เชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีอาการตื่นเช้ามาแล้ว เสียงแหบ เสียงหาย อย่างแน่นอน โดยเฉพาะนักร้อง ที่มักประสบกับปัญหานี้บ่อย ๆ หากปล่อยไว้นานโดยไม่ได้รับการรักษา อาจแรงร้ายถึงขั้นกล่องเสียงอักเสบ ดังนั้น จึงควรเรียนรู้เกี่ยวกับอาการ และวิธีการป้องกันอาการเสียงแหบเสียงหาย
[embed-health-tool-bmi]
ทำความรู้จัก อาการเสียงแหบ เสียงหาย (Hoarseness)
อาการเสียงแหบ เสียงหาย (Hoarseness) โดยทั่วไปเกิดจากการที่เส้นเสียงเกิดการระคายเคืองหรือเกิดการอักเสบที่กล่องเสียง ส่งผลให้สายเส้นเสียงบวม เมื่อมีการเปล่งเสียงออกมากระทบกับอากาศ เสียงจึงแหบไปจากปกติ
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยมีอาการเสียงแหบเป็นระยะเวลานานกว่า 10 วัน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวินิจฉัยและทำการรักษา
อยู่ ๆ เสียงแหบ เสียงหาย เกิดจากสาเหตุอะไรกันนะ
อาการเสียงแหบ เสียงหายนั้น โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการอักเสบของกล่องเสียง รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
- สูบบุหรี่
- การติดเชื้อแบคทีเรีย
- มีการใช้เสียงมากจนเกินไป ใช้เสียงอย่างหนัก
- ไข้หวัด
- กรดไหลย้อนในกระเพาะอาหาร
- โรคภูมิแพ้
- ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
- ภาวะทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
- โรคไขข้ออักเสบ
- มะเร็งกล่องเสียง
เคล็ดลับป้องกันอาการเสียงแหบ เสียงหายด้วยตัวคุณเอง
อาการเสียงแหบ เสียงหาย สามารถรักษาได้โดยการพักเสียงหรือปรับเปลี่ยนวิธีใช้เสียง โดยเฉพาะในผู้ที่สูบบุหรี่ ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือสัมผัสกับควันบุหรี่ รวมถึงวิธีการป้องกันดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำมาก ๆ น้ำจะช่วยเจือจางเมือกในลำคอและเพิ่มความชุ่มชื่น
- พักเสียง หลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือตะโกน อย่ากระซิบเพราะจะทำให้เส้นเสียงตึงขึ้น
- หลีกเลี่ยงการล้างคอ เพราะจะยิ่งส่งผลให้เสียงสั่นผิดปกติและอาจทำให้เกิดอาการบวมได้
- รักษาสุขอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไข้หวัด
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ควันบุหรี่จะยิ่งส่งผลให้คอแห้ง และทำให้เส้นเสียงเกิดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงสารคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารรสจัดอาจทำให้กรดในกระเพาะอาหารลงไปในลำคอหรือหลอดอาหาร ซึ่งอาจนำไปสู่อาการเสียดท้องหรือโรคกรดไหลย้อน