สถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ ทำให้หลาย ๆ คนต้องพากันกักตัวอยู่ที่บ้าน พวกผู้ใหญ่บางคนจะต้อง Work from home อยู่ที่บ้าน ในขณะที่เด็กๆ ก็จะต้องเรียนทางไกลผ่านทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน แต่เด็กหลายคนอาจจะเกิดความเครียดเมื่อต้องเรียนที่บ้าน ดังนั้น บทความนี้จะมาช่วยคุณผู้ปกครอง หาทางรับมือและช่วยสนับสนุนลูก เมื่อ ลูกเรียนที่บ้านในช่วงโควิด 19 เพื่อให้ลูกสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดความเครียดมากจนเกินไป
ความเครียดที่เกิดขึ้นเมื่อ ลูกเรียนที่บ้านในช่วงโควิด 19
หนึ่งปัญหาใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเมื่อลูกต้องเรียนที่บ้านนั้นก็คือ ความเครียด ความเครียดเหล่านี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ความเครียดจากการเรียนหนังสือเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความเครียดจากสภาวะรอบข้างที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความไม่คุ้นเคยต่อการเรียนที่บ้าน ความไม่พร้อมของอุปกรณ์การเรียนและวิธีการเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์ ตลอดไปจนถึง ความกังวลต่อโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้นอีกด้วย
การเรียนที่บ้าน เป็นสภาพแวดล้อมใหม่ที่เด็กหลายคนอาจจะไม่คุ้นชิน เนื่องจากตามปกติ เด็กไทยจะเข้ารับการศึกษาในโรงเรียน ได้พบปะกับเพื่อน ได้เรียนรู้อยู่ในห้องเรียนที่มีอุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างครบครัน รวมถึงได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโรงเรียนจัดให้อย่างเหมาะสม เป็นความคุ้นชินที่ทำให้เด็กรู้สึกสบายใจ เมื่อต้องเปลี่ยนมาเรียนที่บ้าน ในสถานการณ์ที่มีโรคระบาดกำลังแพร่กระจายอยู่ ทำให้ไม่สามารถออกไปนอกบ้าน ไปพบปะกับเพื่อน หรือออกไปเล่น ไปทำกิจกรรมอย่างสมวัยได้
ยิ่งบวกการต้องเรียนรู้ผ่านทางออนไลน์ อาจทำให้เกิดปัญหาในการสอนและการเรียนรู้ ด้วยทั้งเด็กและครู ต่างก็ใหม่กับการเรียนผ่านทางออนไลน์ไม่ต่างกัน การสอนผ่านทางออนไลน์อาจทำความเข้าใจได้ยากต่างจากการเรียนในห้องเรียน ไหนจะปัญหาเรื่องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพื่อที่จะเรียนออนไลน์ รวมไปจนถึงความไม่เข้าใจของผู้ใหญ่ที่บ้าน ที่อาจจะมารบกวนเวลาเรียนของเด็กเพราะเข้าใจว่าหยุดอยู่บ้าน ปัญหาเหล่านี้ ล้วนแต่นำมาซึ่งความเครียดต่อตัวเด็ก ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง และยังอาจส่งผลไปสู่สุขภาพของเด็กๆ ได้อีกด้วย
สิ่งที่พ่อแม่สามารถทำได้เพื่อช่วยสนับสนุนลูก
จัดเตรียมพื้นที่สำหรับใช้เป็นห้องเรียน
คุณควรจัดเตรียมจุดที่จะให้ลูกได้นั่งเรียนอย่างเป็นที่เป็นทาง รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนไว้ให้เรียบร้อย เสมือนเป็นห้องเรียนห้องหนึ่ง ควรเลือกจุดที่จะไม่มีเสียงรบกวน สงบ และเป็นส่วนตัว เพื่อให้ลูกสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่ารบกวนลูก
การที่ลูกเรียนอยู่ที่บ้านนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาหยุดอยู่บ้าน คุณไม่ควรไปรบกวนลูก เช่น ใช้ให้ไปซื้อของ เรียกมาคุยเล่น ในช่วงที่ลูกกำลังเรียนอยู่ เพราะจะเป็นการขัดจังหวะการเรียนของลูก และจะขัดจังหวะการสอนของคุณครูอีกด้วย
จัดตารางเวลาที่เหมาะสม
พยายามให้ลูกใช้ชีวิตตามตารางเวลา เหมือนกับช่วงที่ยังต้องไปเรียนที่โรงเรียนอยู่ เพื่อให้เด็กยังคงได้ใช้ชีวิตตามจังหวะช่วงเวลาที่คุ้นเคย เช่น กำหนดเวลาตื่นนอน อาบน้ำ กินข้าว ให้ชัดเจน รวมถึงตั้งเวลาไว้เลยว่าเมื่อไหร่ที่ลูกควรจะเตรียมพร้อมมาอยู่หน้าจอเตรียมพร้อมเรียน
อย่ากดดันลูก การเรียนที่บ้านเต็มไปด้วยความเครียดอยู่แล้ว คุณไม่ควรไปเพิ่มความกดดันให้กับลูก ทั้งในเรื่องเรียน และปัญหาอื่น ๆ ที่คุณอาจจะกำลังประสบอยู่
จัดสรรเวลาเล่น
หลังจากเรียนมาเหนื่อย ๆ แล้ว ควรมีเวลาให้ลูกได้พักผ่อน ทำในสิ่งที่ชอบ หรือใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัวได้อย่างเต็มที่
การที่ลูกต้องเรียนที่บ้านในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งกับตัวเด็ก ตัวผู้ปกครอง รวมถึงโรงเรียนด้วย แต่หากเราเตรียมความพร้อมได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยแบ่งเบาความเครียด และทำให้การเรียนที่บ้านของลูกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น