ไข้หวัด เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสผ่านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เช่น มีไข้ มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ แต่หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออาจรุนแรงถึงขั้นคุกคามชีวิตได้ ดังนั้น หากคนใกล้ตัวเป็นไข้หวัด การ ป้องกันหวัด อย่างถูกต้อง รวมถึงการดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ อาจช่วยหลีกเลี่ยงการเป็นไข้หวัด หรือบรรเทาอาการไข้หวัดที่เกิดขึ้นได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]
ป้องกันหวัด ทำได้อย่างไรบ้าง
วิธีการป้องกันหวัดอาจทำได้หลายวิธี ดังนี้
อยู่ให้ห่างจากผู้ที่เป็นหวัด
เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้หวัดจะอาศัยอยู่ในสารคัดหลั่งบริเวณทางเดินหายใจ ซึ่งจะล่องลอยไปในอากาศได้ถ้ามีการไอหรือจาม โดยจะล่องลอยไปในอากาศได้ไกลถึง 3 ฟุตก่อนจะตกลงพื้น หากผู้ที่เป็นไข้หวัดไอหรือจาม ก็อาจทำให้อากาศที่อยู่รอบตัวมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ได้ ดังนั้น จึงไม่ควรเข้าใกล้ผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดอย่างน้อย ๆ ประมาณ 3 ฟุต เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอากาศบริเวณนั้นที่อาจมีเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดปนเปื้อนอยู่ หรือจากจำเป็นต้องเข้าใกล้ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อผ่านทางเดินหายใจ
ไม่ควรนำมือไปสัมผัสกับใบหน้า
มือเป็นอวัยวะที่ใช้หยิบจับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว จึงอาจเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคต่าง ๆ ดังนั้น จึงไม่ควรใช้มือสัมผัสใบหน้ารวมทั้งบริเวณปากและจมูกด้วย อย่างไรก็ตาม การสัมผัสสิ่งที่ปนเปื้อนอาจไม่ก่อให้เกิดอาการไข้หวัด เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนี้จะไม่ทำให้ผิวเกิดการติดเชื้อ แต่ถ้าเชื้อไข้หวัดเข้าไปอยู่ในเยื่อเมือกในบริเวณปากหรือจมูก ก็อาจทำให้เป็นหวัดได้ และถ้าเชื้อไวรัสขึ้นมาเกาะอยู่บนผิวหน้าก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นหวัดได้ด้วย
ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้
เชื้อไวรัสไข้หวัดสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวมันเองถึง 24 ชั่วโมง ดังนั้น ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านก็อาจมีเชื้อไวรัสไข้หวัดปนเปื้อนได้ หากอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับผู้ที่เป็นหวัด
นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นหวัดประมาณร้อยละ 25 อาจไม่แสดงอาการ แต่อาจเป็นพาหะที่ทำให้เกิดการติดต่อได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมต้องทำความสะอาดที่ชาร์จมือถือ ที่จับประตูตู้เย็น รวมทั้งสวิตช์ปิดเปิดไฟ อย่างน้อย ๆ วันละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันการเป็นหวัด และป้องกันไม่ให้หวัดติดคนอื่น ๆ
ล้างมือให้สะอาด
ควรล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัสกับสิ่งของต่าง ๆ ที่ต้องใช้ร่วมกับผู้ที่เป็นหวัดทั้งภายในบ้านและออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นสวิตช์ปิดเปิดไฟ คีย์บอร์ด ตู้กดน้ำ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ โดยใช้น้ำกับสบู่ในการล้างมือ และต้องถูมือให้เกิดฟองอย่างน้อย ๆ 20 วินาที จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดและใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง
ในกรณีที่ไม่สามารถล้างมือด้วยน้ำสะอาดได้ สามารถใช้เจลทำความสะอาดมือแบบไม่ใช้น้ำก็ได้ แต่เจลล้างมือแบบไม่ต้องล้างออกต้องมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อยร้อยละ 60
ทำความสะอาดบ้านด้วตัวเอง
หากต้องอาศัยในบ้านเดียวกันกับผู้ที่เป็นหวัด อาจต้องทำงานบ้านบางอย่างด้วยตัวเอง เช่น ล้างถ้วยชาม เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่เชื้อไวรัสไข้หวัดจากผู้ป่วยจะมาเกาะอยู่บนถ้วยชาม แล้วเข้าสู่ปาก ดังนั้น ควรทำความสะอาดบ้านด้วตัวเอง และให้ผู้ป่วยนอนพัก เพื่อแยกทั้งตัวเองออกจากผู้ที่เป็นหวัด และป้องกันการติดเชื้อไวรัสหวัดจากผู้ป่วย
นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออาจช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจอย่างเชื้อไวรัสหวัดได้ด้วย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วควรนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมง/คืน
ลดความเครียด
ความเครียดอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ ซึ่งผู้ที่มีความเครียดทางจิตใจอาจทำให้ร่างกายสร้างสารภูมิต้านทานขึ้นมาโต้ตอบกับวัคซีนไข้หวัดได้น้อยลง ดังนั้น การจิตใจให้สบายอาจช่วยทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้นและอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้
ใส่ถุงมือยางหากต้องดูแลผู้ป่วยที่เป็นหวัด
เวลาที่อยู่ในสถานพยาบาล คุณหมอและพยาบาลมักจะใส่ถุงมือยางและหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อโรค ดังนั้น หากต้องดูแลผู้ป่วยที่เป็นหวัดก็ควรใช้มาตรการเดียวกัน เพื่อป้องกันหวัด ไม่ให้ติดกัน และควรล้างมือบ่อย ๆ