่มีประวัติเป็นไข้เลือดออกมาก่อน (แนะนำตรวจ serostatus ก่อนฉีด)
10. วัคซีนป้องกันงูสวัด (Zoster vaccine)
โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสอีสุกอีใสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายและกลับมาแสดงอาการอีกครั้งเมื่อภูมิคุ้มกันต่ำ อาการสำคัญคือปวดแสบปวดร้อนตามเส้นประสาทและเกิดตุ่มน้ำใส การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดงูสวัดและภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคเรื้อรัง
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- ชนิดเชื้อเป็น (ZVL): อายุ 60 ปีขึ้นไป 1 เข็ม
- ชนิดไม่ใช่เชื้อเป็น (RZV): อายุ 50 ปีขึ้นไป 2 เข็ม หรือผู้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อายุ 18-64 ปี
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ผู้สูงอายุ (50 ปีขึ้นไป)
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ (เช่น ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง, รับยากดภูมิ)
- ผู้ที่เคยป่วยเป็นงูสวัดหรือไม่เคยเป็นก็สามารถฉีดได้
- ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงโรคงูสวัดและภาวะแทรกซ้อน
11. วัคซีนป้องกันงูสวัด (Zoster vaccine)
ไข้สมองอักเสบเจอี (JE) เป็นโรคไวรัสที่พบในพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะในผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับหมู หรือเดินทางไปพื้นที่ระบาด วัคซีนในไทยมีทั้งชนิดเชื้อตาย (3 เข็ม) และเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (2 เข็ม)
ควรฉีดสำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน โดยเฉพาะผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2533 หรือมีความเสี่ยงที่จะสัมผัสกับเชื้อโรค
กำหนดการรับวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
- 1-3 เข็ม ขึ้นกับชนิดวัคซีนและความเสี่ยงต่อโรค
กลุ่มเป้าหมายที่ควรฉีด
- ผู้ที่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่ระบาด เช่น พื้นที่ชนบท ทำนาเลี้ยงหมู
- ผู้ที่เดินทางไปพื้นที่ที่มีไข้สมองอักเสบเจอีระบาด
- ผู้ที่เกิดก่อนปี 2533 ซึ่งอาจไม่ได้รับวัคซีนตอนเด็ก