การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย Omega 3 อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ เช่น อาจช่วยลดความดันโลหิต อาจช่วยลดไขมันไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) อาจช่วยชะลอการสะสมของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด อาจช่วยลดความเสี่ยงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง และอาจช่วยลดโอกาสในการเสียชีวิตอย่างกะทันหันในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งตีพิมพ์ในวารสาร European Review for Medical and Pharmacological Sciences พ.ศ. 2558 ศึกษาเกี่ยวกับกรดไขมันโอเมก้า 3 และโรคหลอดเลือดหัวใจ พบว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการสะสมของไขมันไม่ดีในหลอดเลือด ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และปัจจัยที่นำไปสู่การแข็งตัวของเลือด
นอกจากนี้ กรดไขมันโอเมก้า 3 ยังได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญว่าอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตอย่างกะทันหันที่เกิดจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงยังอาจใช้ในการรักษาภาวะไขมันในเลือดสูงและความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
-
อาจช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของเด็ก
Omega 3 มีความสำคัญต่อพัฒนาการทางสมองและระบบประสาทของเด็ก โดยเฉพาะในทารกแรกเกิด เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ร่างกายและระบบประสาทกำลังพัฒนา ทารกแรกเกิดจึงควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 จากน้ำนมแม่อย่างเพียงพอ เพื่อช่วยพัฒนาสารสื่อประสาท ความรู้ การจดจำและการมองเห็นที่ดี
โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Brain Research เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2551 ศึกษาเกี่ยวกับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในอาหารกับการพัฒนาของสมอง พบว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นสารอาหารที่ประกอบด้วยกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิกหรือดีเอชเอ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและการทำงานของเนื้อเยื่อประสาทในทารกแรกเกิด การบริโภคกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ไม่เพียงพออาจนำไปสู่ความบกพร่องทางระบบประสาท เช่น ความบกพร่องของการกำเนิดเส้นประสาทใหม่ (Neurogenesis) ความผิดปกติของสารสื่อประสาท ความบกพร่องทางการเรียนรู้และการมองเห็น
-
อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพผิว
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย